“หอมปลาเผา” ยุคใหม่ โปรโมตออนไลน์-ใส่ความโมเดิร์น เจาะกลุ่มวัยรุ่น-ต่างชาติ

แม้เคยอยู่ในกระแสมาตั้งแต่เริ่มต้น แต่ระยะหลังต้องยอมรับว่ามีช่วง“ขาลง” บ้าง ทางผู้บริหาร “รุ่นลูก” จบใหม่ จึงขอเข้ามาดูแลรับช่วงต่อจาก “รุ่นแม่” แบบเต็มตัว เรื่องราวเกี่ยวกับร้านอาหาร “หอมปลาเผา” รัชดาฯ ซอย 18 นี้มี คุณเต๋า–ธนภูมิ จูงพล อายุ 24 ปีเศษ ผู้บริหารกิจการเจ้าของเรื่องราวดังกล่าว เป็นผู้ถ่ายทอดข้อมูล

เริ่มให้ฟัง ตัวเขาจบการศึกษาระดับปริญญาตรี จากคณะนิเทศศาสตร์ สาขาประชาสัมพันธ์ มหาวิทยาลัยกรุงเทพ เคยค้าขายออนไลน์มาตั้งแต่สมัยเรียน ก่อนหน้านี้เข้ามาช่วยงานที่ร้านอาหาร “หอมปลาเผา”      ของคุณแม่ “นันณภัส จูงพล” บ้าง แต่ไม่ได้รับผิดชอบอะไรเป็นพิเศษ พอเรียนจบจึงได้เข้าไปช่วยแบบเต็มตัว

“คุณพ่อเสียตั้งแต่ผมยังอยู่ในท้อง คุณแม่เป็นคนดูแลพวกเราสามคนพี่น้องมาตลอด เช้าไปทำงานบริษัทแถวสีลม ตกเย็นกลับมาหรือช่วงวันหยุดจะต้องทำอาหารอร่อยๆ ให้ลูกทาน เรียกว่าเป็นเวิร์กกิ้ง วูแมน เต็มตัวเลยครับ” คุณเต๋า เล่าก่อนยิ้มกว้าง

และว่า กระทั่งเมื่อราวสี่ปีที่แล้ว คุณแม่คิดอยากเปิดร้านอาหารงานที่ตัวเองรัก เพื่อหารายได้เสริมอีกทาง จึงเริ่มมองหาทำเล กระทั่งมาลงตัวที่รัชดาฯ ซอย 18 ก่อนจะแบ่งหน้าที่กันในครอบครัว โดยคุณแม่ รับผิดชอบเรื่องงานครัว เป็นคนคิดสูตรการปรุงอาหารทั้งหมด ส่วนพี่ชายคนโต เข้ามาช่วยดูแลด้านการตลาด

“หอมปลาเผา เปิดตัวเมื่อสี่ปีที่แล้ว ใช้เงินลงทุนประมาณ 7 ล้านบาท ช่วงสองปีแรก ร้านบูมมาก แต่สองปีหลังยอมรับว่ากระแสตกไป พอผมเรียนจบแล้วเข้ามาช่วยงานที่ร้านจึงต้องมาคิดกันว่าจะไปยังไงต่อ” คุณเต๋า เผยให้ฟังอย่างนั้น

ก่อนเล่าอีกว่า “งานแรก” ในร้าน ที่เขาเข้ามา “ปรับปรุงใหม่” นั้นได้แก่ งานด้านบริหารบุคคล ซึ่งแต่เดิม คุณแม่ของเขาดูแลพนักงาน 30 ชีวิต เหมือนแม่ดูแลลูก กฎ-กติกา ไม่มี ใครอยากหยุด อยากลา ทำได้ตามสะดวก เขาเลยต้องเข้ามาตั้งกฎใหม่ให้เป็นไปในรูปแบบของธุรกิจมากขึ้น

“เมื่อจัดระบบบริหารคนได้ลงตัวแล้ว ค่อยหันมาลงรายละเอียดเรื่องต้นทุนวัตถุดิบ เพราะช่วงคุณแม่คุมร้าน  ท่านขายด้วยความสุข ขายด้วยใจ อยากแค่ขายของอร่อยให้ลูกค้า เลยไม่ค่อยสนใจว่าจะขาดทุนกำไรกี่มากน้อย” คุณเต๋า เล่า

และว่าจากนั้น จึงค่อยหันมาดู เรื่องการประชาสัมพันธ์ร้านทั้งทางออนไลน์และออฟไลน์

“ทุกวันนี้เป็นโลกออนไลน์  ร้านเราจึงต้องเข้าถึงสื่อออนไลน์ให้ได้ แค่ถ่ายรูปธรรมดาอาจไม่ดึงดูดพอ ต้องทำออกมาป็นวิดีโอคลิป เริ่มตั้งแต่ขั้นตอนการทำวัตถุดิบ ลงเพจร้าน แล้วก็โฆษณากับเฟซบุ๊ก ซึ่งทำให้เข้าถึงลูกค้าได้มากขึ้นจริงๆ มีลูกค้าขับรถมาทานจากต่างจังหวัดหลายราย และช่วงศุกร์-เสาร์ โต๊ะเต็มตลอด หากไม่อยากรอคิวอาจต้องโทรมาจองกันก่อน” คุณเต๋า บอกอย่างนั้น

นอกจากนั้นแล้วยังมีการคิดค้น “เมนูใหม่” เพราะแต่เดิมสไตล์ร้านเป็นแบบไทย-อีสาน ดั้งเดิม จึงมีลูกค้าหลักเป็นกลุ่มครอบครัวและผู้สูงอายุ ฉะนั้น หากอยากขยายฐานลูกค้า ให้ครอบคลุมไปถึงลูกค้าวัยรุ่นอายุยี่สิบขึ้นไป และนักท่องเที่ยวต่างชาติ ที่นิยมมาท่องเที่ยวย่านรัชดาฯ กันมากขึ้น จึงจำเป็นต้องมีเมนูดึงดูดมากกว่าที่เคยทำมา

“เมนูใหม่ ที่ทั้งปรุงและตกแต่งใหม่ ทำให้วัยรุ่นมองแล้วดูน่ากินและไม่เชยจนเกินไป เช่น ส้มตำมันแตก คือ นำกุ้งแม่น้ำเผามาเสิร์ฟคู่กับส้มตำทอด ซึ่งยังไม่ค่อยมีคนทำ แต่ร้านเรามี นอกจากนี้ยังมีอาหารทะเลหลายชนิด ที่ได้รับความนิยมมากน่าจะเป็น ปูไข่ดองน้ำปลา เสิร์ฟกับน้ำจิ้มซีฟู้ดรสชาติจัดจ้านไม่เป็นรองใคร” คุณเต๋า บอก

ถามถึงเป้าหมายในธุรกิจ เจ้าของธุรกิจไฟแรงวัยยี่สิบเศษ เผยว่า ไม่คิดขายแฟรนไชส์ แต่ตั้งเป้าจะขยายสาขาด้วยตัวเองให้ได้ 5 สาขา ภายในสามปีนี้ โดยทำเลทองที่มองไว้ ได้แก่ ซอยทองหล่อ และซอยอารีย์

ร้าน “หอมปลาเผา” รัชดาฯ ซอย 18 แยก 20 มิถุนาฯ เปิดทุกวัน จันทร์-ศุกร์ 16.00-23.30 น. เสาร์-อาทิตย์  11.00-23.30 น. นอกจากจะมีเมนูอร่อยๆ คอยอยู่ที่ร้านแล้ว ยังมีบริการดีลิเวอรี่ส่งผ่าน “ไลน์แมน” อีกด้วย

สนใจสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ โทรศัพท์ 089-893-2735 หรือ Facebook/หอมปลาเผา รัชดา 18