เผยแพร่ |
---|
ต่อยอด หม่าล่า เป็นเมนูฟิวชั่น เริ่มต้นจากซุ้มเล็กๆ ขายแค่วันละ 5 ชาม ทุกวันนี้มีรายได้นับแสนต่อเดือน
เปลี่ยนความชอบเป็นธุรกิจ คือแนวคิดของ “สุ่ย บะหมี่หม่าล่า” ร้านที่ขายเมนูฟิวชั่นในจังหวัดเชียงใหม่ ของ คุณเกด-ภัควลัญช์ จันทร์ศิริ วัย 32 ปี เจ้าของธุรกิจสื่อสิ่งพิมพ์ เธอได้นำความชอบมาสร้างธุรกิจ ตั้งต้นจากขายผงพริกหม่าล่าเป็นงานอดิเรก จากนั้นขยับขยายเปิดซุ้มเล็กๆ ขายแค่วันละ 5 ชาม สู่หน้าร้านดีไซน์โดดเด่นเหมือนนั่งกินหม่าล่าอยู่ประเทศจีน สร้างรายได้ไม่ธรรมดานับแสนต่อเดือน
ก่อนหน้านี้ คุณเกดเคยทำงานอยู่ในกรุงเทพฯ ซึ่งเหนื่อยมากกับการใช้ชีวิต จึงตัดสินใจกลับบ้านจังหวัดเชียงใหม่ และได้เปิดธุรกิจสื่อสิ่งพิมพ์ ผลิตป้ายไวนิล สติ๊กเกอร์ คัตเอาต์ โบรชัวร์ ฯลฯ
และเพราะชอบทานหม่าล่า คุณเกดได้ตะลอนกินหม่าล่าในจังหวัด ด้วยเป็นคนชอบทำอาหาร จึงเริ่มสังเกตรสชาติและลองซื้อวัตถุดิบมาฝึกทำเอง จากนั้นได้เริ่มทำผงพริกหม่าล่าขายผ่านเฟซบุ๊ก เป็นงานเสริมเล็กๆ คู่กับงานหลัก แต่สักพักก็เลิกขายเพราะไม่มีเวลา
“เลิกขายแต่ยังทำกินอยู่ ปรุงไปเรื่อย ทำเมนูหม่าล่าฟิวชั่นแบบที่ชอบ ที่ไม่ใช่ชาบูกับเสียบไม้ ทำบ่อยๆ เข้าก็คิดอยากเปิดร้าน ขายสัก 5 ชามก็พอแล้ว จุดเริ่มต้นง่ายๆ แค่นี้จริงๆ ค่ะ”
ปัจจุบัน สุ่ย บะหมี่หม่าล่า มีอายุครบ 1 ปี หลายคนคงอยากทราบที่มาของชื่อร้าน คุณเกดอธิบายว่า สุ่ย ในภาษาจีนแปลว่า น้ำ พ้องเสียงกับภาษาเหนือ แปลว่า ยุยง ส่งเสริม เช่น สุ่ยกันมากิน เหมือนชวนกันมากินอาหาร
“ร้านเราเริ่มจากซุ้มเล็กๆ เลยค่ะ โต๊ะ เก้าอี้ ต่อเอง ลงทุนไม่เกิน 10,000 บาท ตึกด้านหลังคือร้านกาแฟที่เกดเปิดไว้ ตกเย็นปิดร้านมาเปิดซุ้มหม่าล่าต่อเลย ขาย 5 ชามจริงๆ ค่ะ พอหอมปากหอมคอ มี 2 เมนู คือ บะหมี่หม่าล่าผัดแห้ง กับบะหมี่น้ำ”
ขายไปขายมาฟีดแบ็กดีขึ้นเรื่อยๆ คุณเกดตัดสินใจปิดร้านกาแฟมาลุยร้านอาหารเต็มตัว โดยคิดเมนูเพิ่ม พร้อมรีโนเวตร้านกาแฟเป็นร้านอาหารรองรับลูกค้า โดยดีไซน์ร้านให้อารมณ์เหมือนนั่งกินหม่าล่าอยู่ประเทศจีน จับนั่นผสมนี่ ออกมาเป็นอย่างที่เห็น
“รีโนเวตเพิ่มไป 40,000 บาท ทำทุกอย่างเอง และมีทุนเดิมจากร้านกาแฟไม่ต้องปรับอะไรมาก ช่วยเซฟคอสต์ได้เยอะ ร้านนี้หน้ากว้าง 2 เมตร ลึก 10 เมตร ด้านในมี 3 โต๊ะ ส่วนด้านนอกมี 3 โต๊ะค่ะ”
อยากที่บอกในตอนต้นว่า สุ่ย บะหมี่หม่าล่า ขายเมนูหม่าล่าฟิวชั่นหลากหลาย หากลูกค้าไม่รู้จะทานอะไร เจ้าของร้านแนะนำ บะหมี่หม่าล่าผัดแห้ง เมนูนี้ซิกเนเจอร์ประจำร้าน ทานแล้วเข้ารสกันมาก หอมกลิ่นหม่าล่า สั่งเผ็ดน้อยก็ได้ หรือถ้าไม่ทานเผ็ดจริงๆ แนะนำเมนู บะหมี่น้ำสาหร่ายดำ หอมน้ำมันงาและสาหร่าย เปรี้ยวปลายๆ และมีความเข้มข้นของน้ำซุป
นอกจากนี้ยังมี เมี่ยงหม่าล่ากระทะร้อน คุณเกดคิดเมนูนี้ เพราะอยากให้ลูกค้ารู้สึกว่ามีเมนูที่องค์ประกอบสวยจนอยากถ่ายรูป โดยพัฒนามาจากสามชั้นคั่วเกลือซึ่งช่วงหนึ่งมาแรงมาก โดยใช้สามชั้นสไลซ์บาง เสิร์ฟคู่กระทะร้อนให้ลูกค้าผัดทานเอง และได้เพิ่มเนื้อโคขุนเป็นทางเลือก ผัดแล้วมีกลิ่นหอมมาก
ราคาขาย บะหมี่หม่าล่าผัดแห้ง 69 บาท เมี่ยงหม่าล่ากระทะร้อน เริ่มต้น 139 บาท บะหมี่น้ำสาหร่ายดำ 69 บาท ส่วนของทานเล่น เช่น ซาลาเปา ลูกละ 39 บาท ฮะเก๋าทอด 69 บาท และหม่าล่าหม้อไฟ เริ่มต้น 169 บาท เป็นต้น
“กลุ่มลูกค้าที่มาอุดหนุน กลุ่มหลักคือ พนักงานออฟฟิศ และวัยรุ่น รายได้ต่อเดือนประมาณหลักแสนบาท จำนวนนี้เทียบกับขนาดร้านถือว่าอยู่ได้ค่ะ ” เจ้าของร้านแชร์ให้ฟัง
อย่างไรก็ตาม ใครที่อยากแวะไปทาน สุ่ย บะหมี่หม่าล่า ปัจจุบันได้ย้ายร้านจากสี่แยกข่วงสิงห์ มาอยู่ถนนช้างม่อย เรียบร้อยแล้ว ซึ่งการตกแต่งร้านยังคงเน้นสไตล์จีนเหมือนเดิม
“ย้ายร้าน เพราะที่เดิมมีข้อจำกัดเรื่องที่จอดรถ อีกทั้งการทำครัวจะได้สะดวกขึ้น เพราะร้านใหม่มีขนาดใหญ่และจอดรถได้สะดวกกว่าเดิม รองรับลูกค้าได้ประมาณ 7-10 โต๊ะ มีกลิ่นอายของวัฒนธรรมเพราะเป็นโซนตึกเก่าค่ะ น่าจะได้กลุ่มลูกค้าใหม่ๆ เพิ่มขึ้น” คุณเกด บอกอย่างนั้น
และว่า รอติดตามร้านใหม่ได้ที่เพจ สุ่ย บะหมี่หม่าล่า 水面条