เรื่องกินเรื่องใหญ่ เรื่องตายเรื่องเล็ก

แม้จะเป็นคำพูดที่แซวกันเล่นๆ แต่อย่างน้อยนี่ก็แสดงให้เห็นว่า คนเราให้ “ความสำคัญ” กับเรื่องกินมากมายขนาดไหน จึงไม่น่าแปลกใจ ที่ทุกวันนี้มีร้านอาหารเกิดใหม่ตลอดเวลา หากไม่ขายรสชาติความอร่อย ก็ขาย “ความแปลก” เข้าไว้ ซึ่งมีทั้ง “ความแปลกใหม่” และ “แปลกประหลาด” อย่างล่าสุดที่กรุงปารีส ฝรั่งเศส ก็มีร้านอาหารที่เคลมตัวเองว่า เป็นร้านอาหารเปลือยเจ้าแรกในกรุงปารีส!!!

ร้านอาหารที่ว่านี้มีชื่อว่า O’naturel เป็นร้านอาหารขนาด 20 โต๊ะ ตั้งอยู่บนถนนที่ไม่อึกทึกพลุกพล่านในกรุงปารีส โดยหน้าร้านมีเพียงผ้าม่านสีขาวปิดไว้ เพื่อป้องกันไม่ให้คนภายนอกมองเข้าไปเห็นความเป็นไปภายในร้าน

ส่วนใครที่อยากเข้าไปลองดูบรรยากาศ และลองชิมรสชาติอาหารร้านนี้ จะเดินดุ่ยๆ เข้าไปไม่ได้นะค้า เพราะที่นี่เขามีกติกาว่า ลูกค้าจะต้องโทรไปจอง หรือทำการบุ๊กกิ้งก่อน จึงจะมีโอกาสเข้าไปนั่งกินอาหารในร้านได้ แล้วเมื่อเข้าไปแล้ว ไม่ว่าใครจะร่ำรวยขนาดไหน ก็อยู่ในสภาพเท่าเทียมกันหมดชนิด “หมดเปลือก” เพราะทุกคนจะต้อง “แก้ผ้า” สวมได้เพียงรองเท้าแตะที่ทางร้านจัดเตรียมไว้ให้เท่านั้น ส่วนคุณสุภาพสตรี ทางร้านอนุญาตให้สวมรองเท้าส้นสูงของตัวเองได้ หากไม่อยากสวมรองเท้าแตะ

ไมค์ และ สตีแฟน ซาอาดา พี่น้องฝาแฝด ซึ่งเคยมีอาชีพเป็นพนักงานขายประกันภัย ก่อนจะหันมาหุ้นกันเปิดร้านอาหารนี้ เล่าว่า พวกเขาทั้งสอง ไม่ใช่คนที่ชอบเปลือยกาย แต่ที่สนใจทำธุรกิจร้านอาหารแนวนี้ ซึ่งเริ่มมีเปิดให้บริการในหลายประเทศแล้ว อาทิ ในกรุงลอนดอน อังกฤษ, กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น, นครเมลเบิร์น ประเทศออสเตรเลีย ก็เพราะมองเห็นโอกาสทำเงิน

ทั้งนี้ สำหรับกฎกติกาที่ลูกค้าต้องปฏิบัติตาม นอกจากต้องทำการจองก่อนล่วงหน้า จากนั้นเมื่อได้คิวแล้ว ก็ต้องเดินเข้าไปในห้องแต่งตัว เพื่อถอดเสื้อผ้าออกมาให้หมด แต่ลูกค้าผู้หญิงอนุญาตให้สวมรองเท้าส้นสูงที่สวมมาได้ ส่วนผู้ชายต้องสวมรองเท้าแตะที่ทางร้านเตรียมไว้ให้ จากนั้นก็ต้องฝากโทรศัพท์มือถือไว้ด้วย ซึ่งเป็นการป้องกันไม่ให้มีการ “แอบถ่ายรูป” ลูกค้าคนอื่นๆ ภายในร้าน

นอกจากนั้น สตีแฟน วัย 42 ยังบอกด้วยว่า ลูกค้าทุกคนจะได้รับการแจ้งให้ทราบด้วยว่า ถึงแม้จะเป็นร้านอาหารที่ออกแนวเซ็กซี่ ล่อแหลม แต่วัตถุประสงค์หนึ่งเดียวของร้าน O’naturel ก็คือ ร้านอาหาร และการรับประทานอาหารเท่านั้น ไม่ใช่พื้นที่ที่ใครจะหวังเข้ามาหากิ๊ก หรือเพื่อนเที่ยว เพื่อนนอน

“การแก้ผ้า ไม่ได้หมายถึงการมีเพศสัมพันธ์เสมอไป เราอาจจะต้องปฏิเสธลูกค้าบางคน หรืออธิบายให้พวกเขาเข้าใจว่า หากเขาคิดจะมามองหาคู่นอน เขาควรไปที่อื่น ไม่ใช่ที่นี่”

สตีแฟน เล่าว่า หลังจากถอดชุดเสื้อผ้าออกแล้ว ทันทีที่ลูกค้าเดินเข้ามาในห้องอาหาร “เราจะเดินพาพวกเขาไปที่โต๊ะ และเราจะทำให้พวกเขามั่นใจได้เลยว่า เขาจะไม่รู้สึกว่าทุกคนในห้องกำลังจ้องมองเขาอยู่ หน้าที่เราก็คือทำให้ลูกค้ารู้สึกผ่อนคลาย”

สตีแฟน ยังเล่าด้วยว่า เมื่อเดินเข้ามาในร้าน “ผ้า” ที่ลูกค้าจะได้เห็นมีเพียง ผ้าปูโต๊ะ  ผ้าเช็ดปาก และชุดเสื้อผ้าที่เขาและไมค์สวมอยู่เท่านั้น เพราะทั้งเขาและไมค์ ซึ่งเป็นทั้งเจ้าของ และพนักงานเสิร์ฟ จะให้บริการโดยสวมเสื้อผ้า โดยอ้างว่า นี่เป็นการปฏิบัติตามกฎหมายที่ระบุไว้ ที่ห้ามเจ้าของร้านแก้ผ้า