“บะหมี่เขย่า” เมนูโปรดคุณแม่ สู่จ๊อบเสริมคุณลูก ขายดีเดือนละ 10,000 ก็ทำมาแล้ว

“บะหมี่เขย่า” เมนูโปรดคุณแม่ สู่จ๊อบเสริมคุณลูก ขายดีเดือนละ 10,000 ก็ทำมาแล้ว

แม้จะขายเมนูซ้ำๆ กับท้องตลาด แต่ถ้ารู้จักปรับให้แตกต่างก็สร้างยอดขายได้เหมือนกัน ลองมาดูไอเดียของ คุณภีม-โสธรา พึ่งสมบุญ เจ้าของร้าน Shake D Cup เชคดิคัพ วัย 22 ปี เธอนำบะหมี่แห้งเมนูโปรดของคุณแม่ มาปรับรูปแบบใหม่กลายเป็น บะหมี่เขย่า ขายราคาเริ่มต้นเพียงแก้วละ 25 บาท เชื่อไหมว่า เมนูนี้สร้างรายได้พีกเข้ากระเป๋า เดือนละ 10,000 บาท

คุณภีม เล่าให้เส้นทางเศรษฐีออนไลน์ฟังว่า ไอเดียบะหมี่เขย่าเกิดขึ้นตอนเรียนปี 4 ช่วงนั้นใกล้เรียนจบเลยอยากหารายได้เสริมเล็กๆ น้อยๆ ก่อนไปหางานประจำทำ ประกอบกับช่วงสิ้นปี 64 เธอและคุณแม่ได้ยินข่าวว่าจะมีตลาดนัดกลางคืนมาเปิดใกล้บ้าน จึงอยากหาอะไรมาขาย

“ตอนแรกแม่อยากขายลูกชิ้นยืนกิน แบบใส่แก้วทาน แต่มีคนทำเยอะแล้ว เลยเอาบะหมี่ที่แม่ชอบทานมาลองใส่แก้วดูบ้าง ปรับซอสให้ดูแตกต่างเข้ากันได้ดีกับบะหมี่แห้ง และตั้งชื่อแบรนด์เชคดิคัพ บะหมี่เขย่าขึ้นมาค่ะ” คุณภีม เล่าให้ฟัง

ซึ่งบะหมี่เขย่านั้น เรียกได้ว่าเป็นกิมมิกประจำร้าน “มันเป็นวิธีการเสนอสินค้าให้ลูกค้ารู้สึกสนุก มีกิมมิกก่อนทาน เพราะได้คลุกเคล้าซอสให้เข้ากับทุกอย่างในแก้วค่ะ” เจ้าของร้าน บอกอย่างนั้น

และว่า ปัจจุบันมีเมนูให้เลือกทาน ดังนี้

“เมนูหลักของร้านเรามี 4 รายการ คือ บะหมี่หมูซอสหมูแดง สำหรับคนที่ชอบรสชาติหวานๆ เค็มๆ บะหมี่หมูโบราณซอสต้มยำ บะหมี่ไก่กรอบซอสต้มยำ และเมนูที่เชคดิคัพอยากแนะนำคือ บะหมี่ไก่กรอบซอสเกาหลี ขายดีที่สุดในร้าน ถูกใจวัยรุ่น

หรือถ้าลูกค้าอยากสั่งหมูรวมไก่ เลือกเนื้อสัตว์ เลือกซอส รวมซอส อันนี้ก็ตามใจลูกค้าเลยค่ะ มี 2 ไซซ์ ให้เลือกซื้อ ราคาจับต้องได้ ไซซ์ธรรมดา 25 บาท ไซซ์จัมโบ้ 55 บาท แก้วนี้กินจุกๆ ปริมาณทุกอย่างคูณ 3 เท่า”

“นอกจากนี้ ยังมีเมนูพิเศษ เช่น ซีฟู้ดซอสเย็นตาโฟต้มยำสูตรคุณแม่ แต่ช่วงนี้ยังงดขายอยู่ค่ะ และเมนูทานเล่นส่วนใหญ่ที่ลูกค้าชอบซื้อพอๆ กับบะหมี่เลย คือ ไก่กรอบซอสเกาหลี ไก่กรอบราดชีส ไก่เขย่า เหลาเกี๊ยวไก่เกาหลี เหลาเกี๊ยวหมูต้มยำ เรามีซอสขายแยกด้วยนะคะ ซอสต้มยำ แกลลอน 1 ลิตร 240 บาท ซอสเกาหลี 290 บาท” คุณภีม แนะนำอย่างละเอียด

สำหรับเงินลงทุนเริ่มแรก คุณภีม บอกว่า ใช้งบราวๆ 30,000 บาท “เป็นค่าอุปกรณ์ขายหน้าร้าน ป้ายออกแบบเองแล้วสั่งพิมพ์ รวมๆ แล้วประมาณ 5,000 บาท แล้วก็แพ็กเกจจิ้ง สติ๊กเกอร์โลโก้ ตะเกียบ อุปกรณ์สำหรับครัว อีกประมาณ 5,000 บาท นอกนั้นเป็นค่าวัตถุดิบ ที่เราลองผิดลองถูกด้วย ค่าเช่าที่ และจิปาถะค่ะ

ซึ่งปัจจุบันไม่มีหน้าร้านแล้วค่ะ เพราะทำงานประจำ เลยขายบะหมี่เขย่าเป็นอาชีพเสริม ขายบนแพลตฟอร์มดีลิเวอรี่เกือบทุกเจ้า และอีกส่วนคือลูกค้าที่เขารู้จักบ้านเรา ก็จะแวะมาซื้อถึงบ้านเลย”

ลงทุนเสร็จแล้ว มาถึงขั้นตอนการทำ คุณภีม บอกว่า ไม่ยาก แต่เป็นสูตรเฉพาะและใช้ทริกที่ทำให้บะหมี่ไม่จับตัวเป็นก้อน “คร่าวๆ คือเริ่มจากการคัดสรรวัตถุดิบที่มีคุณภาพ ที่เราทานเองแล้วต้องเชื่อว่ามันอร่อย เพราะอยากให้ลูกค้ารู้สึกแบบนั้นเหมือนกัน

ต่อมาต้องจัดการบะหมี่ให้ดีเพื่อให้น้องอยู่ได้นาน เส้นเด้ง ไม่เละ เคล็ดลับส่วนนี้อยู่ที่การลวก หลังจากนั้นก็ใส่ท็อปปิ้งที่ต้องการและใส่ซอส ปิดฝา เมื่อจะกินก็ราดซอส แล้วเขย่าๆ ให้เข้ากัน โดยใช้ตะเกียบคีบทานได้เลยค่ะ”

ส่วนการทำการตลาด คุณภีมเลือกทำคอนเทนต์ใน TikTok เธอยอมรับตรงๆ กับเส้นทางเศรษฐีออนไลน์ว่า “เหนือความคาดหมายมาก แค่ต้องการเปิดตัวร้านเชคดิคัพลงในโซเชียลมีเดีย แต่ผลตอบรับดีเกินคาด

เราตั้งใจจะเล่าสตอรี่ของแบรนด์ให้ฟังว่า เกิดจากอะไร อยู่ที่ไหน ตั้งราคายังไง เหมือนเป็นการแชร์เรื่องราวและให้แรงบันดาลใจหลายๆ คน พอคลิป 2 เป็นไวรัล เลยตั้งใจทำการตลาดบน TikTok จริงจังเพื่อสร้างกลุ่มลูกค้าใหม่ๆ มีหลายคนอยากลอง สั่งข้ามจังหวัดก็มี

ยังไม่เคยซื้อโฆษณาเลยค่ะ ใช้แค่คอนเทนต์เข้าสู้ ต้องคิดและวางแผนว่าจะลงอะไร แชร์เรื่องแนวไหน ลูกค้าถึงจะจดจำตัวตนของเราได้” คุณภีม แชร์เทคนิคให้ฟังอย่างเข้าใจง่าย

ก่อนบอกเสริม หลังจากเป็นไวรัลแล้ว มีสื่อหลายๆ ที่มาขอสัมภาษณ์ ไปออกรายการและทีวีบางช่อง ยิ่งทำให้ร้านเป็นที่รู้จักเพิ่มขึ้น

สำหรับกลุ่มลูกค้าประจำ ส่วนใหญ่คือ วัยรุ่น อายุระหว่าง 15-35 ปี คุณภีม วิเคราะห์ว่า คงเป็นเพราะราคาเข้าถึงง่าย แปลกใหม่ แต่จริงๆ ก็สามารถทานได้ทุกเพศทุกวัย

“ฟีดแบ็กมีทั้งถูกใจและไม่ถูกใจ เราก็เก็บมาพัฒนา ปรับสูตรให้ลูกค้าทานได้ แต่ส่วนใหญ่ก็ไปในทางที่ดีนะคะ เขาชอบที่ร้านเราเส้นไม่เละ ส่วนรายได้ต่อเดือนเนื่องจากช่วงนี้เราทำงานประจำ เลยไม่ได้ลงโปรโมตบ่อย มีปิดร้านบ้าง รายได้จึงไม่ค่อยนิ่ง แต่ช่วงที่ร้านบูมมากๆ พีกๆ ของวัน แทบไม่ได้นั่ง ตกเดือนละ 6,000-10,000 บาทค่ะ” เจ้าของร้าน ทิ้งท้าย

สนใจอยากสั่งบะหมี่เขย่า แวะไปที่เพจ Shake D Cup เชคดิคัพ ได้เลย