“ทำไมลูกค้าต้องยอมจ่ายแพง?” ถอดกลยุทธ์ ‘การัน’ ชาไทย ทำอย่างไร ลูกค้ายอมต่อคิว

“ทำไมลูกค้าต้องยอมจ่ายแพง?” ถอดกลยุทธ์ ‘การัน’ ชาไทย ทำอย่างไร ลูกค้ายอมต่อคิว

คุณรัส-ธัญย์ณภัคช์ ศิริประภาเจริญ เจ้าของร้าน Karun Thai Tea กล่าวบนเวที Restech Talk เจาะลึก จับเทรนด์ร้านอาหารปี 2024 ในหัวข้อ ถอดสูตรร้านดัง ทำยังไงให้ลูกค้ายอมต่อคิวรอ? ว่าการสร้างแบรนด์ที่เป็นของตัวเองอย่างชัดเจน รวมไปถึงการบริหารจัดการในส่วนต่างๆ ล้วนเป็นสิ่งที่จะช่วยให้ลูกค้าเข้าใจ และเปิดใจยอมรับในสินค้าของเรา

คุณรัส-ธัญย์ณภัคช์ ศิริประภาเจริญ เจ้าของร้าน Karun Thai Tea

สำหรับแบรนด์ Karun Thai Tea เกิดขึ้นมาได้ 4 ปี ต้องบอกว่าเริ่มต้นเลยคือมาจากคุณแม่ ที่ชอบกินชาไทยเป็นชีวิตจิตใจ ด้วยความชอบเลยหาวิธีการทำชาหลากหลายสูตร โดยใช้ชาหลากหลายชนิดมาผสมกัน ถ้าจะทำตามก็คงจะยากมาก เพราะเป็นสูตรลับของทางร้าน 

คุณรัส เล่าต่ออีกว่า ที่บ้านทำธุรกิจอยู่แล้ว เลยมีคนเข้าออกเยอะ จึงได้ทำชาไทยมาเป็น Welcome Drink ทำมาเรื่อยๆ จนมีธนาคารแห่งหนึ่งเข้ามาเจอ เลยติดต่อนำไปจัดงาน นี่จึงเป็นจุดเริ่มต้นที่จะคิดทำอย่างจริงจัง

ต้องบอกว่า คุณรัสไม่ได้จบเกี่ยวกับการทำธุรกิจแต่อย่างใด เธอเรียนเกี่ยวกับไฟแนนซ์มา แต่ทุกสิ่งที่เธอมีและพร้อมสำหรับการทำธุรกิจ มาจากการอ่านหนังสือ เธอบอกว่าการอ่านหนังสือทำให้มีพื้นฐานของการเริ่มต้นเป็นผู้บริหารได้

แต่ในเมื่อตัดสินใจที่จะเปิดร้านแล้ว ในประเทศไทยถือได้ว่ามีร้านน้ำที่เยอะพอสมควร แต่เราจะทำอย่างไรให้ร้านของเรามีความโดดเด่น ลูกค้าตัดสินใจที่จะซื้อ และยอมจ่ายในราคาที่เราตั้งเอาไว้ 

Karun Thai Tea

สิ่งนี้ถือเป็นจุดสำคัญอย่างยิ่งที่จะทำให้สินค้าของเราอยู่รอด และตอบโจทย์กับกลุ่มลูกค้าที่ตั้งเอาไว้ จนทำให้ Karun Thai Tea เป็นที่รู้จัก และลูกค้ายอมต่อคิวอย่างเต็มใจ เพราะคุณรัส มี Key Success คือ การสร้างแบรนด์ และการสร้างแบรนด์ในแบบฉบับของเธอ มีอะไรบ้าง มาดูกัยเลย!

การสร้างแบรนด์แบบ Karun Thai Tea

1. เริ่มจากการไปสำรวจกลุ่มเป้าหมายด้วยตัวเอง ว่าใครจะจ่ายชาไทยในราคานี้ หาข้อมูลในเรื่องของการบริหาร การตลาด การจัดคน รวมไปถึงการสร้างแบรนด์

2. เก็บข้อมูลลูกค้าเพื่อทำ Buyer Persona ซึ่งกลุ่มลูกค้าที่กำหนดไว้ คือ ผู้หญิง อายุ 28 ปี เงินเดือน 30,000-40,000 บาท ใช้ชีวิตแถวสุขุมวิท ด้วยกลุ่มเป้าหมายที่กำหนดมีลักษณะแบบนี้ จึงตัดสินใจเปิดสาขาแรกที่เอ็มควอเทียร์ เพราะตอบโจทย์มากที่สุด

3. เมื่อรับข้อมูลเกี่ยวกับลูกค้าแล้ว ต้องแปลข้อมูลในสิ่งที่ลูกค้าต้องการ ทำให้เห็นว่าชาไทยที่มีขายทั่วไป แต่ยังไม่มีแบรนด์ชาไทยที่เป็น Specialty Thai Tea ในตลาด

หลังจากที่ได้เปิดสาขาแรก ผลตอบรับถือว่าเกินคาดเลยทีเดียว ซึ่งเธอคิดไว้ว่า ต่อวันอยากจะขายได้ถึง 200 แก้ว ก็ถือว่ามาแล้ว แต่ในความเป็นจริง ขายได้ถึง 300 กว่าแก้ว จะบอกว่าสิ่งที่ดึงดูดให้ลูกค้ามาหาเรา คือการ Connect ระหว่างสินค้ากับลูกค้า จะทำให้เกิดความลึกซึ้งต่อกัน และทำให้สินค้าดูมีชีวิตชีวามากขึ้น

Karun Thai Tea

อย่างไรก็ตาม การที่จะสร้างแบรนด์ให้ลูกค้ายอมต่อคิวอย่างเต็มใจได้ จะต้องทำความเข้าใจเกี่ยวกับตัวเราเอง และต้องลงมือทำในทุกขั้นตอน เพื่อจะได้เข้าใจในรายละเอียดอย่างลึกซึ้ง และหากยังไม่มีความรู้มากพอ ต้องหมั่นอ่านหนังสือเกี่ยวกับการเป็นผู้บริหาร เพราะจะเป็นสิ่งที่เราสามารถเรียนรู้ด้วยตนเองได้ และจะช่วยเพิ่มพูนความรู้เพื่อไปพัฒนาต่อยอดธุรกิจของเราได้

และสุดท้ายนี้ คุณรัส-ธัญย์ณภัคช์ ศิริประภาเจริญ เจ้าของร้าน Karun Thai Tea ได้ฝากแนวคิดดีๆ ให้กับผู้ประกอบการ

“ความรู้เป็นสิ่งที่สำคัญ การที่เราจะล้มได้ยากที่สุดก็คือการที่ขาเราแข็งแรง ความรู้จะทำให้เราเห็นภาพชัดขึ้นว่าเรากำลังจะทำอะไร ขณะเดียวกันเอง วินัยก็เป็นสิ่งสำคัญ”

ขอบคุณข้อมูลบางส่วนจาก Torpenguin

 

เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ 28 พฤศจิกายน พ.ศ. 2566