“ปารีฮัท เกาะสีชัง” สวรรค์ของคนชอบที่พักบรรยากาศริมทะเลอ่าวไทย ดินแดนสุดโรแมนติก นอนชิวล์ๆ ฝั่งคลื่นกระทบฝั่ง

“ปารีฮัท” เป็นที่พักเก๋ ๆ ตั้งอยู่ท่าเทววงษ์ อำเภอเกาะสีชัง จังหวัดชลบุรี ลักษณะเป็นกระท่อมทรงกลม โครงสร้างเป็นไม้ไผ่ ส่วนหลังคามียอดแหลมเหมือนหางปลากระเบนมุงด้วยหญ้าแฝก ข้างกระท่อมมีเปลยวนผูกไว้ให้นอนสัมผัสลมทะเล ฟังเสียงคลื่นกระทบฝั่ง หรือจะนอนชิวล์ ๆ บนระเบียงมองวิวทิวทัศน์สุดลูกหูลูกตาก็ย่อมได้

คุณพรรษพร หงศ์ลดารมภ์ เจ้าของ ปารีฮัท  ได้ให้ข้อมูลว่า พื้นที่บริเวณนี้เป็นมรดกตกทอดมาจาก คุณปู่ เเละ คุณย่า ตระกูลหงศ์ลดารมภ์ ส่วนแรงบันดาลใจในการสร้างรีสอร์ตสไตล์บอร์เนียว มาจากภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์เรื่องปืนใหญ่จอมสลัดที่เคยมาใช้ที่แห่งนี้เป็นสถานที่ถ่ายทำ ซึ่ง “ปารี” เป็นชื่อของพระเอกในเรื่องมีความหมายตามภาษามลายู แปลว่า กระเบน จึงนำมาตั้งชื่อรีสอร์ต และคงสถาปัตยกรรม การออกแบบเป็นไปตามฉากหนัง สำหรับระยะเวลาก่อสร้างใช้เวลาไม่นาน เพราะขนคนงานมากันเป็นกองทัพ ประกอบกับได้คนในครอบครัวเข้ามาช่วยคุมงาน เบ็ดเสร็จใช้เงินลงทุนไปเกือบ 10 ล้านบาท

จากฉากในภาพยนตร์ถูกเนรมิตรออกมาเป็นรีสอรต์ได้อย่างปราณีตเเละสมบูรณ์แบบมากที่สุด เนื่องจากได้น้องสาวของคุณพรรษพร ซึ่งเป็นสถาปนิกฝีมือดี ดีกรีระดับอาจารย์ จากสถาบันเทคโนโลยี พระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบังมาร่วมออกแบบ นอกจากนั้นยังคุมการก่อสร้างโดยพี่สาวซึ่งเป็นทันตแพทย์ ฉะนั้นบ้านพักแต่ละหลังที่นี่สร้างขึ้นด้วยความตั้งใจจริง

สำหรับจุดเด่นของที่พัก คุณพรรษพร กล่าวว่า กระท่อมทุกหลังสร้างแบบลดหลั่น เรียงรายกันไปตามหน้าผา ฉะนั้นไม่ต้องกังวลใจว่าจะมีบ้านพักไหนได้เปรียบมองเห็นวิวด้านนอกมากกว่ากัน เพราะทุกห้องมองเห็นวิวทิวทัศน์เสมอเหมือนกันหมด ทางด้านวัสดุที่เลือกใช้เป็นธรรมชาติ  มี ไม้ไผ่ หญ้าคา ใบจาก หญ้าแฝก เชือกกล้วย วิธีการปลูกสร้างใช้การมัด และผูก แทนการตอก

“จุดเด่นของ ปารีฮัท คือ ห้องพักทุกห้องสร้างแบบลดหลั่น เรียงรายกันไปตามหน้าผา ทำให้มองเห็นวิวด้านนอกเท่าเทียมกัน ได้นอนฟังเสียงคลื่นกระทบผา ที่สำคัญสร้างโดยไม่มีการตอกตะปู ไม่มีการสกัดหิน เเต่ใช้การมัด การผูก เเละการสาน เพื่อยึดสิ่งก่อสร้างทั้งหมดเข้าไว้ด้วยกัน ตัวอย่างเช่น อุปกรณ์ภายในห้องพัก อย่าง โต๊ะ ตู้ เตียง โคมไฟ ราวตากผ้า กลอนประตู ที่ทำจากไม้ไผ่ ก่อนนำมาใช้ต้องนำไปลนไฟ ทั้งนี้ก็เพื่อให้สามารถนำมาดัดเป็นรูปทรงที่ต้องการได้ จากนั้นใช้เชือกกล้วยผูกติดไว้ด้วยกัน”

นอกจากโดดเด่นเรื่องวิธีการปลูกสร้างเเล้ว ที่นี่ยังเน้นคงคอนเซ็ปต์ความเป็นธรรมชาติสูง เพราะเครื่องอำนวยความสะดวกแทบไม่มี ตามสโลเเกนของทางรีสอร์ตที่ว่า “ปารีฮัท กระท่อมริมผา มีน้ำทะเลกับฟ้าเป็นเพื่อน”

“เราแบ่งห้องพักเป็น 3 แบบ มีกระท่อมพัดลม กระท่อมแอร์ เต็นท์ และมีโซนสำหรับสัตว์เลี้ยง ซึ่งห้องพักจะต่างกันที่ขนาด สิ่งอำนวยความสะดวก เช่น โทรทัศน์ ตู้เย็น แอร์ เครื่องทำน้ำอุ่น ถ้าเป็นกระท่อมพัดลมเเละเต็นท์จะไม่มี ห้องพักที่นี่มี 30 ห้อง ใช้ชื่อปลาชนิดต่างๆ ในการเรียกชื่อห้อง อาทิ ปลาสำลี ปลาริวกิว ปลาการ์ตูน ปลาดาว ปลาวาฬ ปลาปักเป้า ฯลฯ ทุกห้องมีห้องน้ำในตัว เเละยังมีสระว่ายน้ำที่สูบน้ำจากทะเลมาไว้ให้บริการสามารถเล่นน้ำไปพร้อมกับดูพระอาทิตย์ตกได้ในระดับสายตาอีกด้วย”

ท่ามกลางบรรยากาศโรแมนติก ทางปารีฮัท ยังมีกิจกรรมให้ทำเพียบ ไม่ว่าจะเป็นกระโดดหน้าผาความสูงประมาณ 5 เมตรขอบอกว่าต้องอาศัยความกล้า ความชอบ ความสามารถเฉพาะตัว นอกจากนั้นยังมี นอนเปลอาบแดด ว่ายน้ำทะเล ตกปลา ตกหมึก พายเรือคายัค ปีนป่ายภูเขา ชมผาประกาศรักเอาไว้ให้คู่รักตะโกนบอกรักกัน ขี่จักรยานเสือภูเขา ขับมอเตอร์ไซด์เที่ยวรอบเกาะ นั่งรถสกายแล็บเที่ยวรอบเกาะ และมีทัวร์ตามรอยละคร “เกมร้าย เกมรัก” ทีมงานจะพาไปดูสถานที่จริง ที่เคยใช้ถ่ายทำละครเรื่องนี้

ด้านจำนวนนักท่องเที่ยวที่มาพัก เจ้าของธุรกิจ ระบุว่า วันเสาร์เป็นวันที่คนมาพักเยอะที่สุด ส่วนวันอื่น ๆ ก็มีบ้าง เเละจากกระเเสละครก็ช่วยทำให้คนรู้จัก ปารี ฮัท เพิ่มขึ้น ลูกค้ามีหลากหลาย มีกลุ่มวัยรุ่นที่มาเป็นเเก๊งค์เพื่อน เเละกลุ่มครอบครัว

สำหรับกลุ่มเป้าหมาย คุณพร ให้ข้อมูลว่า ทีเเรกเล็งไว้ที่กลุ่มวัยทำงาน  25 – 35 ปี เเละเน้นคนไทย เเต่ระยะหลังกลุ่มที่มา เป็นผู้ใหญ่ วัยรุ่น กลุ่มครอบครัว และต่างชาติประปราย เเต่ด้วยบุคลากรที่ยังไม่พร้อมเลยยังไม่เน้นลูกค้าต่างชาติ

เนื่องจากเป็นรีสอร์ตที่เน้นความเป็นธรรมชาติ ที่นี่เลยปลูกผักปลอดสารพิษเอง  เช่น โสมไทย พริก ต้นหอม กะเพรา ผักสลัด ฯลฯ นอกจากนั้นปารี ฮัท กำลังพัฒนาเข้าสู่การเป็นที่พักสีเขียว โดยทำเป็นรีสอร์ตสุขภาพ ปลอดบุหรี่ ทำผลิตภัณฑ์ต่างๆ ใช้เอง อาทิ  น้ำยาล้างจาน สบู่ ครีมอาบน้ำ น้ำยาสระผม น้ำยาถูพื้น น้ำยาล้างห้องน้ำ น้ำยาเช็ดกระจก

“เกาะสีชังมีปัญหาเรื่องสิ่งเเวดล้อม เนื่องจากพื้นที่เกือบครึ่งเกาะเป็นหิน ยากต่อการฝังกลบขยะ ฉะนั้นแก้ไขด้วยการจับมือกับชุมชน และรีสอร์ตใกล้เคียงด้วยกิจกรรม อาทิ ลดการใช้ขยะ เช่น ใช้ผ้าเช็ดปากแทนกระดาษทิชชู่ มีการแยกขยะสด ขยะแห้ง โดยขยะสดที่เป็นอาหาร เอาไปเลี้ยงหมูป่า ส่วนขยะเเห้งเข้าระบบรีไซเคิล ส่วนน้ำจืด ก็เป็นสิ่งหายาก ฉะนั้นรณรงค์ให้ผู้มาพักใช้อย่างประหยัด และมีการนำกลับมาใช้ใหม่ เช่น น้ำจากการอาบน้ำ น้ำจากที่ล้างจานนำมารดต้นไม้ เป็นต้น”