ซาลาเปาคุณยาย ไส้แน่น แป้งนิ่ม ถูกแบบไม่น่าเชื่อ ยุคนี้ลูกละแค่ 8 บาท

ปีนี้แปลกมาก ถึงแม้กรมอุตุฯ จะประกาศว่าเข้าหน้าร้อนแล้ว แต่พอเอาเข้าจริง บางวันกลับหนาว โดยเฉพาะต้นเดือนเมษายน อากาศหนาวเหมือนหน้าหนาวเลยทีเดียว

ผมกับเพื่อนร่วมเดินทางโชคดี ที่ได้ไปเที่ยวอุบลราชธานี ขณะที่กำลังมีอากาศหนาว ทำให้ได้บรรยากาศในการท่องเที่ยวดีขึ้นมาทันที เพราะไม่ร้อน เรื่องท่องเที่ยวก็ว่ากันไป ส่วนเรื่องอื่นก็ว่ากันไปอีกเรื่อง

ที่ผมพูดอย่างนี้หมายถึง บังเอิญขณะนั่งรถไปบนถนนสถิตย์นิมานกาล ในอำเภอพิบูลมังสาหาร เพื่อไปยังสถานที่ท่องเที่ยวหลายแห่งที่มีอยู่ในอุบลราชธานี นั้น เป็นช่วงเวลาที่ท้องกำลังเรียกร้องอาหาร เพราะผ่านมื้อเที่ยงมาร่วม 3 ชั่วโมงแล้ว จึงควรแวะหาของว่างกิน เพราะกว่าจะถึงเวลากินอาหารค่ำจะต้องรออีกหลายชั่วโมง

อาหารว่างในเป้าหมายของเรา ก็คือ อยากจะหาร้านกาแฟแกล้มอาหารว่าง แต่พอถามคนขับรถซึ่งเป็นคนท้องที่ คนขับรถได้แนะนำเราว่า ถ้ามาเมืองนี้ควรกินซาลาเปา เพราะเป็นเมืองที่ขึ้นชื่อเรื่องซาลาเปา

ขณะนั่งรถไปตามถนนจะเห็นร้านซาลาเปาขายอยู่ที่ตึกแถวหลายร้าน แต่ละร้านแย่งกันขึ้นป้ายเป็นเจ้าเก่า ส่วนเจ้าไหนจะเป็นเจ้าเก่าจริง เราไม่รู้ จึงปล่อยเป็นหน้าที่ให้คนขับรถพาไป

คนขับรถพาไปที่ร้านซาลาเปาคุณยาย เพียงไปจอดรถหน้าร้าน ก็มั่นใจได้เลยว่า ซาลาเปาเจ้านี้จะต้องอร่อยแน่ เพราะมีซึ้งนึ่งซาลาเปาอยู่หลายซึ้ง แล้วยังมีที่นึ่งเสร็จแล้วเพื่อรอลูกค้ามาซื้ออีกจำนวนมาก

ผมอาสาลงจากรถแทนเพื่อนๆ ที่ไปเที่ยวด้วยกันเพื่อซื้อซาลาเปาให้กับทุกคน ที่อาสาก็เพราะดูหน้าร้านแล้วน่าสนใจนำอาชีพของคนขายซาลาเปามาเขียนนั่นเอง

เนื่องจากในร้านมีคนขายซาลาเปาอยู่หลายคน มีอยู่คนหนึ่งน่าจะมีอายุมากกว่าคนอื่นๆ ผมจึงเดาเอาว่าน่าจะเป็นคุณยายเจ้าของร้านแน่ แล้วก็เป็นจริงตามที่ผมเดา

ผมถามคุณยายว่า ซาลาเปาที่ทำขายมีอยู่กี่ไส้ คุณยาย ตอบอย่างคล่องปากว่า มี ไส้หมูแดง ไส้หมูสับ ไส้ไก่ ไส้ถั่วดำ ไส้ผัก ไส้เผือก ไส้หน่อไม้

ผมถามแบบโง่ๆ ไปว่า ไส้อะไรอร่อยที่สุด

“แล้วแต่คนชอบ” คุณยาย ตอบ

ผมถือโอกาสเรียกคนขายว่าคุณยาย ทั้งๆ ที่ผมรู้ตอนหลังว่านางมีอายุน้อยกว่าผมหลายปี เพื่อให้รู้ว่าซาลาเปาคุณยายอร่อยจริงหรือไม่ ผมจึงได้ทดลองกิน โดยเลือกเอาไส้หมูสับมากินดู พอได้กิน จึงได้รู้ว่าอร่อยมาก จึงไม่จำเป็นต้องกินไส้อื่นๆ ให้เสียเวลา

ซาลาเปาเจ้านี้ ไส้เต็มแน่น แป้งนิ่ม ผมตัดสินใจสั่งหลากหลายไส้ทั้งหมด 30 ลูก เพราะนั่งรออยู่ในรถถึง 7 คน พอคิดราคา ผมถึงกับแปลกใจว่า ทำไมถึงถูก ถูกอย่างไม่น่าเชื่อ ราคาลูกละแค่ 8 บาทเท่านั้น

ซาลาเปาลูกขนาดนี้ ถ้าซื้อซาลาเปาชื่อดังที่มีขายอยู่ในกรุงเทพฯ ราคาตั้ง 22 บาท ซาลาเปาคุณยาย มีราคาถูกกว่าถึงลูกละ 14 บาททีเดียว ทั้งถูก ทั้งอร่อย มิน่าจึงขายดี

ทำให้ผมคิดแวบขึ้นมาในสมองว่า กลับถึงกรุงเทพฯ จะสั่งซื้อซาลาเปาคุณยาย ไปใช้เลี้ยงแขกเวลาจัดงานก็น่าจะดี

สำหรับเรื่องนี้ คุณยายเจ้าของซาลาเปารสอร่อย บอกว่า เคยส่งไปให้ลูกค้าที่กรุงเทพฯ แต่ภายหลังเลิกส่ง เพราะบางครั้งล่าช้า ทำให้ซาลาเปาเสีย

เพื่อตัดปัญหานี้ คุณยายจึงเลิกส่งที่จังหวัดไกลๆ แต่ก็ยังมีคนมาซื้อถึงร้านทีละมากๆ ก็มีบ่อย ซึ่งคุณยายก็ไม่ทราบว่าผู้ซื้อ ซื้อไปที่ไหน

เมื่อพนักงานจัดซาลาเปาที่ผมสั่งซื้อเสร็จ ผมก็รีบนำขึ้นรถเพื่อให้คนขับรถพาไปที่ร้านกาแฟ เพื่อกินกาแฟแกล้มซาลาเปาให้สบายปากไปเลย ทุกคนพอได้กินซาลาเปา ลงความเห็นหลังกินว่า อร่อย

ขณะนั่งอยู่ที่ร้านกาแฟ ผมถือโอกาสโทรศัพท์คุยกับคุณยายต่อ คุณยาย บอกว่า ร้านขายซาลาเปาคุณยายมีที่นี่แห่งเดียว ตั้งอยู่ที่ถนนสถิตย์นิมานกาล กิโลเมตรที่ 41 ถ้ามาถึงอำเภอพิบูลมังสาหาร ถามถึงร้านซาลาเปาคุณยาย ใครๆ ก็รู้จัก เพราะเปิดร้านขายมานานกว่า 30 ปีแล้ว ถือเป็นเจ้าแรกของเมืองนี้

ก่อนมาทำซาลาเปาขายได้ทำอาชีพหลายอย่างมาก เปิดร้านอาหารก็เคยเปิด ผลที่สุดก็มาจบที่ซาลาเปา และคงทำขายตลอดไปจนตาย เพราะเดินมาถูกทางแล้ว สามารถนำรายได้จากการขายซาลาเปา สร้างฐานะได้อย่างมั่นคง พูดง่ายๆ ก็คือ ที่ทำให้ครอบครัวของคุณยาย อยู่ได้อย่างสบายได้ ก็เพราะทำอาชีพขายซาลาเปานี้แหละ

สิ่งที่ได้ข้อคิดสำหรับการมีอาชีพขายซาลาเปาของคุณยายก็คือ คุณยายทำซาลาเปาจากสูตรของบรรพบุรุษเมื่ออายุกว่า 40 ปีเข้าไปแล้ว ถือว่าเริ่มต้นเมื่ออายุมากแล้ว แต่ก็ยังพบกับความสำเร็จได้

จากเรื่องของคุณยาย พอจะยืนยันได้ว่า ทุกอาชีพสามารถพบความสำเร็จได้ ไม่มีคำว่าสาย เพียงขอให้ได้เริ่มต้น แล้วทำให้ดีที่สุดเท่านั้นพอ

ผู้สนใจติดต่อซาลาเปาคุณยาย ได้ที่ โทร. 045-441-429