“อุปกรณ์กันมดไต่ขึ้นอาหาร” สยบปัญหามดไม่มากวนใจ ไอเดียคนไทย ยอดขายทะลุล้าน

 สุดทนต่อการรุกรานของสัตว์ตัวจิ๋วในบ้าน จะฆ่าทิ้งก็ไม่ใช่วิสัยลูกผู้ชายอย่าง คุณศิรวิชญ์ บุญซื่อ จึงคิดทำอุปกรณ์กันมดไต่ขึ้นขนมและอาหาร ทำแล้วตั้งชื่อเรียกง่ายๆ ว่า แอ๊นท์แพด : Antpad หรือ แผ่นรองกันมด เห็นชื่อแล้วเข้าใจเลยไม่ต้องอธิบายเยอะ บังเอิญแผ่นรองกันมดรายนี้ดันไปถูกใจใครต่อใครหลายคน เหตุเพราะไม่ต้องฆ่ามด ไม่มีพิษ ไม่ส่งกลิ่น ไม่ส่งเสียง ไม่ส่งคลื่น

ที่สำคัญคือ สวยเต๊ะตา ทดลองใช้แล้วได้ผล มดเมินไม่มากวนใจ จึงหอบหิ้วผลิตภัณฑ์เข้าประกวดชิงรางวัล คราวนี้ไม่บังเอิญดันไปคว้ารางวัลรองชนะเลิศ เป็นเครื่องการันตีความสุดเจ๋งของแอ๊นท์แพด ซึ่งเจ้าของเผยตัวเลขยอดขายปีนี้ทะลุ 3 ล้านแน่นอน

 

คิดได้ไง

“ผมเชื่อว่าทุกคนต้องเจอปัญหาเรื่องมดเหมือนกัน แต่เราไม่ได้ต้องการกำจัดจนถึงขั้นให้มันตาย แค่อยากป้องกันไม่ให้มารบกวนเท่านั้น ผมจึงค้นหาข้อมูลในอินเตอร์เน็ตว่า มดมีพฤติกรรมอย่างไร ไม่ชอบอะไร จากนั้นก็คิดค้นสูตรต่างๆ มากมายด้วยตัวเอง เป็นเวลากว่า 6 เดือน แล้วนำไปให้อาจารย์ผู้เชี่ยวชาญจากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ทดสอบประสิทธิภาพในการใช้งานจริง แล้วนำกลับมาพัฒนาจนได้สูตรที่ลงตัว ปลอดภัยกับมนุษย์และสัตว์เลี้ยง”

“แผ่นรองกันมด” ใช้หลักการง่ายๆ คือ “ขัดขวางการเข้าถึงของมด” โดยใช้สารชนิดพิเศษซึ่งเป็นส่วนผสมในการผลิตเครื่องสำอาง จึงปลอดภัย นำมาเคลือบอยู่บนผิวด้านในของแผ่นรองกันมด ซึ่งทำจากพลาสติก ABS ชนิดเดียวกับที่ใช้ผลิตของเล่นตัวต่อ (เลโก้) ส่งผลให้พื้นผิวนั้นเหนอะหนะยากต่อการเดินของมด พูดง่ายๆ ก็คือ มดจะรู้สึกไม่สบายตัวเมื่อเดินผ่านสารชนิดนี้

ทดลองจนได้สูตรกันมดที่ลงตัว ปลอดภัยกับมนุษย์และสัตว์เลี้ยง จึงออกแบบรูปลักษณ์ผลิตภัณฑ์ให้แตกต่างจากสินค้ากำจัดมดที่มีอยู่ในท้องตลาด โดยทำให้ผลิตภัณฑ์มีความเป็นครีเอทีฟในตัวเอง เขาจึงเลือกรูปทรงสี่เหลี่ยมมีเว้ามีโค้งแบบเดียวกับจิ๊กซอว์ นำมาทำเป็น “แผ่นรองกันมด” แต่ละแผ่นยังต่อกันได้เหมือนจิ๊กซอว์ เพื่อให้ได้ขนาดของพื้นที่กันมดที่ต้องการ ใช้สีไม่เยอะแต่ดูเด่น วางใช้งานยังดูสวยเด่นด้วยสีและดีไซน์ของผลิตภัณฑ์เอง

 

เจ๋งตรงไหน

คุณศิรวิชญ์ บุญซื่อ ทดสอบการใช้งานจนมั่นใจ เห็นผลชัดเจนว่ากันมดได้จริง จึงเกิดความเชื่อว่าน่าจะมีผู้ต้องการผลิตภัณฑ์แบบนี้เหมือนกัน จึงเดินหน้าพัฒนาแผ่นรองกันมดให้เป็นผลิตภัณฑ์ทางเลือกใหม่ของสังคม ในปี 2557  แผ่นรองกันมด ภายใต้แบรนด์ “Dreamleaf” (ดรีมลีฟ) จึงก้าวสู่ตลาดผ่านออนไลน์อย่างเป็นทางการ เปิดตัวในราคาเริ่มต้นแผ่นละ 280 บาท เนื่องจากใช้วัสดุอย่างดี อายุใช้งาน 1-2 ปี ขายผ่านเว็บไซต์และสื่อออนไลน์อื่นๆ รวมทั้งออกงานแสดงสินค้า เพื่อสร้างโอกาสอธิบายคุณสมบัติและข้อดีของผลิตภัณฑ์

คุณศิรวิชญ์นำผลิตภัณฑ์ที่คิดค้นด้วยตัวเองนี้ เข้าชิงรางวัลสุดยอดผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมแห่งปี  Thailand Green Design Awards 2017 ซึ่งจัดขึ้นโดยสถาบันค้นคว้าและพัฒนาผลิตผลทางการเกษตรและอุตสาหกรรมเกษตร มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ สามารถคว้ารางวัลรองชนะเลิศ ประเภทผลงาน “ช่วยยกระดับคุณภาพการใช้ชีวิต”  (Life Enhancement) มาครอบครอง เป็นการการันตีคุณสมบัติของผลิตภัณฑ์ได้อย่างดี

two ants playing

ทำขายใคร

ในช่วงเริ่มต้นทำตลาด ลูกค้ากลุ่มเป้าหมายถูกพุ่งเป้าไปที่กลุ่มสายปฏิบัติธรรม ซึ่งถือศีลและเว้นการฆ่าสัตว์ แต่กลับพลิกล็อก กลายเป็นกลุ่มผู้เลี้ยงสัตว์ (สุนัข และแมว) ให้ความสนใจเป็นพิเศษ นิยมใช้เป็นฐานรองภาชนะใส่อาหารให้กับสัตว์เลี้ยง ใช้แล้วถ่ายภาพโชว์บนโลกออนไลน์ เลยเกิดกระแสเลียนแบบใช้แผ่นรองกันมดกับสัตว์เลี้ยงอื่นๆ นอกจากนี้ยังมีลูกค้าที่อยู่นอกสายตา เป็นลูกค้ากลุ่มไลฟ์สไตล์ที่ชื่นชอบดีไซน์และสีสันของ Antpad กลุ่มนี้กลายเป็นกลุ่มที่เติบโตและสร้างยอดขายได้อย่างคาดไม่ถึง

เสียงสะท้อนจากลูกค้าที่ต้องการแผ่นรองกันมดเฉพาะจุด เช่น ขาโต๊ะ ขาตู้ หรือเฟอร์นิเจอร์ คุณศิรวิชญ์จึงดีไซน์รูปลักษณ์ของแอ๊นท์แพดแนวใหม่ เปลี่ยนทรงเหลี่ยมจิ๊กซอว์เป็นทรงกลมเก๋ๆ เปลี่ยนวัสดุจากพลาสติกเป็นเซรามิก ตั้งใจออกแบบให้ดูทันสมัยและเข้ากับไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่

“ช่วงนี้ผมเน้นสื่อสารคุณสมบัติของแผ่นรองกันมดอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งพัฒนารูปแบบผลิตภัณฑ์ Antpad ตอบโจทย์ลูกค้า ควบคู่ไปกับการเพิ่มช่องทางตลาดทั้งออนไลน์และออฟไลน์ ซึ่งน่าจะช่วยให้รายได้เพิ่มขึ้น 3 ล้านบาท ภายในปีนี้ และผมยังวางแผนในระยะ 3-5 ปีข้างหน้า มั่นใจว่าแผ่นรองกันมดจะทำยอดขายต่อปีได้มากถึง 10 ล้านบาท” คุณศิรวิชญ์ เจ้าของผลิตภัณฑ์แผ่นรองกันมด Dreamleaf กล่าวอย่างมั่นใจ เนื่องจากมีการเจรจาและมีโอกาสส่งแผ่นรองกันมดไปขายในต่างประเทศหลายแห่ง

ใครจะไปคาดคิดว่า ปัญหาเล็กๆ กับมดตัวเล็ก เมื่อใช้ปัญญาแก้ปัญหา สุดท้ายพลิกล็อก กลายเป็นสินค้าทำเงินล้านได้