สองหนุ่มสาวศิษย์เก่าถาปัตย์ จุฬาฯ ทิ้งงานประจำหันปั้นแบรนด์ “Least studio” ธุรกิจสดใส

คนรุ่นใหม่จำนวนไม่น้อย ตั้งเป้าหมายในชีวิตว่าอยากมีธุรกิจเป็นของตัวเอง แต่บางรายยังขาดเงินลงทุนและยังหาช่องทางไม่เจอ มักจะเลือกเป็นมนุษย์เงินเดือนไปก่อน รอให้เงินพร้อม ประสบการณ์พร้อม จังหวะชีวิตได้ก็เข้าสู่ธุรกิจที่คิดว่าใช่ ขณะที่หลายคนเลือกเป็นพนักงานประจำควบคู่กับอาชีพเสริม เพื่อเติบโตทีละก้าวอย่างมั่นคง

ได้รับรางวัล Demark

คุณธีรพล อัครทิวา หรือ คุณมิ้น และ คุณวรัญญา นันทสันติ หรือ คุณออม ก็อยู่ในข่ายที่ว่านี้ โดยทั้งสองหลังจากจบปริญญาตรี คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ ภาควิชาสถาปัตยกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เป็นสถาปนิกอยู่ที่ บริษัท แปลน อาคิเต็ค จำกัด ก่อนจะมาจับธุรกิจผลิตสินค้าไลฟ์สไตล์แบรนด์ ลีสต์ สตูดิโอ (Least studio) ซึ่งโดดเด่นมากในเรื่องของการดีไซน์และการเลือกใช้วัสดุที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว กระทั่งกระเป๋าทำจากแผ่นยางพารารองกรีดได้รับรางวัล Demark Winner 2016 สาขา Lifestyle Product จากสำนักส่งเสริมนวัตกรรมและสร้างมูลค่าเพิ่มเพื่อการค้า กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์

%e0%b8%81%e0%b8%a3%e0%b8%b0%e0%b9%80%e0%b8%9b%e0%b9%8b%e0%b8%b2333

คุณธีรพล อัครทิวา (กลาง) คุณวรัญญา นันทสันติ และเพื่อนร่วมงาน ในวันรับรางวัล Demark Winner 2016

นอกจากนี้ ยังได้รับการสนับสนุนจากโครงการพัฒนาต่อยอดตราสินค้า (D-space), กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม และศูนย์ส่งเสริมศิลปาชีพระหว่างประเทศ (องค์การมหาชน)

รวมทั้งได้รับการคัดเลือกเป็นตัวแทนผู้ประกอบการในโครงการพัฒนาต่อยอดตราสินค้า (D-space) โดยกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ไปจัดแสดง ขายสินค้า และจับคู่ธุรกิจ ในงาน Hongkong Fashion Week 2015 และงาน Hongkong Gift Fair 2016

คุณมิ้น เล่าที่มาที่ไปของการทำธุรกิจสินค้าไลฟ์สไตล์ว่า เริ่มจากช่วงตอนที่ยังเรียนอยู่มหาวิทยาลัย ด้วยความเป็นคนชอบทำกิจกรรม ไม่อยู่นิ่ง หลังหมดกิจกรรมรับน้อง จึงหางานอดิเรกทำกันในช่วงละครสถาปัตย์ ซึ่งในงานมักจะมีการออกบู๊ธขายสินค้า อาหาร หรือของที่ระลึก

งานละครสมัยนั้นเมื่อ 4-5 ปีที่แล้ว ของที่นิยมขาย ก็ไม่พ้น “เสื้อ” จึงมานั่งคุยกัน 2 คนว่าอยากทำอะไรที่แตกต่าง ใหม่ ไม่ซ้ำใคร และเป็นตัวเอง จึงเลือกทำ “สมุดหนังทำมือ แต่เพิ่มอะไรใหม่ๆ คือ การทำป้ายตอกชื่อ ให้ลูกค้าออกแบบบนสมุดของตัวเอง สมัยนั้นถือเป็นอะไรที่ใหม่มาก ไม่เคยมีใครทำ ถือเป็นยุคบุกเบิก ผลตอบรับในงานก็ดีมาก ของหมดก่อนวันละครวันสุดท้ายเสียอีก

จากนั้นจึงเริ่มสนใจในการทำของดีไซน์ที่ใช้ง่ายๆ ในชีวิตประจำวัน เช่น สมุด กระบอกแบบ เริ่มต้นจากทุนคนละ 10,000 บาท เริ่มหาวัสดุ หาทีมช่าง ผลิตสินค้าแล้วนำไปลงขายในที่ต่างๆ เริ่มจากร้านภายในคณะ ฝากขายตามร้านค้า ของพี่ที่รู้จักบ้าง หรือเดินเข้าไปติดต่อเองบ้าง แบรนด์ลีสต์ สตูดิโอ จึงเริ่มเกิดขึ้นนับจากช่วงนั้นเป็นต้นมา จนเริ่มทำงานเป็นสถาปนิกเต็มตัว ลีสต์ สตูดิโอ ก็เริ่มถูกปรับเป็นทำเฉพาะวันเสาร์-อาทิตย์

ช่วงเวลานั้นถือว่าหนักและเหนื่อยมาก แต่เป็นช่วงที่สนุกและท้าทาย เพราะต้องบริหารเวลาให้ดีทั้งงานหลักและงานเสริม ซึ่งข้อดีมากๆ ของการเป็นพนักงานออฟฟิศ คือทำให้ได้เรียนรู้ในเรื่องระบบการทำงาน ระบบคิดงาน และได้คำแนะนำดีๆ จากรุ่นพี่ในออฟฟิศ ซึ่งเป็นส่วนสำคัญที่นำมาประยุกต์ใช้กับการทำแบรนด์ลีสต์ สตูดิโอ ในสไตล์แบบสถาปนิก ต่อมาเริ่มขยายสินค้าลงในพื้นที่ห้างสรรพสินค้า เริ่มเพิ่มประเภทของสินค้ามากขึ้น และเริ่มมีรายได้ที่เห็นเป็นรูปธรรมมากขึ้น จึงเป็นจุดเปลี่ยนครั้งสำคัญที่ทำให้คิดว่า อยากจะหันมาโฟกัสกับลีสต์ สตูดิโอ อย่างเต็มตัว

%e0%b8%81%e0%b8%a3%e0%b8%b0%e0%b9%80%e0%b8%9b%e0%b9%8b%e0%b8%b2222

ปิ๊งไอเดียจากของใกล้ตัว

คุณมิ้น บอกว่า ตอนเริ่มทำแบรนด์ลีสต์ สตูดิโอ เพราะตั้งใจอยากทำไลฟ์สไตล์โปรดักต์ที่เกิดจากการมองมุมต่าง ใช้สิ่งของง่ายๆ รอบตัวเป็นแรงบันดาลใจ ด้วยแนวคิดแบบสถาปัตย์คือ งานออกแบบต้องมีดีไซน์ ใช้งานได้ดี และผู้ใช้ได้ประสบการณ์ใหม่ๆ จากการใช้งาน (Design-Function-Life) เริ่มแรกจึงใช้เวลาไปกับการทดลองหาวัสดุต่างๆ มาทำโปรดักต์ เช่น หนังเทียม ผ้า แผ่นไม้คอร์ก แผ่นยางพื้นรองเท้า มาทำเป็นคอลเล็กชั่นแรกของแบรนด์ จนมาถึงคอลเล็กชั่นต่อไป ที่เป็นอีกจุดเปลี่ยนครั้งสำคัญของลีสต์ สตูดิโอ ที่เริ่มจากอยากจะหาวัสดุอะไร ที่สร้างมุมมองใหม่ๆ ได้จริงแก่ผู้ใช้ และเป็นตัวตนของแบรนด์

“คิดวนไปวนมา เริ่มหันมามองสิ่งใกล้ๆ ตัว เอาแค่บนโต๊ะทำงานก็มาสะดุดกับแผ่นรองตัดที่ใช้ทำงานอยู่ทุกวัน รู้สึกว่าเป็นวัสดุใกล้ตัวที่มีความพิเศษ รองกรีดคัตเตอร์ได้ ความคิดตลกๆ จึงเข้ามาในหัว ถ้านำมาทำกระเป๋าจะเป็นอย่างไร จากนั้นจึงเริ่มศึกษาค้นหาวัสดุนี้อย่างจริงจัง แต่ผิวที่หยาบเกินไป และน้ำหนักที่มาก เป็นอุปสรรคที่ทำให้เกือบล้มเลิกความคิดนี้ จนได้รับความคิดเห็นจากพี่ๆ และอาจารย์ที่อยู่ในโครงการต่อยอดตราสินค้า (D-space) ของกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ที่ไปเข้าร่วม เห็นศักยภาพไอเดียนี้ที่สามารถต่อยอดได้ จึงเป็นตัวกระตุ้นทำให้กล้าทำความฝันลมๆ แล้งๆ ให้เป็นจริงได้”

หลังจากนั้นก็ช่วยกันค้นคว้าและพัฒนาวัสดุ แผ่นยางพารารองกรีด (CUTTINGMAT) จนเกิดเป็น CUTTINGMAT COLLECTION ของลีสต์ สตูดิโอ ที่เป็นทั้งความภูมิใจ เป็นตัวตน และเป็นตัวแทนของวัสดุธรรมชาติทางเลือกใหม่ที่ถูกพัฒนาต่อยอดให้ใช้งานได้จริงในชีวิตประจำวัน

พูดถึงแผ่นยางพารารองกรีดเชื่อว่าหลายคนคงไม่รู้จักและนึกภาพไม่ออก ประเด็นนี้ คุณมิ้น อธิบายว่า แผ่นยางพารารองกรีด เป็นวัสดุที่ถูกพัฒนาต่อยอดยางพาราธรรมชาติในประเทศไทยขึ้นมาใหม่ ให้มีคุณสมบัติทนรอยขีดข่วน แต่มีผิวสัมผัสที่นุ่มนวล บาง และเบาขึ้นเมื่อเทียบกับยางปกติ ไม่มีมลพิษทางกลิ่นยาง และทนต่อแสงแดด ถือเป็นวัสดุทางธรรมชาติประยุกต์ ที่มีความคงทนแข็งแรงต่อการใช้งานได้จริง เป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการลดการใช้หนังสัตว์แท้

img_8724

ลูกค้าเป็นแบบให้ถ่ายรูป

กระเป๋าสะพายขายดี

เจ้าของแบรนด์ลีสต์ สตูดิโอ บอกว่า การพัฒนาคุณสมบัติของวัสดุยางพารารองกรีด ใช้เวลานานถึง 1 ปีเต็ม ซึ่งนานมาก ทำให้การวางขายสินค้าทั้งคอลเล็กชั่นเพิ่งเริ่มเปิดตัวเมื่อกลางปีที่ผ่านมา ซึ่งถ้าเทียบในผลกำไรอาจจะถือว่าไม่ประสบความสำเร็จ แต่ถ้ามองในมุมคุณภาพแล้ว ถือว่าได้วัสดุที่มีคุณสมบัติ 100 เปอร์เซ็นต์ สำหรับการใช้งาน ประกอบกับ CUTTINGMAT เป็นวัสดุนวัตกรรมจึงต้องใช้ระยะเวลาเพื่อสื่อสารและทำความเข้าใจให้กับผู้ซื้อรู้จักวัสดุนี้ เนื่องจากเป็นวัสดุใหม่ที่ถูกพัฒนาขึ้นมา ไม่มีที่ใดเหมือน อีกทั้งวัตถุดิบและกระบวนการผลิตถือว่าเป็นของคนไทย 100 เปอร์เซ็นต์

สินค้าในคอลเล็กชั่นนี้มีทั้งหมด 9 ไอเทม ราคาอยู่ในช่วง 490-4,950 บาท ไอเทมที่ขายดีคือ กระเป๋าสะพายขนาดใหญ่ ราคา 4,950 บาท และกระเป๋าใส่แฟ้มขนาด A4 ที่ได้รับรางวัล Demark Winner 2016 สาขา Lifestyle Product

พร้อมกันนี้ CUTTINGMAT COLLECTION กำลังจะมีสินค้าแบบใหม่ๆ ออกมาในช่วงปลายปีนี้ และกำลังจะมีโปรเจ็กต์ดีๆ ร่วมกับนิตยสาร happening ติดตามสีสันของผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ได้ในช่วงต้นปีหน้า จะได้เห็นการต่อยอดทางด้านดีไซน์ของวัสดุในมุมมองใหม่ๆ มาออกแบบเป็นไลฟ์สไตล์โปรดักต์ในชีวิตประจำวันที่มีความหลากหลายมากขึ้น

ทั้งนี้ สินค้าของลีสต์ สตูดิโอ จะมีทีมช่างที่มีประสบการณ์ของแบรนด์เป็นผู้ผลิต มีพนักงาน 3 คน สำหรับกลุ่มลูกค้าเป็นนักศึกษา คนวัยทำงานช่วงอายุ 20-45ปี, นักออกแบบ ผู้สนใจด้านดีไซน์

ปัจจุบัน สินค้าแบรนด์ลีสต์ สตูดิโอ มีวางจำหน่ายในหลายจุด อาทิ O.D.S. สยามดิสคัฟเวอรี่, ROOM CONCEPT STORE, ศูนย์การค้า ดิ เอ็มควอเทียร์, THINK SPACE by B2S, ศูนย์การค้าเซ็นทรัล เฟสติวัล อีสต์วิลล์ และขายผ่านออนไลน์ www.facebook.com/leaststudio

นับว่าแบรนด์ลีสต์ สตูดิโอ เป็นผลงานดีไซน์ของคนรุ่นใหม่จริงๆ ซึ่งนอกจากจะมีจุดเด่นในเรื่องงานออกแบบแล้ว ยังมีเอกลักษณ์ในการเลือกใช้วัสดุอีกด้วย

%e0%b8%81%e0%b8%a3%e0%b8%b0%e0%b9%80%e0%b8%9b%e0%b9%8b%e0%b8%b2444