“นกน้อยนำโชค” ไม้ประดับสวยงาม ของ ปรีชา ธรรมชูเชาวรัตน์ ที่นนทบุรี

“ต้นนกน้อยนำโชค” หรือ “ต้นนางกวักสาลิกาลิ้นทอง” เป็นชื่อของไม้ดอกไม้ประดับ ที่มีถิ่นกำเนิดอยู่ในแถบเอเชียจนถึงประเทศออสเตรเลีย มีลักษณะเป็นไม้อวบน้ำ ลำต้นสีเขียวอวบอ้วน มียางสีขาว ใบหนาอวบน้ำ สีเขียวเข้ม นอกจากนี้ จุดเด่นอีกอย่างของนกน้อยนำโชค คือ ดอกของมันจะมีลักษณะคล้ายกับนกตัวเล็กๆ ที่โผล่ออกมาจากใบประดับสีชมพูอมแดงคล้ายกลีบดอกไม้ จากลักษณะดังกล่าวทำให้มันถูกเรียกว่า “นกน้อยนำโชค”

นอกจากชื่อมงคลที่ถูกตั้งจากลักษณะเด่นแล้ว นกน้อยนำโชคยังถูกมองว่าเป็นต้นไม้สิริมงคล เนื่องจากมีความเชื่อว่าเมื่อปลูกแล้วจะช่วยเสริมในด้านโชคลาภ ค้าขายกิจการรุ่งเรือง นำความเป็นสิริมงคลมาสู่ตัวเองและครอบครัว ทั้งยังช่วยให้เงินทองไหลมาเทมาอีกด้วย

คุณปรีชา ธรรมชูเชาวรัตน์ มีสวนอยู่หมู่ที่ 2 ตำบลบางพลับ อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี เป็นเกษตรกรที่ทำการปลูกเลี้ยงต้นนกน้อยนำโชค โดยเน้นการขยายพันธุ์ส่งขายด้วยวิธีการเสียบยอด ซึ่งนับเป็นอาชีพที่สร้างรายได้ให้กับเขาได้เป็นอย่างดี

คุณปรีชา ธรรมชูเชาวรัตน์

จากหนุ่มเย็บผ้า สู่ผู้คร่ำหวอดวงการไม้ดอกไม้ประดับ

คุณปรีชา เล่าถึงการเริ่มต้นทำสวนดอกไม้ว่า เมื่อสมัยหนุ่มๆ นั้นเคยทำงานเป็นช่างเย็บเสื้อผ้าอยู่ระยะหนึ่ง ก่อนจะผันตัวมายึดอาชีพเลี้ยงเป็ดเพื่อส่งขายอยู่หลายสิบปี ต่อมาก็เริ่มมีความสนใจเกี่ยวกับปลูกต้นไม้การทำสวน โดยได้เริ่มต้นจากการปลูกไม้ดอกไม้ประดับ ซึ่งหลังจากวันที่ตัดสินใจทุ่มเททั้งแรงกายและแรงใจให้กับการทำสวน จนสามารถเป็นที่รู้จักและก้าวเข้ามาเป็นผู้คร่ำหวอดในวงการไม้ดอกไม้ประดับ จนถึงตอนนี้ก็ผ่านมาแล้วกว่า 20 ปี

ส่วนต้นนกน้อยนำโชคนั้น นอกจากจะเป็นไม้ดอกที่ปลูกง่ายแล้ว ยังมีลักษณะที่เด่นและไม่เหมือนใครอีกด้วย นอกจากนั้น พอเข้าช่วงหน้าแล้งสีก็จะเปลี่ยนเป็นสีแดง และจะเห็นเป็นสีแดงที่เข้มขึ้นเมื่อเข้าหน้าหนาว ต่างจากช่วงหน้าฝนที่สีของกลีบใบก็จะเป็นสีเขียวเข้มตามปกติ ซึ่งก็ถือเป็นเสน่ห์อีกอย่างหนึ่งของต้นนกน้อยนำโชคเลยทีเดียว ยิ่งหากปลูกเอาไว้เป็นจำนวนมากๆ หรือเป็นสวนก็จะยิ่งสวยงามขึ้นไปอีก

สวนนกน้อยของคุณปรีชา

“เหตุผลที่เลือกผันตัวเองมาปลูกไม้ดอกไม้ประดับนั้น ส่วนหนึ่งเพราะมีความสนใจและชื่นชอบอยู่แล้ว นอกจากนี้ ยังเป็นไม้ที่ปลูกและขยายพันธุ์ง่ายอีกด้วย ในช่วงแรกเลือกปลูกไม้ที่ดูแลง่ายและตายยาก อาทิ เฟื่องฟ้า หรือชวนชม เป็นต้น เนื่องจากไม่ต้องดูแลมากนัก ก่อนจะเริ่มหันมาปลูกลีลาวดี และตอนนี้ก็ทำสวนอินทผลัมด้วย ส่วนตอนนี้ก็ได้ปลูกต้นนกน้อยนำโชค อีกหนึ่งไม้ดอกที่กำลังได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย” คุณปรีชา เล่าถึงความเป็นมา

 

จุดเริ่มต้นการทำสวนนกน้อยนำโชค สู่การขยายพันธุ์เพื่อส่งขาย

หลังจากเริ่มสนใจเกี่ยวกับการปลูกและขยายพันธุ์นกน้อยนำโชคแล้ว ในระยะแรกคุณปรีชาตัดสินใจเริ่มต้นการปลูกด้วยการใช้เมล็ดพันธุ์ เนื่องจากเป็นวิธีที่ง่ายที่สุด ส่วนขั้นตอนการดูแลจะเน้นในเรื่องการให้ปุ๋ยและน้ำในปริมาณที่เหมาะสม โดยจะต้องให้ปุ๋ยและน้ำทุกๆ 15 วัน ทั้งยังต้องระมัดระวังเรื่องของการให้น้ำไม่ให้มีปริมาณมากเกินไป เพราะต้นนกน้อยจะสามารถเจริญเติบโตได้ดีในดินที่ได้รับน้ำในปริมาณพอเหมาะ อีกทั้งหากให้น้ำมากเกินไปยังจะทำให้รากฝอยตายอีกด้วย

ดอกที่คล้ายกับนกตัวเล็ก

การขยายพันธุ์ต้นนกน้อยนำโชคนั้นสามารถทำได้หลายวิธี ไม่ว่าจะเป็นการใช้เมล็ดหรือการปักชำ แต่การขยายพันธุ์โดยการเสียบยอดก็เป็นอีกหนึ่งวิธีที่คุณปรีชาเลือกใช้ เนื่องจากเป็นวิธีที่เหมาะกับการขยายพันธุ์ไม้จำนวนมากๆ เพื่อส่งขายในระยะเวลาที่จำกัด

“สำหรับการขยายพันธุ์โดยการเสียบยอดนั้น จะเลือกใช้ตอแสยก เนื่องจากเป็นไม้สกุลเดียวกัน โดยจะนำมาตัดตรงปลายให้มีลักษณะคล้ายปากฉลาม ต่อมานำกิ่งของต้นนกน้อยมาตัดก่อนเสียบลงไปในตอแสยกที่ถูกเตรียมเอาไว้แล้วพร้อมใช้พลาสติกใสหุ้มไว้ชั้นหนึ่ง และนำถุงพลาสติกคลุมปิดให้สนิทแล้วผูกเชือกให้แน่น เพื่อกันไม่ให้กิ่งของนกน้อยที่เสียบลงไปนั้นแห้ง และเพื่อให้กิ่งติดสนิทด้วย” คุณปรีชา กล่าว

 

การดูแลต้นนกน้อย หลังขยายพันธุ์

หลังจากเสียบกิ่งก็ให้ดูแลเรื่องการใส่ปุ๋ยและรดน้ำตามปกติ ส่วนกิ่งของต้นนกน้อยที่เสียบลงไปก็จะใช้เวลาประมาณ 15 วัน ถึงจะติด โดยจะใช้เวลาดูแลแค่ประมาณ 2 เดือน ก็จะโตเต็มที่และสามารถส่งออกขายได้ ดังนั้น จะเห็นได้ว่าการขยายพันธุ์โดยการเสียบยอดนั้นใช้เวลาน้อยกว่าการปลูกโดยใช้เมล็ด จึงเป็นวิธีที่ได้รับความนิยมมากในการขยายพันธุ์ เนื่องจากเป็นวิธีที่เหมาะกับการขยายพันธุ์ไม้จำนวนมากๆ เพื่อส่งขายในระยะเวลาที่จำกัด ทั้งยังสามารถใช้ได้กับไม้หลายประเภท ไม่จำกัดเพียงแค่ไม้ดอกไม้ประดับเท่านั้น

“ในเรื่องการดูแลต้นนกน้อยหลังจากขยายพันธุ์นั้น นอกจากจะต้องระมัดระวังเรื่องการให้ปุ๋ยและน้ำแล้ว อีกเรื่องหนึ่งที่ต้องให้ความสำคัญนเพิเศษเกก

เป็นพิเศษคือ เรื่องโรคและแมลง โดยส่วนใหญ่จะมีปัญหาในเรื่องเพลี้ยไฟ-ไรแดง เนื่องจากสามารถก่อให้เกิดผลเสียกับต้นไม้ได้ แต่ในช่วงนี้ก็มีเจอบ้างแต่ยังไม่เยอะ ทำให้ไม่มีปัญหามากนัก” คุณปรีชา อธิบายเพิ่ม

ตัดปลายตอแสยก เตรียมเสียบยอด

สวนไม่ได้มีแค่ “ต้นนกน้อย”

ส่วนการขายพันธุ์ไม้นั้น ราคาก็จะแตกต่างกันไปตามขนาดของไม้ เช่น ถ้าเป็นต้นขนาดใหญ่ประมาณ 11 นิ้ว ราคาก็จะอยู่ที่ 100 บาทขึ้นไป เป็นต้น ซึ่งโดยส่วนมากต้นนกน้อยนั้นจะถูกซื้อไปเพื่อเลี้ยงเป็นไม้ประดับ เนื่องจากความสวยงามและขนาดที่ไม่ใหญ่นัก อีกทั้งยังเป็นไม้ที่ปลูกง่ายอีกด้วย

นอกจากการปลูกและขยายพันธุ์ต้นนกน้อยแล้ว ที่สวนของคุณปรีชายังมีไม้ใบที่ปลูกและขยายพันธุ์ไว้อีกกว่า 50 ชนิด ทั้งยังมีไม้ดอกไม้ประดับอีกหลายสายพันธุ์ โดยจะเน้นการปลูกผสมผสานกันไป นอกจากนี้ ยังมีอินทผลัมที่ทำการเพาะเนื้อเยื่อ เพาะเมล็ดเอาไว้ด้วย

สำหรับผู้ที่สนใจเข้าเยี่ยมชม ซื้อพันธุ์ไม้ หรือต้องการข้อมูลเพิ่มเติมสามารถติดต่อได้ที่ คุณปรีชา ธรรมชูเชาวรัตน์ หมายเลขโทรศัพท์ (081) 309-6086