บอนไซ ปลูกยากแต่ดูแลไม่ยาก ยิ่งนาน ราคายิ่งสูง ไม่ต้องห่วงจะขาดทุน

บอนไซ ในที่นี้หมายถึง การปลูกต้นไม้แบบควบคุมและบังคับไม่ให้ต้นไม้ได้เจริญเติบโตตามธรรมชาติ ยกตัวอย่างเช่น นำต้นโพธิ์มาปลูกในกระถาง ถ้าปล่อยให้ต้นโพธิ์เติบโตได้ตามธรรมชาติก็จะต้องมีลำต้นสูงกว่า 10 เมตร แต่คนปลูกสามารถทำให้ต้นโพธิ์สูงไม่ถึงเมตร อีกทั้งยังมีทรวดทรงสวยงามอีกต่างหาก

ตอนที่ผมได้ไปเที่ยวชมงานบ้านและสวน ซึ่งจัดที่ไบเทค บางนา ได้ไปเห็นต้นโพธิ์ที่ว่านี้ คุณบุญส่ง ยังประเสริฐ บอกว่า ต้นที่เห็นราคา 120,000 บาท (หนึ่งแสนสองหมื่นบาท) มีคนจองแล้ว หลังงานต้องยกไปให้ถึงที่ โดยค่าขนส่งผู้ซื้อเป็นคนออก

บอนไซ เป็นต้นไม้ที่ได้รับความนิยมนำไปตกแต่งบ้านของคนมีสตางค์ คือ คนรวยนั่นแหละ คนส่วนใหญ่จะนิยมปลูกต้นมะม่วงหรือต้นไม้ผลอื่นๆ ในบริเวณบ้าน มากกว่าต้นบอนไซ เพราะมีราคาถูกกว่า ภัตตาคารจีนก็นิยมนำต้นบอนไซไปประดับร้าน

บอนไซ ปลูกยากแต่ดูแลไม่ยาก ให้ถูกแดดเพียง 50 เปอร์เซ็นต์ก็พอ และไม่ต้องรดน้ำทุกวัน ต้นก็ไม่ตาย

ที่ผมรู้เรื่องเกี่ยวกับบอนไซข้างต้น ผมไม่ได้รู้เอง คุณบุญส่งเจ้าของสวนบอนไซบอกให้รู้

คุณบุญส่ง ยังบอกต่อว่า ถ้าอยากดูต้นบอนไซสวยๆ ให้ไปดูได้ที่เมืองโบราณ สมุทรปราการ ซึ่งเป็นลูกค้ารายใหญ่ของเขา หรือจะไปที่สวนบอนไซของเขาที่ปากซอยแบริ่งก็ได้

หลังจากปลูกบอนไซแล้ว คุณบุญส่งไม่ได้เก็บไว้ที่ปากซอยแบริ่ง สุขุมวิท 107 เฉยๆ แต่ได้นำไปออกร้านจำหน่าย ในงานต่างๆ ทั่วไป

ที่นำบอนไซ ออกไปจำหน่ายเป็นประจำทุกปีก็ที่งานบ้านและสวน และที่สวนหลวง ร.9

ถ้าผู้ใดไปซื้อต้นบอนไซที่สวนหลวง ร.9 หรือที่ปากซอยแบริ่ง จะสามารถนำรถเข้าถึงสวนได้เลย ซึ่งคุณบุญส่งจะอยู่เฝ้าร้านตลอด แต่ถ้าให้ดีโทรศัพท์ไปก่อนก็ได้ที่ 081-302-3282

ต้นบอนไซของสวนบุญส่งไม่ได้มีแต่ต้นโพธิ์ มีต้นอื่นๆ ด้วยหลายชนิด เช่น ต้นมะขาม ต้นไทร ต้นตะโก แต่ละต้นมีความงามแตกต่างกัน

บอนไซทุกต้น มีทั้งต้นเล็กและต้นใหญ่ รวมแล้วหลายร้อยต้น ราคาตั้งแต่หลักพันถึงหลักแสน บางคนมาซื้อต้นบอนไซในราคาหลักพัน แต่นำไปปลูกต่อหรือไปเลี้ยงต่อ ก็จะมีราคาสูงขึ้นเรื่อยๆ ก็อย่างต้นโพธิ์ที่เขาขายไปแล้วนั้น ต้องใช้เวลาถึง 20 ปี จึงขาย จะได้เป็นแสน

เมื่อผมถามถึงวิธีการปลูกต้นบอนไซ คุณบุญส่ง อธิบายว่า สิ่งสำคัญที่สุด จะต้องมีความอดทน เพราะการทำบอนไซ ต้องใช้เวลาเป็นหลัก

ปลูกทุเรียนใช้เวลาเพียง 6 ปีก็ได้ผล คือได้ลูก หรือปลูกมะพร้าวก็ใช้เวลาไม่กี่ปีก็มีลูกให้เก็บกิน แต่ปลูกบอนไซ ต้องใช้เวลานานกว่ามาก อีกทั้งเวลาปลูกจะปล่อยเลยตามเลยไม่ได้ จะต้องคอยตัดแต่งกิ่ง ดัดทรงเพื่อให้บอนไซมีทรงที่งดงาม คุณค่าของบอนไซ ส่วนหนึ่งอยู่ที่ทรวดทรงของต้น แล้วยังต้องควบคุมให้เป็นต้นไม้แคระอีกต่างหาก

สำหรับคุณบุญส่งเองที่มามีอาชีพอย่างนี้ได้ก็เพราะมีใจรัก เริ่มต้นเขาเป็นคนรักต้นไม้มาก่อน เป็นลูกชาวสวนอยู่ที่จังหวัดสมุทรสงคราม

ปัจจุบันก็ยังมีสวนมะพร้าวและอื่นๆ อยู่ที่นั่น โดยให้ลูกๆ ช่วยดูแลแทน ที่ไม่ทำสวนบอนไซที่บ้านเดิมก็เพราะห่างจากกรุงเทพฯ ไม่สะดวกกับการออกร้านจำหน่าย อีกทั้งสวนบอนไซไม่จำเป็นต้องมีที่ดินเป็นไร่ มีเพียง 100 ตารางวา ก็สามารถใช้ได้แล้ว เขาจึงมาเช่าที่ดินที่ปากซอยแบริ่งทำสวนบอนไซดังกล่าวข้างต้น

คุณบุญส่งเติบโตมากับต้นไม้ อยู่กับต้นไม้ หลังจากเรียนจบ ป. 4 ก็ไม่ได้เรียนต่อ มีอาชีพทำสวน ต่อมาได้ไปทำงานกับบริษัทรับจัดสวน เขาจึงมีความรู้เกี่ยวกับการจัดสวนด้วย จากนั้นได้แยกตัวมารับจัดสวน เป็นของตัวเองมาตั้งแต่หนุ่ม ก่อนเปลี่ยนอาชีพมาทำบอนไซขาย

นับเวลาก็นานหลายสิบปี เพราะตอนนี้อายุ 63 ปีแล้ว คงไม่เปลี่ยนอาชีพทำอย่างอื่น ชีวิตประจำวันของคุณบุญส่งถ้าไม่ไปออกร้าน ก็จะอยู่บ้านเพื่อปลูกบอนไซโดยขยายให้มากที่สุดที่จะมากได้ ซึ่งสามารถทำเองได้โดยไม่ต้องมีลูกจ้าง เพราะต้นบอนไซทุกต้นปลูกลงกระถาง ที่สามารถเคลื่อนย้ายเองได้

หลังจากผมได้พูดคุยกับคุณบุญส่งและมีโอกาสได้ไปชมสวนบอนไซของเขาที่ปากซอยแบริ่งแล้ว ทำให้รู้ว่า การมีอาชีพปลูกบอนไซ ดีกว่าปลูกอย่างอื่นก็ตรงที่ ยิ่งใช้เวลานานเท่าไร บอนไซแต่ละต้น จะมีราคาสูงขึ้นเรื่อยๆ ตามอายุ จึงไม่ต้องห่วงว่าจะขาดทุน