| เผยแพร่ |
|---|
สรุปกรณีศึกษา กว่ามาเป็น อีสาน Soft Power กับ คุณโต้ง-สิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ ผู้สนับสนุน-เบื้องหลังความสำเร็จ “ไทบ้านเดอะซีรีส์”
เมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน 2566 ที่ผ่านมา บนเวทีศึกษา ISAN Soft Power…ไทบ้านเดอะซีรีส์ โดย คุณสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ ผู้สนับสนุน-เบื้องหลังความสำเร็จ “ไทบ้านเดอะซีรีส์” ซึ่งร่วมเสวนาโดย คุณสรกล อดุลยานนท์-หนุ่มเมืองจันท์ ในงาน THAILAND 2024 : BEYOND RED OCEAN กับเรื่องราวของ Soft Power
สิ่งที่น่าสนใจบนเวทีคือการแลกเปลี่ยนมุมมองการหยิบวัฒนธรรม หรือบางสิ่งบางอย่างของประเทศไทยไปต่อยอดในวงการภาพยนตร์ ทั้งนี้ ได้นำภาพยนตร์เรื่อง สัปเหร่อ เป็นกรณีศึกษา จากการสร้างเนื้อหาด้วยอัตลักษณ์ และความเฉพาะของพื้นที่ที่ต้องการสื่อสารออกไปยังรูปแบบภาพยนตร์
รายได้ล่าสุดของภาพยนตร์เท่าไหร่
- สัปเหร่อ รายได้ล่าสุด 720 ล้านบาท
ที่มาของไทบ้านเดอะซีรีส์
- ช่วงนั้นเป็นประธานหอการค้าที่ศรีสะเกษ มีงานอะไรก็จะทำอะไรก็จะมีหนังสั้น
- ทีมไทบ้านเดอะซีรีส์ มาขอทุนแล้วทำได้ตามโจทย์เลยชอบ
- ทีมนี้ไม่มีเงิน รวมเงินทำทีเซอร์กันมาในช่วง 6 ปีก่อน ในเฟซบุ๊ก
- เราได้เห็นพลังของโซเชียลจริงๆ จากโพสต์ “อกหักบอกเมียไม่ได้”
- เราเชื่อในพลังเขา เราให้เขาไปหาเงินจากเพื่อนๆ เราที่จะหาได้
- สิ่งที่ไปขายเขาจะถามว่าใครเป็นพระเอก
- เขาไม่ได้เงินเลยเพราะพระเอกไม่ดัง
- ให้ไป 2 ล้าน เขาตัดสินใจว่าทำได้
- สิ่งแรกผมคิดว่ามันขาดทุนแน่นอน เพราะผมไม่รู้จักธุรกิจด้านนี้เลย
- น้องให้ความเห็นว่าคนอีสานคือคนที่เยอะสุดในประเทศไทย
- เราคิดจากยอดวิวเขา 1 ล้าน ใน 1 สัปดาห์
- โจทย์มี 2 ข้อ 1. ต้องถ่ายที่ศรีสะเกษเพราะคนจะได้มาเที่ยว 2. ต้องได้เล่นด้วย อยากเล่นเป็นพ่อนางเอก
- ภาคแรกลงทุน 2 ล้าน ขายได้ 40 ล้าน
กลยุทธ์การตลาดของไทบ้านเดอะซีรีส์ เริ่มที่ป่าล้อมเมือง
- ตอนแรกไม่ได้คิด แต่สถานการณ์มันบีบให้เราทำป่าล้อมเมือง
- ทีแรกเราต้องการฉายแค่ในภาคอีสาน แต่เกิดปรากฏการณ์โรงแตก
- ใช้วิธียิงแอดนอกเมือง
- หนังของไทบ้านไม่เคยทะเยอทะยาน เพราะเรามีเพลงกว่า 400 ล้านวิว
- ทดเวลาบาดเจ็บ สเตตัสถูกทิ้ง ยอดเยอะสุดเพลงกอดเสาเถียง
- เขาบอกไม่ทำแล้วหนังจะทำเพลง แต่ผมบอกไม่ได้หนังกับเพลงต้องไปด้วยกัน
ทำไมไทบ้านจะมีจักรวาลไทบ้านไม่ได้
- สัปเหร่อเป็นเรื่องหนึ่งในจักรวาล
- ถ้าหนังเรื่องไหนที่ตัวละครเด่นขึ้นมาเราจะทำภาคแยก
สัปเหร่อคาดหมายว่าจะมาถึง
- ไม่ครับ เราคิดว่าเราไม่ขาดทุนก็พอแล้ว
- ด้วยความที่เป็นจักรวาล มีหนังอีก 3 เรื่อง
- อยากเอาร้านลาบอีสานไปเปิดที่โตเกียว
100 ล้านแรกเป็นกลุ่มคนดูเดิม พอ 100 ล้านต่อมาก็เป็น ยิงแอดไปเท่าไหร่
- หลายค่ายใหญ่ถามมาว่าใช้เงินในการยิงแอดเท่าไหร่
- ผมถามเขากลับเล่นๆ ว่าเท่าไหร่ เขาบอก 30 ล้านในการโฆษณาในหนังแต่ละเรื่อง
- ผมตอบไปว่า ผม 3 เหมือนกัน 3 หมื่น
- ไทบ้านทำหนังมา ขายทุกอย่าง ไม่เคยขายได้เลย สุดท้ายผมซื้อ แต่แฟนคลับที่จะชอบคือชอบดูฟรี เขาฟังแล้วฟังอีก
- เราจึงยิงแอดให้ตรงจุดว่าเรามาแล้วนะ
สัปเหร่อถึงประสบความสำเร็จที่ไม่ใช่กลุ่มคนอีสาน
- มันดีด้วยเนื้อเรื่องของมัน มันเป็นหนังของคนธรรมดา ไม่ได้มาปาฏิหาริย์อะไรเลย
- คนดูเวลาเขาดูเขาไม่ได้ดูดารา เขาดูคนคนหนึ่ง เขาดูชีวิตเขา เขาดูตัวเขา
- บางคนก็บอกว่าไม่ชอบ เพราะแม่บ้านต้องขอลาไปดูหนังเรื่องนี้
- ความสำเร็จสำหรับผมคือตอนที่พี่ตุ้มเขียนรีวิวให้ เพราะแฟนคลับผมเป็นอีกระดับหนึ่ง ทั้งไฮโซ นักวิชาการ
- โรงหนังมาคุยกับผม หนัง 200 ล้านแล้ว พี่ไปซื้อโฆษณาทีวีได้แล้ว
- ผมโทรบอกน้องว่าอย่าโทรหาโฆษณาทีวี เพราะเดี๋ยวโรงหนังไปซื้อ
ถ้าย้อนเวลากลับไปได้อยากใส่อะไรที่เป็น Soft Power ศรีสะเกษ
- มีคนถามผมว่าสัปเหร่อเป็น Soft Power ไหม ผมไม่รู้เพราะมันมีแต่ทุ่งนา เมรุ วัด
- คอมเมนต์บอกเข้าใจผิดทั้ง ข้าวจี่
- สิ่งที่มันเป็นแน่นอนคือเป็นเรื่องที่ทำให้คิดถึงสถาบันครอบครัว
- วันไหนที่เขาถึงจุดสำเร็จสูงสุด อยากจะกลับไปพัฒนาบ้านเกิดเขา
ถ้าจะให้บอก Soft Power ต้องการให้สนับสนุนอะไรบ้าง
- คุณหมอเลียบเป็นคนแรกๆ ที่อยากส่งหนังไปต่างประเทศ
- ผมถามน้องๆ ว่าถ้าจะไปในนามตัวเองหรือไปในนามทีมชาติ ทีมชาติสิเฮีย ค่าตั๋วก็ฟรี
- คุณหมอเลียบบอกว่าไม่ได้ไปแค่สัปเหร่อต้องไปเป็นทีม
- ถ้าพูดในฐานะคนทำหนังที่ไม่ได้เงินจากรัฐบาลเลย ไม่ใช่รัฐบาลชุดนี้
- เพราะเขาไปกำหนดโจทย์ว่าหนังจะต้องเป็นแบบไหน
- สมมติรัฐกำหนดว่าอยากได้วาย หนังสายอื่นก็จะไม่ได้ทุน
- ถ้าอยากสนับสนุนคนทำหนังอะไร กำหนดให้เขาหยิบสักอย่างไปสร้างสรรค์
- ไม่ควรไปกำหนด หรือไปบล็อกความคิดของคนสร้างผลงาน
