อดีตแอร์ฯ เคยทำทัวร์ เปิดร้านราเมนเล็กๆ “39RAMEN” ชามละ 39 บาท แต่สร้างยอดขายวันละหลักหมื่น

อดีตแอร์ฯ เคยทำทัวร์ เปิดร้านราเมนเล็กๆ
อดีตแอร์ฯ เคยทำทัวร์ เปิดร้านราเมนเล็กๆ "39RAMEN" ชามละ 39 บาท แต่สร้างยอดขายวันละหลักหมื่น

39RAMEN ร้านราเมนเล็กๆ ในซอยอารีย์ มีพื้นที่ขายเพียง 2×2 เมตร แต่สร้างรายได้วันละหลักหมื่นบาท จากการขายราเมน เริ่มต้นชามละ 39 บาท

เรื่องราวของ 39RAMEN เป็นมาอย่างไร ทำไมถึงขายดีต่อเนื่องทุกวัน เส้นทางเศรษฐีออนไลน์ จะพาทุกคนไปพูดคุยกับ คุณเมย์-ณปภัช วร​ปัญญา​สถิต​ เจ้าของ 39RAMEN

แรกเริ่มเดิมที คุณเมย์เคยทำงานเป็นแอร์โฮสเตสนาน 5 ปี และเปิดบริษัททัวร์อีก 10 ปี จนกระทั่งเจอโควิดทำให้มีรายได้เป็นศูนย์ แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังมีธุรกิจร้านชานมไข่มุก “AM Tea” ที่บุกเบิกในกัมพูชา ก่อนตัดสินใจมาขยายสาขาในไทยจนเติบโตกว่า 130 สาขา และ 5 สาขาในกัมพูชา จากนั้นได้ขยายชานมแบรนด์อื่นเรื่อยมา อาทิ เออร์ เต คาเฟ่ (Er Te Café) ที่สยามพารากอน และศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ และอีกแบรนด์คือเจ๊พงษ์ลูกชิ้นยืนกินบุรีรัมย์ ที่เติบโต 300 สาขา

คุณเมย์-ณปภัช วร​ปัญญา​สถิต​ เจ้าของ 39RAMEN
คุณเมย์-ณปภัช วร​ปัญญา​สถิต​ เจ้าของ 39RAMEN

ขยายต่อสู่ธุรกิจอาหาร 

จากธุรกิจเครื่องดื่มขยับสู่ธุรกิจอาหาร ด้วยคุณเมย์เคยเป็นแอร์ฯ ที่ญี่ปุ่น ทำให้เห็นว่าตามถนนมีร้านราเมนเล็กๆ เปิดขายจำนวนมาก ต่างกับไทยที่ต้องอยู่ในห้างและราคาสูง จึงเกิดแนวคิดอยากทำให้เข้าถึงง่าย โดยชวนพาร์ตเนอร์ที่ทำร้านบุฟเฟต์สไตล์ญี่ปุ่น มีครัวกลาง มาช่วยออกแบบเมนูในราคาเข้าถึงง่ายและมีกำไร

“แบรนด์ราเมนในไทยที่ประสบความสำเร็จ คือ ฮะจิบังราเมน เขาใช้เลข 8 เป็นโลโก้ ทำให้คนจำง่าย เราก็อยากได้ราคาที่เป็นตัวเลขที่คนจำง่าย เลยขาย 39 บาท ให้ปริมาณเหมาะสม คนซื้อรู้สึกไม่แพง แฟรนไชซีขายได้ง่าย ตัวเราเองก็ยังมีกำไร”

ราเมน 39 บาท คือการนำก้อนราเมน 1 ก้อนสำหรับทำขายในราคา 80 บาท มาหั่นครึ่ง แล้วเติมน้ำซุป ใส่เครื่องในปริมาณพอเหมาะ ซึ่งส่วนใหญ่ลูกค้าจะลองสั่งราคา 39 บาทก่อน เพื่อลองหลากหลายน้ำซุป เมื่อทานแล้วชอบก็จะกลับมาสั่งชามใหญ่ราคา 80 บาท

39RAMEN
39RAMEN

“น้ำซุปเรามีให้เลือก 4 รสชาติ คือ ซุปมิโซะ ซุปโซยุ ซุปต้มยำ และซุปทงคัตซึ วัตถุดิบทุกอย่างถูกส่งมาจากครัวกลาง อย่างหมูชาชูเราก็ซีลแช่แข็งมาอย่างดี ซอสเราก็ปรุงมาให้แล้ว เส้นราเมน เราใช้แป้งนำเข้าจากญี่ปุ่นมาแปรรูปเป็นเส้นสดในไทย เรามีวิธีการเก็บรักษาที่ถนอมอาหาร ไม่มี Waste เลยทำให้เราสามารถลดต้นทุนได้ ขายที่ไหนก็ได้ ไม่จำเป็นต้องเป็นเชฟ แค่วางทุกอย่างตามสูตรที่เรากำหนด ก็สามารถทำได้”

นอกจากราเมนยังมีเมนูข้าวหน้าล้น เริ่มต้น 39 บาทเช่นกัน เช่น ข้าวหน้าไก่ราดซอสโคชูจัง ข้าวหน้าไก่ราดซอสจิ้มแจ่ว ข้าวหน้าไก่ย่างราดเทอริยากิ และราคาสูงสุด ข้าวหน้าลาวามันกุ้งราคา 95 บาท

หน้าร้าน 39RAMEN
หน้าร้าน 39RAMEN

ปักหมุดอารีย์ ร้านแค่ 2×2 เมตร 

หน้าร้านแรกของ 39RAMEN ปักหมุดที่ซอยอารีย์ ย่านที่คุณเมย์รู้สึกว่าเป็นแหล่งรวมร้านอาหารอร่อยมากมาย อีกทั้งเป็นแหล่งคนทำงาน ที่อยู่อาศัย ซึ่งมองว่าจะขยายได้ง่าย และแฟรนไชซีจะได้มองภาพออกว่าควรหาโลเกชันแบบไหน

“เราเลือกเปิดร้านขนาดเล็กเมื่อเดือนมีนาคม แล้วดูว่า 4 เดือนผ่านไปคืนทุนหรือเปล่า ถ้ายังไม่คืนทุนจะไม่ขายแฟรนไชส์ แต่ปรากฏว่าเราคืนทุน พอเดือนกรกฎาคมเราตัดสินใจขายแฟรนไชส์ ถึงสิ้นเดือนธันวาคมเราเปิดได้ประมาณ 15 สาขา และถึงปัจจุบันมีทั้งหมด 20 สาขา ส่วนใหญ่อยู่ในต่างจังหวัด และของตัวเอง 2 สาขา ที่ซอยอารีย์ และโลตัส สุขาภิบาล 1

และมีแพลนเปิดอีก 2 สาขา ที่เดอะมอลล์ บางแค และเดอะมอลล์ บางกะปิ เราไม่อยากเปิดร้านในห้างก่อน เปิดร้านเล็กๆ แต่โดดเด่น แตกต่าง เมื่อห้างมีพื้นที่เขาก็จะมาชวนเราไปขาย”

หน้าร้าน 39RAMEN
หน้าร้าน 39RAMEN

ต่อยอดขายแฟรนไชส์ 

เปิดตัวแรกๆ คุณเมย์ตั้งราคาแฟรนไชส์ 59,000 บาท แต่ปัจจุบันด้วยอยากคัดแฟรนไชส์ และอยากได้คนที่ตั้งใจจริงมาร่วมงานจึงขยับราคาเป็น 99,990 บาท ได้อุปกรณ์และวัตถุดิบ แต่หากลงทุนทั้งหมดรวมการตกแต่งหน้าร้าน ไม่เกิน 150,000 บาท ก็สามารถเปิดร้านได้

โดยจะมีการเทรนนิ่ง 3 วัน วันแรกเรียนภาคทฤษฎี วันที่สองปฏิบัติ และวันที่สามช่วยมอนิเตอร์หน้าร้าน รวมถึงช่วยทำการตลาด มีบล็อกเกอร์มารีวิว ดีไซน์ร้าน เป็นต้น

39RAMEN
39RAMEN

“ราคานี้ได้อุปกรณ์พร้อมวัตถุดิบเปิดร้าน ขายได้ประมาณ 200 ชาม การคืนทุนขึ้นอยู่กับงบที่ลุงทุนไปว่ามากน้อยแค่ไหน และโลเกชันที่มั่นใจว่าจะขายได้ เช่น ชุมชน ที่อยู่อาศัย ติดถนนใหญ่ มีที่จอดรถ หรือรถไฟฟ้าเข้าถึง

อย่างสาขาที่ซอยอารีย์ของเรา 4 เดือนก็คืนทุนแล้ว ยอดขายเฉลี่ยต่อวันหลักหมื่น กำไร 10% เคยได้ยอดขายเยอะสุดๆ 30,000 บาท ช่วงที่มีคนมารีวิว วันนั้นต้องสั่งของจากครัวกลาง 3 รอบเลย

ข้อดีคือ เรามีรายได้เพิ่มขึ้น แต่ลูกน้องเหนื่อย บางทีไม่ได้กินข้าวเลย เราต้องเอาใจเขามาใส่ใจเรา เลยไม่ได้อยากเป็นร้านที่ดังมาก อยากเป็นร้านที่อยู่เรื่อยๆ เติบโตเรื่อยๆ ไม่ได้อยากรวยคนเดียว ช่วงหลังเลยจะเน้นไปที่การโปรโมตสาขาของแฟรนไชซี”

39RAMEN
39RAMEN

ความใส่ใจในธุรกิจอาหาร

มาถึงตรงนี้ อาจจะกล่าวสรุปได้ว่า สิ่งที่ทำให้ 39RAMEN ขายดี มาจากราคาที่เข้าถึงง่าย รวมทั้งรสชาติ จากการพัฒนาสูตรของเชฟที่มีประสบการณ์จากร้านบุฟเฟต์สไตล์ญี่ปุ่น รวมถึงเรื่องความสะอาดที่ใส่ใจขั้นสุด

“พอเราขายของถูกคนก็จะไม่กล้ากิน เราต้องยอมรับว่ามันเป็นเรื่องปกติ ที่คนจะอคติเมื่อเห็นราคาก่อน โดยที่เขาคาดหวังว่าคงไม่อร่อย คงไม่สะอาดหรอก อันนี้เป็นสิ่งที่เรายิ่งต้องใส่ใจมากขึ้น ทั้งในเรื่องความอร่อย ต้องให้ถูกปาก และความสะอาด เราพยายามถ่ายทอดให้แฟรนไชซี ถ้ามีคอมเมนต์ คอมเพลนมาปุ๊บเราก็รีบเข้าชาร์จเลย ไปยืนดูเลยว่าเกิดอะไรขึ้น

สเต็ปต์ต่อไปของ 39RAMEN ก็จะพัฒนาร้านให้มีบรรยากาศมากขึ้น เป็นร้านกินดื่มได้ ไม่ใช่เป็นร้านราเมนแบบ Grab & Go เราพยายามตอบโจทย์คนในหลายๆ โลเกชัน มาอยู่แถวออฟฟิศขายข้าวเช้า ขายราเมนเที่ยง หรือจะไปอยู่ข้างทางที่มีไฟแดงๆ เปิดเฉพาะตอนเย็น ขายเบียร์กินดื่มต่อได้ ปิ้งย่างได้ คล้ายๆ อิซากายะ ร้านแบบนี้ในรูปแบบแฟรนไชส์และขยายไปต่างจังหวัดยังไม่มี ถึงมีก็ลงทุน 2 ล้าน

เราอยากทำอะไรที่ให้คนเข้าถึงง่าย แล้วเป็นอาชีพให้คน พอมาทำแฟรนไชส์ เราจะเจอโมเมนต์ที่คนกำเงินก้อนสุดท้ายในชีวิตเดินมาหา หรือมาพร้อมกับความหวัง ว่าการซื้อแฟรนไชส์หรือการลงทุนครั้งนี้ มันสามารถเลี้ยงครอบครัวเขาได้ พอเจอแววตาแบบนี้บ่อยๆ เลยทำให้เรายิ่งต้องทำให้ดียิ่งขึ้น กำไรเอาไว้ก่อน เดี๋ยวเติบโตกำไรจะตามมาเอง มันคือความตั้งใจจริง” คุณเมย์ เจ้าของ 39RAMEN ทิ้งท้าย

ติดต่อสอบถามรายละเอียดได้ที่เพจ 39Ramen