กว่าจะเป็น Salmon Chef ชีวิตล้มเหลวตั้งแต่อายุ 17 สู่เจ้าของธุรกิจหลักล้าน

“ผมอยากจะบอกว่าผมมีวันนี้ได้ด้วยความล้มเหลว”

“ผมเริ่มทำธุรกิจตั้งแต่อายุ 17 เรียนจบแค่ ม.3 เริ่มจากเด็กล้างจาน กรรมกร คนสวน เด็กเสิร์ฟ คนเฝ้าร้านเกม พนักงานขายก๋วยเตี๋ยว คือแทนทำธุรกิจเจ๊งมามากกว่า 20 ธุรกิจแล้วครับ”

คุณแทน-ศรัณย์ ธนพัชญ์เดโชติ เจ้าของร้าน Salmon Chef เริ่มต้นธุรกิจจากเงิน 5,000 บาท และสามารถเติบโตจนมียอดขายหลักแสนต่อเดือนภายใน 1 ปี และปัจจุบันเปิดสาขาที่กรุงเทพฯ มา 2 เดือนมีรายได้หลักล้าน

จุดเริ่มต้นของ Salmon Chef

เริ่มธุรกิจแซลมอนด้วยเงิน 5,000 บาท ในบ้านที่จังหวัดขอนแก่น มีมีด มีเขียง ซื้อเนื้อปลาแซลมอน ซื้อบรรจุภัณฑ์มา แล้วก็มาทำน้ำจิ้มเองด้วย ก็จะโดนลูกค้าติ เกือบทั้งร้อยคนเลย จากคนซื้อ 100 คน โดนติสัก 99 คน แทนก็เลยนำคำติของลูกค้ามาลิสต์เป็นหัวข้อ ค่อยๆ แก้ทีละปัญหา ซึ่งปัญหาตอนแรกก็จะมี น้ำจิ้มไม่อร่อย เนื้อแซลมอนแล่ไม่สวย สารพัดเลยครับ ตอนนั้นก็เป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้แทนเปลี่ยนแปลงปรับปรุง

เริ่มขายก่อนโควิดประมาณไม่กี่เดือน แต่ว่าขายไม่ได้เลย แต่พอเห็นช่วงวิกฤตโควิดแล้วเรามาทำธุรกิจแซลมอนดีลิเวอรีพอดี แล้วมันเข้ามาในจังหวะที่เราทำ ขณะที่ทุกร้านปิด เราเลยได้ขาย 

เมื่อรู้ว่าจะขายแซลมอน หาแหล่งวัตถุดิบจากไหน

ตอนแรกเริ่มต้นจาก Makro เลยครับ ไม่มีความรู้อะไรเลย เปิด YouTube เรียนเอา แล้วพอเราทำไปได้สัก 1 ปี ยอดขายเริ่มอยู่ตัว ประมาณ 5–6 แสนบาทครับ  

เห็นว่าขายดีจนบอกให้แฟนลาออกจากงาน

แฟนทำงานเป็น Call Center เราเลยเห็นว่าตอนนี้แฟนทำงานที่ไหนก็ได้ เราก็เลยมาทำที่คอนโดแทน ซึ่งความตั้งใจที่จะมาอยู่คอนโดเพราะจะได้มาอยู่กับแฟนในตอนนั้นคิดแค่นั้นเลย 

เราเห็นแฟนเราทำงานโดนลูกค้า Call Center ด่าทุกวัน เราสงสารแฟน เลยหาอะไรให้แฟนทำดีกว่า ซึ่งตอนนั้นธุรกิจแซลมอนก็กลายเป็นธุรกิจที่บ้าน คุณพ่อคุณแม่ออกจากงานมาช่วยเราทำหมดเลย แทนก็ปลีกตัวมาอยู่คอนโดแล้วก็ชวนแฟนว่า “คุณเรามาทำแซลมอนขายไหมที่คอนโด” 

เป็นดีลิเวอรีเหมือนเดิม ไม่มีหน้าร้าน ไม่เคยเปิดทาง Grab เลย ขายแต่ทางเพจ Facebook ตลอด เราเลยมาคุยกับแฟนว่าจะเอารายได้ทาง Grab เพิ่มไหม แฟนบอกว่าลองดู ผมเลยทำแผนการตลาด เดือนแรกผมตั้งใจว่ายอดขาย 5,000 ก็พอ เพราะเราไม่เคยขายทาง Grab ไม่รู้จะขายดีไหม ก็เปิด Grab, Line Man, Shopee Food ที่ขอนแก่นครับ สรุปเดือนแรกได้ 70,000 บาทครับ เราเลยคุยกับแฟนว่า ให้ลาออกจากงานเลย ไม่ต้องทำแล้ว Call Center

ทำการตลาดอย่างไรให้ลูกค้ารู้จัก Salmon Chef ซึ่งเป็นร้านหน้าใหม่ขณะนั้น

เป็นคอนเทนต์ของบ้านแทนก่อนครับ เพราะก่อนหน้านี้ขายแซลมอนที่บ้าน แทนเลยมีเงินซื้อบ้านเพราะแซลมอนขายที่บ้านนี่แหละ แทนซื้อบ้านมาปล่อยเช่ารายวัน เปิดทาง Agoda ซึ่งตอนนั้นแทนทำคอนเทนต์นั้น คลิปนั้นยอดวิวรวมทุกแพลตฟอร์มน่าจะไม่ต่ำกว่า 4-5 ล้านวิวเลยครับ แทนเลยคิดว่าหรือเราควรเริ่มโปรโมตให้คนรู้ดีว่าเราทำอะไร 

เริ่มทำคลิป “ขายแซลมอนในคอนโด เดือนแรก 70,000 บาท” ชื่อคลิปประมาณนี้ ก็ทำให้เป็นที่รู้จักและอายุน้อยร้อยล้านก็ติดต่อมาครับ พอได้ไปออกอายุน้อยร้อยล้าน แทนเลยตั้งเป้าหมายเลยครับว่าอีก 3-4 เดือนจะมาเปิดที่กรุงเทพฯ

ยอดขายวันแรก จนถึงปัจจุบันสามารถทำยอดขายสูงสุดเท่าไหร่

คือแทนลืมว่าต้องโปรโมตบอกว่ามาเปิดสาขาที่นี่ แทนมาเปิดเลย แล้วทีนี้พนักงานรวมกัน 20 กว่าคนนั่งตบยุง ทำยังไงดี ช่วงนั้นแทนเลยออกไปเป็นวิทยากรข้างนอก ทำคอนเทนต์แล้วบอกว่ามาเปิดที่นี่ สรุปเดือนแรกมีรายได้ 500,000 บาทเลยครับ

ยอดขายเดือนที่แล้ว 600,000 กว่าบาท ถ้าเป็นต่อวันจะแล้วแต่วัน บางวัน 5,000 บาท ก็มี 3-4 หมื่นบาทก็มี 6 หมื่นก็มีครับ มันแล้วแต่วัน เฉลี่ยพอเป็นรายเดือนอยู่ที่ 6 แสนกว่าบาทครับเดือนที่แล้ว เปิดได้ 2 เดือน รายได้รวมก็ 1 ล้าน 1 แสนกว่าบาทครับ

อะไรคือแรงบันดาลใจในการทำร้านแซลมอน

อย่างแรกเลยครับ ร้านเราจะไม่พยายามบอกว่าเป็นร้านที่แซลมอนอร่อยที่สุด แต่จะบอกว่าคือแซลมอนที่มอบความรักเป็นสื่อกลางของการส่งมอบความรัก

แทนได้แรงบันดาลใจมาจากการที่แทนไปซูเปอร์มาร์เก็ตแล้วมีคุณแม่คุณลูกคู่หนึ่ง เขาอยากกินแซลมอนที่อยู่ในซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่ง แล้วแทนอยู่ตรงนั้นพอดี แทนก็เห็นลูกเขาบอกว่า คุณแม่ครับหนูอยากกินแซลมอน แม่เลยบอกว่าเอาสิลูก เดี๋ยวเอาไปนั่งกินกับคุณพ่อด้วยกัน 3 คน แทนเลยรู้สึกว่ามันอบอุ่นจัง แทนเลยคิดถึงแม่ขึ้นมา เพราะแทนต้องมากรุงเทพฯ ต้องห่างจากแม่ เพราะปกติจะสนิทกับแม่มากครับ เลยรู้สึกถึงออร่าของความรัก ความอบอุ่น

แทนเลยคิดว่างั้นเรามาทำการตลาดให้ประทับใจดีกว่า เลยมาวางแผนการตลาดกับทีม ว่าปกติคนกรุงเทพฯ เป็นคนกรุงเทพฯ ไหม ผลสรุปคือ คนกรุงเทพฯ ไม่ใช่คนกรุงเทพฯ ครับ ที่อยู่กันเยอะๆ คือคนต่างจังหวัด แล้วคนต่างจังหวัดก็จะมีคนที่คิดถึง คนที่รัก คนที่อยู่ห่างไกล แล้วบางทีเราอยากจะส่งมอบของดีๆ ให้เขา เหมือนมอบความรักให้เขา 

มันเลยมาประจวบเหมาะกับสินค้าหลายสินค้าที่แทนเห็น เช่น ช็อกโกแลต ดอกกุหลาบ แทนเลยคิดว่า หรือเรามาทำเค้กแซลมอนดี ที่เป็นตัวสื่อกลางในการมอบความรัก แล้วทีนี้เลยคิดว่าจะทำยังไงให้มองเค้กแซลมอนเป็นมากกว่าเค้กแฮปปี้เบิร์ธเดย์ เราเลยมีสโลแกนว่า 

มอบความรักด้วย Salmon Chef ให้ Salmon Chef เป็นสื่อกลางในการส่งความรู้สึกดีๆ ให้กับคนสำคัญของคุณ

แทนก็จะสื่อว่ามันคือความรักนะ ที่เค้กข้างในเป็นข้าวเพราะข้าวเป็นฐานที่ทำให้เค้กคงอยู่ ก่อตัวกันเหมือนความรักที่หนักแน่น แล้วไส้ข้างในหลายๆ ไส้คือบ่งบอกถึงความรักที่ไม่มีจำกัดเพศ ไม่จำกัดรูปแบบ

จุดเด่นของทางร้านคืออะไร

Packaging ของเราจะมีการแพ็กใส่ถุงฟอยล์เก็บความเย็น มีน้ำแข็งแห้งด้านใน แซลมอนจะอยู่ได้ 24 ชั่วโมง ยังคงความเย็นอยู่ และทำให้เนื้อปลาแซลมอนไม่ยุ่ยครับ ถ้าถามว่าต้นทุนสูงไหม ต้นทุนสูงขึ้นแต่แซลมอนร้านเราก็มีราคาแพงกว่าเจ้าอื่นเหมือนกัน แต่เราก็ไม่ได้เจาะกลุ่มตลาดที่ราคาถูก ร้านอื่นอาจจะขายที่กิโลละ 800-900 บาท แต่ของผมขายที่ กิโลละ 1,390 บาท แต่กลุ่มเป้าหมายที่ผมเจาะกลุ่มก็คือจะเป็นคนมีเงิน แล้วเขาก็ชอบสินค้าที่มีคุณภาพ

มีแพลนในการขยายสาขาเพิ่มหรือไม่

ตอนนี้ปัญหาคือลูกค้ากรุงเทพฯ มีหลายจุดมาก แต่เรามีจุดให้บริการแค่ 3 ที่ คือ ทองหล่อ เอกมัย ห้วยขวาง แล้วบางทีอยู่นครปฐม บางทีอยู่นนทบุรี 

เราเลยเตรียมแผนที่จะขยาย เพื่อแก้ปัญหาในการรอออร์เดอร์ช้า เพราะถ้ามีครัวหลายที่ เราก็ส่งบริเวณใกล้ๆ นั้นได้ สาขาย่อยของเราไม่มีเชฟครับ คือมาจากครัวกลางไปสต๊อกไว้ในสาขาย่อย อร่อยรอได้ แต่ก็ไม่อยากให้ลูกค้ารอ เราเลยแก้ปัญหาเรื่องนี้ คงใช้เวลาสักปีนี้ คงไม่ต่ำกว่า 10 สาขา

ท่ามกลางตลาดที่แข่งขันสูง ใช้กลยุทธ์ใดเพื่อดึงดูดและรักษาฐานลูกค้า

คุณภาพครับ ถ้าสินค้าไม่อร่อย ไม่มีคุณภาพ ซื้อแล้วรู้สึกไม่คุ้มค่า ลูกค้าที่มาซื้อ เราทำการตลาดร้อยคน เขาก็ไปร้อยคน ถ้าไม่มีคุณภาพ

ความท้าทายที่ใหญ่ที่สุดของธุรกิจ Salmon Chef คืออะไร

อย่างแรกเลยคือ ไม่เคยเริ่มทำ เราโดนติตลอด มันคือวิกฤตสำหรับเราเลยตอนนั้น

อย่างที่สอง สำหรับแทนคือช่วงโควิด ที่มียอดขายเข้ามาเยอะกะทันหัน แล้วเราไม่ได้มีการเตรียมตัวกลายเป็นออร์เดอร์มาเยอะเกิน เราเตรียมพนักงาน สินค้าผลิตไม่ทัน ลูกค้ารอนาน 5-6 ชั่วโมงเลยก็มี

อย่างที่สาม คือการเปิดแบบไม่ได้บอกว่ามาเปิดที่สาขาห้วยขวาง เสี่ยงมากต่อการเจ๊ง เรานึกว่ามากรุงเทพฯ เปิดแล้วคนจะรู้จัก

คิดว่าร้าน Salmon Chef ประสบความสำเร็จแล้วหรือยัง มีส่วนไหนที่อยากพัฒนาเพิ่มเติม

ถ้ามองในมุมของแทนคือยังไม่ถึงเป้าหมายที่วางไว้ เป้าหมายที่แทนเคยตั้งมามันได้หมดเลยครับ แต่ตอนนี้แทนมีเป้าหมายใหม่คือ มิชลิน ครับ 

แล้วสร้างเมนูใหม่ที่จะพลิกให้กับ Salmon Chef เลย แทนเชื่อว่าถ้าแทนทำเมนูนี้ขึ้นมาแล้วทำได้ตามที่แทนวางแผนไว้ มันจะพลิกเป็นอีกแบบเลย จะทำให้คนทั่วโลกรู้จักเรา และจะทำให้โปรโมตประเทศไทยได้มากขึ้น

“เอาจริงๆ คือที่ได้รายได้ 5-6 แสนบาท แทนอาจจะอยู่เป็นเบื้องหน้า แต่จริงๆ แล้วที่แทนทำได้คือมีคนข้างหลัง ช่วยกันคิดช่วยกันสนับสนุน คอยหาทางออกช่วยกัน แทนเลยอยากให้เครดิตพวกเขาด้วย เพราะถ้าไม่มีพวกเขา แทนคงไม่มีวันนี้เหมือนกัน”

แทนต้องการที่จะช่วยให้ผู้ประกอบการหลายคน มีความรู้ในการทำดีลิเวอรีที่มากขึ้น ซึ่งตอนนี้กำลังเปิดคอร์สสอนอยู่ครับ

จุดประสงค์เราคือต้องการช่วยให้ผู้ประกอบการไทยโตขึ้น อย่างงานวิทยากรแทนจะไม่รับเงินเลยครับ ตั้งใจจะไปสอนฟรี เพราะเป็นนักศึกษา

อยากให้แนะนำผู้ประกอบการที่กำลังคิดเริ่มต้นธุรกิจ

แทนสังเกตอย่างหนึ่งคือ คนที่คิดเยอะเกินไป คือคนที่เป็นนักโปรเจ็กต์แต่ไม่ทำ คือแทนไม่ได้ฉลาด แต่เบื้องหลังแทนคือล้มเหลวไม่รู้กี่พันครั้ง ล้มเหลวเป็นรายวันรายชั่วโมงเลยครับ กว่าจะออกขาย กว่าจะสำเร็จ

หลายคนคิดว่าเดี๋ยวคิดก่อนค่อยลงมือทำ เพราะไม่รู้จะมีปัญหาอะไรเกิดขึ้น 

คุณไม่สามารถรู้ได้หรอกว่าจะมีปัญหาอะไรเกิดขึ้นล่วงหน้าถ้าคุณไม่ทำก่อน เพราะถ้าคุณลงมือทำคุณจะรู้ทันทีเลยว่าปัญหาจะมาเร็วขึ้นกว่าที่คุณคิด

ข้อคิดที่ได้จากการทำธุรกิจนี้ 

สำหรับแทน แทนรู้สึกว่าแทนมีวันนี้ได้เพราะความเชื่อมั่น เชื่อใจ ไว้ใจ 

ไว้ใจคือการไว้ใจทีมตัวเองครับ ที่เรามีธุรกิจที่เติบโตได้เร็ว คือเราต้องมีทีมที่ดี แล้วทีมที่ดีคือต้องไว้ใจเขาด้วย

แทนอยากให้ผู้ประกอบการเรียนรู้จากการเชื่อใจ

 

เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ 23 มกราคม พ.ศ. 2567