โลกเปลี่ยน ลุงรงค์ปรับ ต่อยอดขายลูกชิ้นหมูหัน วันแรกยอดพุ่ง 5 ชม. 70 กิโล! ส่งต่อรายได้ญาติพี่น้อง

โลกเปลี่ยน ลุงรงค์ปรับ ต่อยอดขายลูกชิ้นหมูหัน วันแรกยอดพุ่ง 5 ชม. 70 กิโล! ส่งต่อรายได้ญาติพี่น้อง

“ทุกวันนี้เราต้องเป็นไปตามโลก โลกเราทุกวันนี้เป็นยังไง เราไม่ใช่ถือว่า กูเก่ง กูแจ๋ว กูทำอะไรก็ได้ ไม่ใช่อย่างนั้น” ลุงรงค์ กล่าวอย่างนั้น

วันนี้เป็นอีกหนึ่งวัน ที่ เส้นทางเศรษฐีออนไลน์ ได้มีโอกาสพูดคุยกับนักแสดงมากฝีมือ โดยไม่ได้มาคุยกันในมุมของการแสดง แต่จะได้เห็นในมุมของนักธุรกิจที่มีเอกลักษณ์เป็นของตัวเอง อย่าง ลุงรงค์-จตุรงค์ พลบูรณ์ หรือที่รู้จักกันในนาม จตุรงค์ มกจ๊ก นักแสดงมากฝีมือ ที่มีบทบาทการแสดงมากมาย อยู่ในวงการบันเทิงมานานกว่า 40 ปี 

“จตุรงค์ มกจ๊ก” ลุงรงค์-จตุรงค์ พลบูรณ์

นอกจากอาชีพนักแสดงตลก พิธีกร นักร้องเพลงลูกทุ่ง นักเขียน และผู้กำกับภาพยนตร์ ยังมีอีกหนึ่งอาชีพที่ลุงรงค์ทำ นั่นคือการสวมบทบาทเป็นนักธุรกิจร้านอาหาร ที่เป็นที่รู้จักกันในนาม ครัวลุงรงค์ และเมนูอย่าง น้ำพริกเผาผสมสามชั้นทอดน้ำปลา ล่าสุดกับธุรกิจ ลูกชิ้นหมูหัน ที่ต่อยอดไอเดียมาจากเมนูหมูหันครัวลุงรงค์ 

วันนี้ เส้นทางเศรษฐีออนไลน์ จะพาทุกคนไปทราบถึงความเป็นมา ว่าอะไรที่ทำให้ลุงรงค์หันมาเริ่มต้นทำธุรกิจเหล่านี้ และไอเดียในการต่อยอดเป็นธุรกิจอื่นๆ

หมูหัน

จากนักแสดงสู่นักธุรกิจ

กว่าจะมาเป็นลุงรงค์ที่เรารู้จักกันในทุกวันนี้ ต้องผ่านอะไรมามากมาย โดยลุงรงค์ เล่าว่า ประสบการณ์ในชีวิตของเขานั้นผ่านอะไรมามากมาย ทำมาหลายรูปแบบ แล้วก็ไม่ประสบผลสำเร็จ เจ๊งมาแล้วหลายอย่าง แต่ก็ไม่ได้บอกให้ใครรู้ จะเงียบไว้

จนกระทั่งเมื่อ 6 ปีที่แล้ว ได้สร้างเป็นธุรกิจ ครัวลุงรงค์ โพธาราม BY จตุรงค์ฟาร์ม ขึ้นมา โดยเขาบอกว่า ถือว่าประสบผลสำเร็จอย่างใหญ่หลวง จากร้านที่เริ่มจากโต๊ะแค่ 7 ตัว จนทุกวันนี้มีโต๊ะเกือบร้อยโต๊ะแล้ว 

และได้ทำธุรกิจอีก 2 อย่างคือ น้ำพริกเผาสามชั้นทอดน้ำปลา และล่าสุดกับธุรกิจลูกชิ้นหมูหัน ซึ่งน้ำพริกเผานั้น เป็นสูตรของยายซ่วน ยายของลุงรงค์ 

ลุงรงค์ เล่าให้ฟังว่า “น้ำพริกสูตรของยายซ่วนนั้น เวลาลุงรงค์กลับมาบ้าน ยายก็จะทำให้กิน เพราะเขารู้ว่าลุงชอบ แล้วมันเป็นสูตรโบราณ ลุงเลยเอาสูตรนี้มาดัดแปลง”

ใบเฟิร์น-พัสกร พลบูรณ์

มาถึงธุรกิจล่าสุด กับธุรกิจลูกชิ้นหมูหัน ที่เป็นเจ้าแรกในประเทศ กับการนำหมูหันมาทำเป็นลูกชิ้น โดยเจ้าของไอเดียนี้คือ คุณใบเฟิร์น-พัสกร พลบูรณ์ หรือลูกสาวของลุงรงค์นั่นเอง

สาเหตุที่นำหมูหันมาต่อยอดก็เป็นเพราะเมนูซิกเนเจอร์ของลุงรงค์ก็คือหมูหัน ใครที่เจอหน้าลุงรงค์คือจะทักว่า “วันนี้ไม่เอาหมูหันมาเหรอ” “เอาหมูหันมาให้กินหน่อยสิ” จึงเป็นที่มาของไอเดียธุรกิจนี้

โดยร้านลูกชิ้นหมูหันนั้นขายดีมาก ลุงรงค์ เผยว่า วันที่ให้สัมภาษณ์ เป็นวันที่เปิดสาขาแรกที่ตลาดสดธนบุรี และใช้เวลาเพียง 5 ชั่วโมงเท่านั้น ขายลูกชิ้นหมูหันไปแล้วกว่า 70 กิโลกรัม

ตัวลูกชิ้นหมูหัน เป็นการนำหมูหันทั้งตัวที่ย่างเสร็จแล้ว นำไปเลาะกระดูก เอาขาออก และนำมาบด รวมกับลูกชิ้นหมูทั่วไป โดยกว่าจะออกมาเป็นสินค้าตัวนี้ ใช้เวลา 3-4 เดือนเลยทีเดียว

ซึ่งราคาขายจะอยู่ที่ไม้ละ 20 บาท โดย 1 กิโลกรัม จะขายได้ 20 ไม้ ซึ่งหมูหัน 1 ตัว จะทำลูกชิ้นหมูหันได้ 15 กิโลกรัม และหมูหันราคาตัวละ 2,700 บาท เพราะฉะนั้น ขาย 100 กิโลกรัม ต้องใช้หมูหันอย่างน้อย 6 ตัว

การเปิดร้านอาหารอันดับแรกต้องมีความอร่อย ต่อมาต้องเป็นเรื่องบรรยากาศ ความแปลก เหมือนกับลูกชิ้นหมูหัน ที่ต้องไม่เหมือนใคร จะมีกลิ่นควันไฟ กัดไปจะมีความกรึ้บ เพราะมีหนังหมูที่บดแล้วอยู่ในลูกชิ้น จะเป็นเจ้าแรกที่ไม่เคยมีใครทำ และจดทะเบียนเป็นที่เรียบร้อย ในชื่อ “ลูกชิ้นหมูหันครัวลุงรงค์” 

ลูกชิ้นหมูหัน

อาชีพนักแสดง ช่วยต่อยอดธุรกิจ

เมื่อเราถามถึงบทบาทนักแสดงของลุงรงค์ ที่ได้มีการแสดงมาแล้วหลายบทบาท สิ่งเหล่านี้ช่วยต่อยอดในการทำธุรกิจไหม ลุงรงค์ กล่าวว่า 

“ไม่มีเลย การแสดงเราเล่นเป็นกะเทย คนแก่ คนขาเป๋ เล่นเป็นพระ มันไม่มีเลยที่จะมาต่อยอดอาชีพเรา”

แต่ถ้าถามว่าการเป็นดาราช่วยธุรกิจเราเติบโตไหม 

“มันก็ได้เปรียบกว่าชาวบ้านทั่วไป เราก็พูดกันตามตรง เราก็ไม่ได้โกหกอะไร เพราะโซเชียลเรา ทั้งเพจ ทั้งไอจี ทั้งติ๊กต็อก ก็จะมีคนตามเยอะกว่าคนปกติทั่วไป แล้วเวลาเราพูดอะไรเสนออะไร คนดูเขาก็จะดูมากกว่าคนปกติ” ลุงรงค์ กล่าว

โดยลุงรงค์ เล่าต่อว่า ตอนแรกที่บอกจะเปิดร้านอาหารในบ้าน พี่น้องทุกคนส่ายหน้าหมดเลย แล้วก็ถามว่าใครจะมากิน เพราะอยู่ไกล ไม่มีรถผ่าน แต่สุดท้ายก็ประสบผลสำเร็จ

“เราต้องคิดถึงก่อนว่า ทุกวันนี้เราต้องไปตามโลก โลกเราทุกวันนี้เป็นยังไง เราไม่ใช่ถือว่า กูเก่ง กูแจ๋ว กูทำอะไรก็ได้ ไม่ใช่อย่างนั้น โลกมันเป็นยังไง เราก็ต้องไปตามโลก”

ลูกชิ้นหมูหัน

สร้างอาชีพให้ญาติพี่น้อง

ธุรกิจครัวลุงรงค์นั้นจะเป็นของญาติพี่น้องของเขาหมดเลย พี่สาวก็จะเฝ้าเคาน์เตอร์ดูแลเรื่องการเงิน น้องสาวก็จะเป็นคนดูแลเรื่องหมูหัน วัตถุดิบ หลานสาวก็จะคุมร้าน ตรงนู้นไม่ดี ตรงนี้ มุมนี้ไม่ได้ ใครเข้าออก ใครจะมาถ่ายรายการ หลานสาวก็จะเป็นคนจัดการหมดเลย เพราะฉะนั้นแล้ว มันก็จะเป็นธุรกิจครอบครัวที่ทุกคนมีงานหมด

เขาเล่าต่อว่า “สมัยก่อนเวลาที่ไม่มีครัวลุงรงค์ เวลาลุงรงค์กลับบ้านไป พี่สาวก็แบมือขอเงิน หลานสาวน้องสาวก็ทำตาปริบๆ ลุ้นว่าลุงรงค์จะให้ตังค์เขาเท่าไหร่ เพราะลุงรงค์เป็นคนมีเงิน มีเงินในที่นี้คือมีเงินในครอบครัว มีเงินมากกว่าคนอื่น แต่ตอนนี้ลุงไม่ต้องให้ใครยืม ไม่ต้องจ่ายตังค์ให้แล้ว ทุกคนมีรายได้กันหมด พี่สาวมีบ้าน ซื้อที่ดินกับครัวลุงรงค์ ซื้อรถเก๋งขับ จากคนเคยแบมือขอเงินลุงน่ะ”

ซึ่งการทำงานกับคนในครอบครัวนั้น เขาตอบว่า สำหรับคนอื่นอาจจะยาก อาจจะทะเลาะกัน แต่ลุงรงค์ไม่มีทางเลย เพราะ

“ลุงเป็นผู้นำที่มีทั้งพระเดชและพระคุณ ลุงสั่งอะไรก็ต้องเป็นไปตามนั้น”

เพราะว่าลุงรงค์นั้นไม่ใช่ว่าจะเอาแต่สั่งอย่างเดียว แต่ใช้สมองสั่ง

“สิ่งที่ลุงสั่งมันต้องดีสิ ไม่ดีเนี่ยจะพาพวกมึงอยู่ในเรือลำนี้แล้วไม่จมได้ยังไง เพราะฉะนั้น ทุกคนจะต้องฟังลุงหมดเลย” เขากล่าว

การสร้างอาชีพให้ญาติพี่น้อง ทำให้เขามีรายได้ นี่แหละคือสิ่งที่ธุรกิจนี้มอบให้

“ทุกวันนี้ไม่ต้องไปนั่งจ่ายเงินให้พี่สาว ไม่ต้องจ่ายเงินให้หลาน (หัวเราะ) ทุกคนไม่ต้องมาแบมือขอเงินเรา” 

ลูกชิ้นหมูหัน

สิ่งที่ได้จากการทำธุรกิจ

ถ้าถามถึงอุปสรรคของธุรกิจครัวลุงรงค์ คือมันไกล ห่างจากตัวเมืองไปอีก 17 กิโล และไม่ใช่ร้านอาหารที่อยู่ข้างถนนใหญ่ เพราะฉะนั้น ถ้าไม่มีการ PR เลยจะไม่ได้

“จำไว้ทุกธุรกิจที่ใหญ่ๆ โตๆ ไม่มีธุรกิจไหนที่ขายดี แล้วหยุด PR”

การทำธุรกิจนั้น ลุงรงค์ บอกว่า “ต้องคิดก่อนว่าอันดับแรก มันเหมาะกับคุณไหม ถ้าไม่เหมาะ อย่าเพิ่งทำ หรือถ้าทำไปแล้วยังไม่รู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้น อย่าทำ และสิ่งที่สำคัญที่สุดคือ ถ้าทำไปแล้วเหนื่อย ก็ต้องทำ และมันมีช่องทางไหนที่ทำให้ธุรกิจคุณฟูขึ้นก็ต้องทำ หยุดไม่ได้”

เพราะธุรกิจทุกธุรกิจต้องมีการ PR อยู่ตลอดเวลา อย่างลุงรงค์เองก็จะขี้เกียจหยุดโพสต์ หรือหยุดลงโปรโมตร้านไม่ได้

“อย่าคิดว่าเราเจ๋งแล้ว ไม่ต้องโฆษณาก็ได้ มันไม่ได้”