สาวบัญชีพลิกวิกฤต เปิดเพจ ทำเกษตรออนไลน์ ด้วยทุนหลักร้อย สู่รายได้เฉียดแสน

สาวบัญชีพลิกวิกฤต เปิดเพจ ทำเกษตรออนไลน์ ด้วยทุนหลักร้อย สู่รายได้เฉียดแสน

การแพร่ระบาดของโควิด-19 ส่งผลต่อการดำเนินชีวิตของผู้คนหลายด้าน อย่างหนึ่งที่เลี่ยงไม่ได้เลยคือการใช้ชีวิตอยู่บ้านมากขึ้น นี่จึงเป็นวิกฤตที่ไม่มีใครคาดคิดและเกิดผลย่ำแย่ แต่ทว่าบางคนกลับมองเห็นโอกาสในการเริ่มต้นทำธุรกิจ หนึ่งในนั้นคือ คุณเก้-สุกัญญา จันทร์หอม ที่ต่อยอดความชอบกินผักและปลูกกินเองอยู่แล้ว เปิดเพจเฟซบุ๊กหนูชอบกินผัก ทำเกษตรออนไลน์ ด้วยทุนแค่หลักร้อยจนมีรายได้เกือบแสนต่อเดือน

โอกาสจากวิกฤต ผุดธุรกิจสวนผัก

เจ้าของสวนในวัย 28 ปี เปรยว่า ตนเรียนจบบัญชีและเคยทำงานประจำมาก่อน แต่ไม่ชอบรูปแบบการทำงานเช่นนั้น อีกทั้งรายได้ไม่ตอบสนองต่อการใช้ชีวิต เธอจึงลาออก โดยก่อนหน้านั้นเธอยังเคยเป็นฟรีแลนซ์และไปขายของตามตลาดนัดมาบ้าง

ในช่วงวิกฤตโควิด-19 คุณเก้มองเห็นโอกาสจากการใช้ชีวิตของผู้คนที่เริ่มเบื่อบ้านและอยากหากิจกรรมอย่างอื่นทำ ประกอบกับเธอชอบกินผักและปลูกกินเองอยู่แล้วในพื้นที่ข้างบ้าน วันที่ 19 มีนาคม 2563 เธอจึงเปิดเพจเฟซบุ๊ก หนูชอบกินผัก ขึ้นมาเพื่อตอบสนองผู้คนเหล่านี้

“ก่อนปลูกผักกินเองต้องเพาะต้นกล้าก่อน ซึ่งเราพอรู้ว่าขั้นตอนการเพาะทำยังไงบ้าง จึงลองเพาะขายไปด้วย” คุณเก้เลยเริ่มต้นจากการขายต้นกล้าผักสลัดต้นละ 3 บาท เพื่อให้คนที่อยู่บ้านนำต้นกล้าไปลงดิน และ 25 วันต่อมาสามารถตัดผักสลัดกินได้ โดยใช้เวลาในการปลูกไม่ถึง 1 เดือน

 

แรกๆ มีปัญหาเกิดขึ้นบ้างเล็กน้อย ส่วนใหญ่คือปัญหาเรื่องการขนส่งที่ทำให้ต้นกล้าเสียหาย เจ้าของสวนรับผิดชอบทั้งหมดโดยการคืนเงินหรือส่งของไปให้ใหม่ เมื่อเริ่มเห็นปัญหาที่ควบคุมไม่ได้ จึงขยับขยายสินค้ามาเป็นชุดปลูกผักกับผักสด “พอเป็นชุดปลูกผัก เราต้องเริ่มทำสต๊อก เพราะไม่ค่อยมีใครทำชุดปลูกผัก ช่วงแรกเราเลยค่อนข้างขายดี” เธอว่าเช่นนั้น

การลงทุนในช่วงแรกใช้เงินน้อยมาก เนื่องจากคุณเก้ขายต้นกล้าผักสลัดแบบพรีออร์เดอร์ โดยรับเงินมาจากลูกค้าก่อนแล้วค่อยนำไปซื้อของ การลงทุนส่วนใหญ่จึงหมดไปกับการทำโฆษณาหรือแอดเฟซบุ๊ก ประมาณวันละ 100-300 บาท

“ต้นทุนชีวิตของเก้ไม่ได้มีเยอะ เราทำเองทุกอย่าง เริ่มจากศูนย์เลย ไม่มีใครซัพพอร์ต เริ่มต้นด้วยตัวเอง 100% เงินที่ลงทุนคือเงินเก็บ แต่มันไม่ได้ใช้เยอะ เรารับเงินลูกค้ามา เงินก็หมุนในธุรกิจ พอทำมาสักพักและเห็นว่าสามารถต่อยอดได้ วันที่จะลงทุนเพิ่มก็ค่อยว่ากัน” เธอกล่าว

ปัจจุบันคุณเก้มีรายได้เฉลี่ยต่อเดือน 60,000-90,000 บาท โดยมีรายได้หลักๆ มาจากต้นกล้าผัก ทั้งสลัด เคล และมะเขือเทศ รวมถึงอุปกรณ์ปลูกผัก เช่น เมล็ดพันธุ์ วัสดุเพาะ วัสดุปลูก เป็นต้น และอีกอย่างคือผักสดที่ไม่ได้ปลูกเยอะมาก เนื่องจากสวนของเธอเน้นทำกันเองในครอบครัว โดยจะจัดส่งเฉพาะคนที่อยู่ใกล้จังหวัดประจวบคีรีขันธ์แบบ 1 วันถึงอย่างพื้นที่ในภาคกลาง 

ต่อยอดอาชีพ สรรค์สร้างรายได้ จาก ‘เกษตรออนไลน์’

ด้วยความที่เจ้าของสวนเรียนจบบัญชี เธอจึงใช้ความรู้ที่มีมาประยุกต์ใช้กับการทำเกษตรออนไลน์ผ่านโซเชียลมีเดียทุกช่องทาง โดยแพลตฟอร์มหลักคือเพจเฟซบุ๊ก ส่วน TikTok มีไว้ทำคอนเทนต์เพื่อให้คนรู้จัก หนูชอบกินผัก มากขึ้น “พอคนดูเยอะ เขาก็อยากจะทำตาม เลยหาช่องทางติดต่อมาที่เพจ เหมือนเป็นการทำให้คนอื่นมองเห็นเราเพิ่มขึ้น โดยไม่ต้องลงทุนเงิน แต่ต้องทำเรื่องของคอนเทนต์แทน” คุณเก้ เสริม

อีกทั้งยังมียูทูบไว้ลงคลิปให้ลูกค้าดู ซึ่งเป็นช่องทางให้ความรู้ต่างๆ เกี่ยวกับการปลูกผัก รวมไปถึงช้อปปี้สำหรับลงขายสินค้า เรียกได้ว่าเป็นการทำเกษตรออนไลน์ที่ก้าวทันโลก ทันสมัย และสามารถขยายฐานลูกค้าได้มากยิ่งขึ้น

“หลังจากทำเพจมา 2 ปีกว่า แล้วมีผู้ติดตามประมาณ 30,000 กว่า เราเริ่มเป็นที่รู้จัก เก้ยังสามารถไปรับงานวิทยากรหรือเป็นที่ปรึกษาเรื่องการตลาดได้ และเพจก็รับสปอนเซอร์ได้ด้วย โดยเป็นรายได้ที่แตกออกมาอีกจากงานเดิมของเรา” เจ้าของสวน แชร์ให้ฟังถึงการต่อยอดอาชีพที่นอกเหนือจากการเป็นเกษตรกร

จุดเด่นของ หนูชอบกินผัก คือ เป็นผักสลัดอินทรีย์ ซึ่งคุณเก้เน้นเรื่องความปลอดภัย ปลอดสารพิษ ความสด และสะอาด ส่วนอุปกรณ์ปลูกผักก็คัดสรรแต่ของดีมีคุณภาพ ทั้งนี้ หากซื้อชุดปลูกผักไป แต่ไม่มีความรู้เรื่องการปลูกผัก หนูชอบกินผัก ก็มีบริการหลังการขายอีก 45 วัน โดยจะดูแลตลอดตั้งแต่เริ่มปลูกไปจนถึงการเก็บเกี่ยวผลผลิต

นอกจากนี้ ลูกค้าที่อยากปลูกผักสลัดขาย คุณเก้ก็พร้อมให้คำแนะนำในเรื่องการตลาด แพ็กเกจจิ้ง และเรื่องอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับการปลูกผัก โดยจะแชร์ความรู้ต่างๆ ลงในเพจเฟซบุ๊ก เธอบอกว่า “ตั้งแต่ปลูกจนถึงขายสามารถปรึกษาได้ เพราะเก้เป็นคนปลูกผักที่จบบัญชีมา เราเลยค่อนข้างให้คำแนะนำได้ตั้งแต่เริ่มต้นจนถึงสุดทาง” แต่ถ้าหากใครที่อยากปรึกษาเป็นรายบุคคลและลงลึกมากกว่านั้นต้องเสียค่าใช้จ่ายชั่วโมงละ 1,000 บาท

เจ้าของสวน เล่าอีกว่า “ทำมา 2 ปี เราขายอุปกรณ์ปลูกผัก จากที่ขายเป็นชุดเล็กๆ ก็มีหลายเจ้าเอาไปปลูกจนเปิดสวนของตัวเอง แล้วขยายเป็นสวนใหญ่ๆ จากตอนแรกเขาทำแก้เบื่อ พอเริ่มเห็นโอกาสเลยขยายมาเรื่อยๆ จนบางคนสวนใหญ่กว่าของเก้อีก” จะเห็นว่าอุปกรณ์ปลูกผักของ หนูชอบกินผัก สามารถสร้างอาชีพและรายได้ให้กับคนอื่นอีกด้วยเช่นกัน

‘หนูชอบกินผัก’ เร็วๆ นี้กับการวางแผนอนาคต

แต่เดิม หนูชอบกินผัก ตั้งอยู่ที่บ้านคุณเก้ในอำเภอกุย จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ขณะนี้เธอเริ่มขยายสาขามาที่ อำเภอบางสะพาน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์แล้ว โดยมีแผนจะทำเป็นสวนเชิงท่องเที่ยว เป็นฟาร์มแอนด์คาเฟ่ มีที่พักสำหรับเกษตรกรคนอื่นๆ รวมไปถึงอาจมีจัดคอร์สแนะนำสำหรับวัยรุ่น เด็กจบใหม่ หรือคนที่อยากทำเกษตร หากใครที่สนใจสามารถเดินทางเข้ามาศึกษาดูงานได้ที่สาขาอำเภอบางสะพาน ซึ่งจะเปิดให้บริการในเร็วๆ นี้

สุดท้ายนี้ คุณเก้ ฝากไว้ว่า “การทำเกษตรไม่ได้ใช้เงินลงทุนเยอะ มันอยู่ที่การวางแผนมากกว่า เราต้องรู้ว่าจะขายใครและขายอะไร ปัญหาอุปสรรคมีอะไรบ้าง เรื่องของโอกาสและวิกฤต ต้องดูให้ครบ สวนของเก้ที่เดินหน้ามาได้ 2 ปีกว่า เพราะเก้วางแผนเป็นโมเดลธุรกิจไว้เลย ขนาดทำเกษตรนะ เมื่อวางแผนไว้แล้ว ไม่ว่าจะเจอปัญหาอะไร เราก็สามารถรับมือกับมันได้”

และเธอทิ้งท้ายถึงเด็กจบใหม่หลายๆ คนว่า “ถ้าวางแผนดีแล้วและไม่ได้เดือดร้อนอะไรมาก อยากให้ลงมือทำเลย จะได้รู้ด้วยว่าจะเจออะไร ถ้าเราไม่ทำก็ไม่มีทางรู้ เพราะเก้เคยเป็นมาก่อน เคยเรียนจบมาและยังไม่รู้ว่าจะทำอะไรยังไง แต่ที่รู้ๆ คืออยากรวย เราก็ต้องทำในสิ่งที่มันสามารถตอบสนองความต้องการของเราได้”

หากใครที่สนใจปลูกผักสลัดสามารถติดต่อได้ที่เพจเฟซบุ๊ก หนูชอบกินผัก หรือ โทร. 096-249-9467 หรือติดตามได้ที่ TikTok : noochopginpak และ Youtube : หนูชอบกินผัก 2020