ผู้ช่วยเชฟ รับช่วงต่อร้านทุเรียน ใจดีช่วยคนไม่มีทุนแต่อยากขาย ยืนไลฟ์หน้าร้านก่อนได้

ผู้ช่วยเชฟ รับช่วงต่อร้านทุเรียน ใจดีช่วยคนไม่มีทุนแต่อยากขาย ยืนไลฟ์หน้าร้านก่อนได้

ปัจจุบันการทำ 2 งานควบคู่กันไป ไม่ใช่เรื่องแปลก บางคนอาจทำเพราะรายได้จากงานงานเดียว ไม่เพียงพอ หรือบางคนทำเพื่อช่วยดูแลธุรกิจของครอบครัวให้เดินต่อไป เช่นเรื่องราวของ คุณทศพล อุ่นสกุล อายุ 40 ปี ลูกเขยเจ้าของร้านทุเรียนวิกานดา เขาได้ช่วยแม่ยายขายทุเรียน ควบคู่ไปกับการทำงานประจำ คือ ผู้ช่วยเชฟที่โรงเรียนสอนทำอาหารนานาชาติ กระทั่งแม่มีอายุมากขึ้น จึงได้ส่งไม้ต่อให้ลูกชายคนนี้เข้ามาดูแลกิจการเต็มตัว 

คุณทศ เล่าให้ฟังว่า คุณแม่ถวิลคือรุ่นแรกที่บุกเบิกร้านทุเรียนวิกานดา โดยเริ่มต้นจำหน่ายมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2535 ถึงปัจจุบันนับเวลาได้ราวๆ 30 กว่าปี ซึ่งกว่าจะยืนหยัดมาได้ยาวนานเช่นนี้ คุณแม่ถวิลต้องผ่านทุกแรงทดสอบมามากมาย ไม่ใช่ว่าประสบความสำเร็จภายในชั่วข้ามคืน เพราะการทำธุรกิจต้องมีขาดทุนบ้าง ได้กำไรบ้างสลับกันไป 

“แม่ยายผมเปิดร้านขายทุเรียน ส่วนผมทำงานเป็นผู้ช่วยเชฟที่โรงเรียนสอนทำอาหารนานาชาติแห่งหนึ่งแถวสวนดุสิต แต่ก็มาช่วยท่านดูแลกิจการด้วย ผมทำงาน 2 งานควบคู่กันไปจนท่านเริ่มมีอายุมากขึ้นท่านก็อยากส่งต่อให้รุ่นลูกรับช่วงดูเเลกิจการ ผมจึงได้ลาออกจากอาชีพเชฟมาลุยขายทุเรียนเเบบเต็มตัว

ร้านเรามีทุเรียนขายทั้งปี และพยายามหาสายพันธุ์ใหม่ๆ มานำเสนอให้กับลูกค้า อย่างปีนี้มีทุเรียนสายพันธุ์หลงท่าใหม่ที่นำมาขาย มีลักษณะผลขนาดเล็ก แต่ละลูกจะมีน้ำหนักประมาณ 1-3 กิโลกรัม กลิ่นอ่อน เนื้อมีสีเหลืองเข้มสีสวย รสชาติหวานมันหอมอ่อนๆ

สำหรับราคาทุเรียนปีนี้เฉลี่ยเริ่มต้น หมอนทอง 120 บาท ชะนี 125 บาท ก้านยาว 150 บาท นกกระจิบ 100 บาท และหลงท่าใหม่ 140 บาท ราคาจะขึ้นอยู่กับขนาดและรูปทรงความสวยงามของลูกทุเรียนด้วย เพราะลูกค้าบางคนเลือกซื้อทุเรียนที่ภายนอกรูปทรงดูสวยไปเป็นของฝาก หรือบางคนไม่ได้สนใจเรื่องรูปทรงภายนอกก็จะซื้อแบบธรรมดา แต่เนื้อด้านในคุณภาพดีเหมือนกันทุกลูก

ทุเรียนที่ทางร้านนำมาจำหน่ายหลักๆ มาจากจังหวัดจันทบุรี สลับกับจังหวัดชุมพรบ้าง เเต่ถ้าเป็นช่วงทุเรียนทวาย (ทุเรียนนอกฤดูกาล) ที่ร้านจะรับมาจากภาคใต้เป็นส่วนใหญ่ มีล้งอยู่ 2 ที่ ทั้งจังหวัดจันทบุรี เเละจังหวัดชุมพร เราจะคัดเกรด คัดไซซ์ คัดรูปทรง ก่อนส่งตรงมาขาย”

เจ้าของร้านทุเรียนรุ่นสอง เล่าต่อว่า ด้วยทางร้านขายทุเรียนสดอย่างเดียว ทำให้ผลผลิตต่อปีมีจำนวนมาก จึงได้ระดมสมองกันภายในครอบครัว เพื่อพัฒนาและต่อยอดธุรกิจให้ดำเนินต่อไปได้ อีกทั้งเพื่อตอบโจทย์ผู้บริโภคให้ได้มากที่สุด รวมกึงการหาลูกค้าใหม่ๆ 

ด้วยอาชีพเดิมของตนเอง คือ ผู้ช่วยเชฟ ซึ่งมีทักษะด้านการทำอาหาร ประกอบกับมีความฝันอยากทำผลิตภัณฑ์ OTOP อยู่แล้ว จึงได้เกิดไอเดียรังสรรค์ผลิตภัณฑ์ใหม่ “ทุเรียนฟรีซดราย”

“ทุเรียนฟรีซดราย คือ การนำระบบฟรีซดรายมาแปรรูปทุเรียนที่ถูกคัดสรรจากทางร้าน ซึ่งจะเป็นกุญแจสำคัญในการรักษารสชาติ กลิ่น สีสัน และคุณค่าทางอาหารให้ใกล้เคียงกับทุเรียนสดของทางร้านมากที่สุด

อีกทั้งความกรอบที่ได้จากกระบวนการผลิต เราทำกันอยู่นาน ชิมกันเป็นปี จนได้ ทุเรียนฟรีซดราย แบรนด์วิกานดา ออกมาวางจำหน่าย ซึ่งสินค้าตัวนี้พกพาเป็นของขบเคี้ยวของคนชอบทุเรียนได้ทุกที่ทุกเวลา สะดวก สะอาด ซึ่งทางร้านเริ่มขายตั้งแต่ปีที่แล้ว ยอดขายก็ดีขึ้นเรื่อยๆ ตามลำดับ” คุณทศ แชร์ให้ฟัง

อย่างไรก็ดี จากการขายทุเรียน แม้จะมีรายได้สูงแต่คุณทศ บอกว่า ความจริงไม่ได้มากมายถ้าเทียบกับปริมาณทุเรียนที่สั่งมาขาย อย่างในช่วงพีกจะมีทุเรียนเข้ามาไม่ต่ำกว่า 10 ตันต่อวัน ซึ่งทั้ง 10 ตันก็ไม่ได้แปลว่าจะขายได้ราคาเดียวกันทั้งล็อต

“การขายทุเรียนเป็นเรื่องละเอียดอ่อน ทุเรียนเวลาสุก น้ำหนักจะลดลงมาก และต้องแม่นยำเรื่องเวลา ทุเรียนเราต้องทำให้สุกเสมอกันทั้งลูก และสุกเสมอกันทั้งล็อต อย่างที่ร้านเน้นคุณภาพ ลูกค้าปลายทางซื้อไปกินต้องอร่อย คนกินทุเรียนเขารู้ คุณภาพดีไม่ดี ยิ่งลูกค้าที่มารับทุเรียนที่ร้านไปขาย หลายคนเอาไปขายปลีกตามหมู่บ้านหรูๆ มีกำลังซื้อสูง ส่วนใหญ่เขาเลือกซื้อแต่ร้านประจำทั้งนั้น มีความลอยัลตี้สูง ยอมจ่ายแพงแต่ต้องได้กินของคุณภาพดี เพราะรสชาติมันต่างจริงๆ”

เปิดโอกาสให้คนอยากมีอาชีพ

แน่นอนว่าในช่วงฤดูทุเรียน ไม่ได้มีร้านขายทุเรียนเพียงเจ้าเดียว แต่ยังมีอีกจำนวนมากที่เปิดจำหน่าย ซึ่งแต่ละร้านล้วนมีจุดเด่นและความแตกต่างไม่เหมือนกัน อย่างจุดเด่นของร้านวิกานดา คงไม่ต้องพูดเรื่องคุณภาพสินค้า เพราะทางร้านคัดทุเรียนอย่างดีให้กับลูกค้าอยู่แล้ว จนมีฐานลูกค้าเหนียวแน่นถึงปัจจุบัน

แต่สิ่งที่ร้านอื่นยังไม่ทำและมีแค่ที่ร้านวิกานดาคือ การเปิดโอกาสให้เพื่อนร่วมอาชีพได้มีโอกาสในการค้าขาย

“พูดง่ายๆ ที่ร้านไม่ขายแข่งกับกลุ่มลูกค้าของเราเอง อย่าง 2-3 ปีนี้ ออนไลน์มาแรง ทางร้านจะไลฟ์ขายของก็ได้ แต่ไม่ทำ แต่เลือกที่จะเปิดโอกาสให้คนที่อยากขายมายืนไลฟ์ขายหน้าร้านได้เต็มที่ แถมยังสอนวิชาให้ด้วย ทั้งสอนเลือก สอนคัด สอนดู ผมมองว่าสิ่งนี้คือข้อดี ทางร้านก็ได้ยอดขายเพิ่ม คนมาไลฟ์ก็มีรายได้มีอาชีพ กลายเป็นน้ำพึ่งเรือเสือพึ่งป่ากันไป”

มือใหม่หัดขายเลือกยังไง ซื้อยังไงไปขาย ใช้ทุนเริ่มต้นกี่บาท

อย่างไรก็ตาม สำหรับมือใหม่ที่อยากเริ่มขาย แต่ยังไม่มีทุน ไม่ต้องกังวล คุณทศให้มายืนไลฟ์ขายหน้าร้านก่อนได้ ไม่ต้องลงทุน ไม่ต้องซื้อทุเรียนไปสต๊อกเอง หากไลฟ์แล้วมีออร์เดอร์สามารถแจ้งร้านได้ ต้องการไซซ์ไหนเกรดไหนแจ้งได้หมด 

เเละสำหรับพ่อค้าแม่ค้ามือใหม่ที่พอมีทุนอยากรับไปขายต่อเอาแบบง่ายๆ

1. ต้องหัดฟังเสียงตอนเคาะทุเรียน

2. ศึกษาเรื่อง Yield (ปริมาณวัตถุดิบที่ใช้ได้จริง) ให้เข้าใจ ทุเรียนยิ่งสุก น้ำหนักยิ่งเบา

3. ต้องมีการจัดเก็บที่ดี จะช่วยชะลอความสุกของทุเรียนได้ระดับหนึ่ง

4. ถ้ามั่นใจในเรื่องคุณภาพแล้ว ควรแกะเปลือกขายเพื่อเพิ่มรายรับ

5. ต้องดูต้นทุน รู้จักกลุ่มลูกค้าที่จะไปขาย

“ทั้งหมดนี้ ทางร้านยินดีสอน ไม่คิดค่าใช้จ่ายใดๆ เพราะอยากให้ทุกคนที่มีความตั้งใจ ได้มีอาชีพ ได้มีรายได้ไว้จุนเจือครอบครัว และที่สำคัญ ทุเรียนที่ร้านทุกลูกเรารับเคลม วิธีรับเคลมคือ ถ้าซื้อไปเป็นลูกๆ ให้กรีดตรงเปลือกเป็นรูปสามเหลี่ยมก่อนเพื่อดูสีดูเนื้อด้านใน ถ้าเนื้อขาวหรืออ่อนเอามาเคลมกับร้านได้เลย และยังมีบริการจัดส่งฟรีทั่วประเทศ เพียงสั่งขั้นต่ำ 100 กก. ด้วย” 

พิกัด : ร้านวิกานดา ตลาดสี่มุมเมือง โซนทุเรียนร้านริม ฝั่งอาคารพาณิชย์ เบอร์ติดต่อ 085-069-9988 (สามารถ Add Line ได้ตามนี้เลย) เฟซบุ๊ก : Vikanda Thai Fruits ทุเรียน คุณภาพ ตลาดสี่มุมเมือง