อดีตกรรมกรมีหัวคิดธุรกิจ เปลี่ยนชีวิตเป็นเจ้าของกิจการความงาม ปีเดียวสร้างรายได้ 20 ล้านบาท


ปัจจุบันธุรกิจเครื่องสำอางมีอัตราการเจริญเติบโต และขยายตัวขึ้นอย่างต่อเนื่องทุกปี ไม่ว่าเศรษฐกิจในประเทศไทยจะย่ำแย่แค่ไหนก็ตามแต่ เพราะผู้คนในยุคปัจจุบันหันมาสนใจเกี่ยวกับเรื่องความงาม ผิวพรรณ รวมทั้งการดูแลตัวเองมากขึ้น ส่งผลให้ผลิตภัณฑ์ความงามในท้องตลาดสามารถสร้างเม็ดเงินก้อนโตให้กับผู้ประกอบการของไทย จนสามารถพลิกฟื้นชีวิตอดีตกรรมกรสู่นักธุรกิจ 100 ล้านมาแล้ว

สิราภรณ์ สงสอน

คุณเป๊ก-สิราภรณ์ สงสอน กรรมการผู้จัดการบริษัท เอส ดับบลิว พี ผลิตและจัดจำหน่าย ผลิตภัณฑ์ความงาม ภายใต้แบรนด์ SWP เล่าให้ “เส้นทางเศรษฐีออนไลน์” ฟังว่า กว่าจะมาถึงวันนี้ได้ ต้องผ่านอุปสรรคชีวิตมาไม่น้อย สมัยเด็กใช้ชีวิตอย่างยากลำบาก เพราะพ่อกับพี่ชายเสียชีวิตตั้งแต่สมัยมัธยม ทำให้ภาระค่าใช้จ่ายต่างๆ รวมถึงค่าเล่าเรียน ตกอยู่ที่แม่เพียงลำพัง เพราะต้องเลี้ยงลูกๆ ทุกคนด้วยอาชีพกรรมกร กว่าจะได้เงินมาแต่ละบาทนั้น ทำงานหนักสายตัวแทบขาด ส่งผลให้เกิดความคิดว่าสักวันจะสร้างฐานะครอบครัวให้ดีขึ้น โดยมีแม่เป็นแรงบันดาลใจ

“สมัยเด็กทำงานทุกอย่าง เคยเป็นกรรมกรแบกหาม งานก่อสร้าง เช่าห้องอยู่ราคาถูกๆ หลังจากมีความคิดว่าอยากมีชีวิตที่ดี ก็เริ่มมองหาอาชีพที่สามารถทำเงินได้ เมื่อ 7 ปีที่แล้ว ธุรกิจออนไลน์ โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์ความงามได้รับความนิยม เลยลองเป็นตัวแทนขายเครื่องสำอาง สร้างรายได้ดีพอสมควร”

หลังจากคลุกคลีอยู่ในวงการธุรกิจความงาม คุณเป๊กเริ่มมองเห็นลู่ทางทำธุรกิจ ปี พ.ศ. 2555 เธอนำเงินเก็บ 30,000 บาท ไปจ้าง โรงงานผลิต สบู่ และครีม ภายใต้แบรนด์ SWP ซึ่งหลังจากวางจำหน่ายได้รับการตอบรับดีมาก ภายในปีเดียว มีรายได้หลักล้าน พลิกชีวิต จากคนไม่มีอะไรเลย กลายเป็นเศรษฐีเงินล้าน

“สินค้าล็อตแรกผลิตได้เพียง 1,000 กระปุก เพราะมีเงินเท่านั้น ปรากฏว่าสินค้าขายดีมาก สินค้าล็อตที่สองสั่งผลิต 10,000 กระปุก ขายเพียง 1 ปี ได้จับเงินล้าน ซื้อรถคันแรกให้ตัวเอง ซื้อรถให้แม่ แล้วก็ซื้อบ้าน 5.3 ล้านบาท ซื้อเงินสดเลยทุกอย่าง จากนั้นก็ซื้อ BMW Z4 อีกคัน แล้วก็ซื้อบ้านอีกหลังหนึ่งติดกัน ช่วงเวลา 2-3 ปีแรก มีเงินเก็บหลัก 10 ล้านบาท และมีทองกว่า 100 บาท”

คุณเป๊ก เล่าว่า  หลักในการทำธุรกิจ อย่างแรกสินค้าต้องดี ต้องไม่หลอกลวงผู้บริโภค เพราะ ตลอด 7 ปี ที่ผ่านมา สินค้าแบรนด์ SWP เป็นเครื่องพิสูจน์ว่า จริงใจกับลูกค้า ไม่ได้เปิดมาเเล้วปิด ลูกค้าต้องได้ใช้ของดีๆ คุ้มราคา สินค้าไม่เคยใช้คนดัง หรือใช้ดารามาช่วยทำการตลาด สามารถอยู่ได้ด้วยตัวเอง

ด้านแผนการตลาดปีนี้ คุณเป๊ก ระบุว่า เตรียมลุยการตลาดต่างประเทศ เริ่มในแถบอาเซียนก่อน ปัจจุบันมีตัวแทนจากประเทศอินเดียและพม่า ส่วนรายได้ตั้งเป้า 100 ล้านบาท เพราะปีที่แล้วยอดขาย 30 ล้านบาท

อย่างไรก็ตาม คุณเป๊ก ย้ำว่า ทิศทางค้าขายออนไลน์ ปีนี้ยังไปได้ เพราะคนส่วนใหญ่ยังคงติดโทรศัพท์ ฉะนั้น ธุรกิจออนไลน์เติบโตแน่นอน เพียงแต่อยู่ที่ว่า จะตามตลาดยังไงให้ทัน

“คนส่วนใหญ่ก่อนจะซื้ออะไร มักหาข้อมูลสินค้าเป็นยังไง เจ้าของแบรนด์เป็นยังไง ฉะนั้น ปีนี้ทางบริษัทไม่สามารถทำการตลาดแบบเงียบๆ ได้เหมือนในอดีต ต้องออกสื่อ สร้างความน่าเชื่อถือให้กับลูกค้าด้วย”

สำหรับแผนธุรกิจในอนาคต เจ้าของกิจการ มีแผนขยายไลน์การผลิต พร้อมกับสมัครเรียนต่อปริญญาโท ด้านวิทยาศาสตร์เครื่องสำอาง ที่มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง หวังจะนำความรู้มาเพิ่มเติมกิจการ พัฒนาสินค้าให้ดีขึ้น