ไม่ทิ้งเวลาสูญเปล่า เจ๊จง ไลฟ์ขายของ ไม่สนกำไร เพราะทำแล้วมีความสุข

ไม่ทิ้งเวลาสูญเปล่า เจ๊จง ไลฟ์ขายของ ไม่สนกำไร เพราะทำแล้วมีความสุข
ไม่ทิ้งเวลาสูญเปล่า เจ๊จง ไลฟ์ขายของ ไม่สนกำไร เพราะทำแล้วมีความสุข

ไม่ทิ้งเวลาสูญเปล่า เจ๊จง ไลฟ์ขายของ ไม่สนกำไร เพราะทำแล้วมีความสุข

วันที่ 25 ส.ค. 2564 เจ๊จง-คุณจงใจ กิจแสวง เจ้าของร้านหมูทอดเจ๊จง ร่วมแชร์ประสบการณ์บนเวทีสัมมนา “Move On ฝ่าวิกฤตโควิด เศรษฐกิจต้องเดินหน้า” ว่า ปิดร้านไปนานหนึ่งเดือนเพราะป่วยโควิด กลับมาเปิดอีกครั้งจึงทำอาหารจัดเต็ม แต่ปรากฏว่าไม่มีลูกค้า ซึ่งไม่เคยเจอแบบนี้ จำได้ว่าขายได้ 20% ตอนนั้นบอกลูกน้องว่าไม่เป็นไรให้เชื่อใจ จึงเริ่มใช้วิธีการไลฟ์คุยกับลูกค้า เพราะมีลูกค้ากลัวเนื่องจากเคยติดโควิดมา จึงอยากจะบอกว่าอย่ากลัวคนติดโควิดเลย กลัวได้แต่อย่ารังเกียจ อยากให้ใช้สติ ก็อาศัยพูดทุกวันจนลูกค้าเริ่มมา และมีผู้ใหญ่ใจดีแนะนำให้ขายเอากำไรน้อยแค่บาทกว่าๆ ให้พอมีเงินมาเลี้ยงลูกน้องเพื่อให้มีคนมาสั่งไปบริจาค ก็เริ่มมีคนไปสั่งบริจาค ทำให้พออยู่ได้ 

“สถานการณ์ตอนนี้ ถือว่าโอเคในระดับหนึ่ง อย่างน้อยยังมีรายได้ให้ลูกน้องโดยที่ไม่ควักเนื้อ ขายของไม่จำเป็นต้องมีกำไร” เจ๊จง เล่า

ก่อนเล่าย้อนให้ฟังถึงจุดเริ่มต้น ตนเองเป็นหนี้ และประกอบอาชีพขายข้าวแกงบุฟเฟ่ต์ กว่าจะได้นอนราวสองทุ่ม จึงไม่อยากปล่อยเวลาให้สูญเปล่า ด้วยความบังเอิญไปซื้อหมูทอดกล่องละ 10 บาทให้ลูกกิน ซึ่งให้หมูน้อยมาก จึงบอกกับลูกว่าจะขายให้ดู วันรุ่งขึ้นจึงลงมือทำทันที

วันแรกซื้อหมู 8 กิโล โดยไม่รู้ว่าจะขายได้หรือไม่ เพราะมีทุนแค่นี้ และบอกลูกค้าว่ามีเมนูข้าวหมูทอดขาย ตอนนั้นทำทุกอย่างคนเดียว ขายราคา 10 บาท ลองปรับสูตรเป็นหมูสามชั้น เพราะไม่อยากเหมือนร้านที่ซื้อให้ลูกกิน จากนั้นค่อยๆ เพิ่มขึ้นจาก 20 กิโล เป็น 30 กิโล

ไม่ทิ้งเวลาสูญเปล่า เจ๊จง ไลฟ์ขายของ ไม่สนกำไร เพราะทำแล้วมีความสุข
ไม่ทิ้งเวลาสูญเปล่า เจ๊จง ไลฟ์ขายของ ไม่สนกำไร เพราะทำแล้วมีความสุข

และเล่าต่อถึงกลยุทธ์กล้วยน้ำว้าของหวานประจำร้านว่า เกิดขึ้นเพราะเห็นแม่ค้าขายกล้วยเต็มแผง จึงอยากช่วย โดยซื้อมาหนึ่งหวี คิดว่ากินไม่หมด เลยแบ่งให้ลูกค้า จนตอนหลังลูกค้าถามหากล้วย กลายเป็นวัฒนธรรมของร้าน ส่วนเรื่องให้ผักฟรี มีวันนึงไปเฝ้าแฟนที่โรงพยาบาลเอกชน คนเยอะจนไม่มีที่นั่ง เลยคิดเป็นห่วงสุขภาพลูกค้าเพราะมีแต่หมูไม่มีผัก เลยไปซื้อผักจากแม่ค้าให้ลูกค้ากินฟรี โดยซื้อมาถูกๆ หรือก็ได้มาฟรีๆ เพราะแม่ค้ารู้ว่าเอามาให้ลูกค้ากินฟรี 

อย่างไรก็ตาม ในช่วงหนึ่งของบทสนทนา เจ๊จงอัพเดตการขายของในร้านให้ฟังว่า ตอนนี้มีไลฟ์ขายของ เพราะค่าใช้จ่ายยังเท่าเดิม มีเวลาเหลือก่อนนอนอีก 2 ชั่วโมง เห็นคนอื่นไลฟ์เลยคิดได้ว่าต้องทำ เพราะมีเพจอยู่แล้ว โทรคุยกับลูกทันทีให้ดูเรื่องการไลฟ์ แล้วหาของมาลง ขายดีซื้อกันสนุก เหมือนมีเพื่อนคุย กลายเป็นว่าการไลฟ์ขายของเรื่องเงินไม่สำคัญ เพราะมีความสุขที่ได้คุย บางทีขายได้ไม่กี่ตังค์แต่ก็อยากขาย เพราะอยากคุย จนลูกห้ามบอกให้ไลฟ์วันเว้นวัน  

ท้ายนี้ ถามถึงเคล็ดลับความสำเร็จ เจ๊จง บอกว่า ยังใช้คำว่าสำเร็จไม่ได้ แต่ที่มีทุกวันนี้เพราะขยัน ถ้าปวดขาก็เอาเก้าอี้มานั่ง เคยเดินขึ้นบ้านสาวราวบันไดเพราะหมดแรง แต่เช้ามาก็หาย

“ไม่ได้มีคาถาอะไร แค่ขยัน อดทน ซื่อสัตย์ ทำมันเข้าไป เห็นคนท้อเยอะมาก เจ๊เองก็ท้อ ท้อแล้วนอนก็ไม่ได้อะไร วันนี้ขายได้ 5 บาท พรุ่งนี้ได้ 10 บาท วันต่อไปต้องได้ 15 บาท ลุกขึ้นสู้ ยังไงก็รอด” เจ๊จง ทิ้งท้าย