ซีพี ออลล์ ผู้บริหารร้านเซเว่นอีเลฟเว่น และทเวนตี้โฟร์ ช้อปปิ้ง เดินหน้าหนุนผู้ประกอบการขนาดกลางและเล็ก หรือเอสเอ็มอี อย่างต่อเนื่อง ล่าสุดพาเจาะลึกผลิตภัณฑ์สมุนไพรไทย แบรนด์ “ชีววิถี” ที่สนับสนุนผลิตผลทางการเกษตรจากเกษตรกรในท้องถิ่นและกลุ่มวิสาหกิจชุมชน นำมาแปรรูปสร้างมูลค่าเพิ่มจำหน่ายผ่านช่องทางทเวนตี้โฟร์ ช้อปปิ้ง และร้านเซเว่นอีเลฟเว่นทั่วประเทศ ช่วยสร้างรายได้และยกระดับคุณภาพชีวิตเกษตรกร

คุณอำพา ยงพิศาลภพ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท ทเวนตี้โฟร์ ช้อปปิ้ง จำกัด บริษัทในกลุ่มซีพี ออลล์ ผู้บริหารร้านอิ่มสะดวก เซเว่นอีเลฟเว่น กล่าวว่า บริษัทมีนโยบายส่งเสริมและสนับสนุนสินค้าทั่วไปและสินค้านวัตกรรม จากผู้ประกอบการขนาดกลางและเล็กหรือเอสเอ็มอีที่ผลิตสินค้าคุณภาพได้มาตรฐานและเป็นที่นิยมจากประชาชน โดยบริษัททำหน้าที่เป็นช่องทางการจำหน่ายสินค้าให้กับผู้ประกอบการเหล่านี้ เพื่อส่งตรงถึงมือผู้บริโภคทั่วประเทศผ่านช่องทางที่หลากหลายของทเวนตี้โฟร์ ช้อปปิ้ง อาทิ นิตยสารทเวนตี้โฟร์แค็ตตาล็อก, เว็บไซต์ www.24catalog.com,  www.shopat24.com, เคเบิ้ลทีวี, ร้านเซเว่นอีเลฟเว่น กว่า 9,000 สาขาทั่วประเทศ และศูนย์บริการลูกค้าสัมพันธ์ โทรศัพท์  (02) 711-7666

“ปัจจุบันมีผู้ประกอบการเอสเอ็มอีนำสินค้าเข้ามาจำหน่ายผ่านทเวนตี้โฟร์ ช้อปปิ้ง กว่า 20,000 รายการ ซึ่งบริษัทได้ช่วยสนับสนุนในด้านการเข้าไปร่วมพัฒนาสินค้าและบริการร่วมกับผู้ประกอบการ เพื่อให้สินค้า SMEs ตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค รวมถึงมีศูนย์นวัตกรรมของซีพี ออลล์ เข้ามาให้ความรู้ด้านการพัฒนาสินค้านวัตกรรม สนับสนุนให้ผู้ประกอบการได้มีโอกาสปรับปรุงคิดค้นผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคยุคใหม่และนำมาจำหน่ายผ่านช่องทางของบริษัทเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง” คุณอำพา กล่าว

ด้าน คุณอรประภา พรมรังฤทธิ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เซนต์บิวตี้ คอสเมติก (ประเทศไทย) จำกัด เจ้าของผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางสมุนไพร แบรนด์ “ชีววิถี” เล่าถึงความเป็นมาในการทำธุรกิจว่า ก่อนที่จะทำธุรกิจเครื่องสำอางสมุนไพร เคยทำงานบริษัทเอกชนมาประมาณ 10 ปี ก็เกิดจุดเปลี่ยนในชีวิต ซึ่งเป็นช่วงเศรษฐกิจไม่ดี บริษัทที่ทำอยู่เลิกกิจการ จึงออกมาเปิดเป็นร้านค้าส่งสินค้าเกี่ยวกับความงาม เนื่องจากตนเองเป็นคนที่ชื่นชอบเรื่องความสวยความงามเป็นทุนเดิม มีความสนใจและชอบใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของสมุนไพรอยู่แล้ว จึงตัดสินใจศึกษาต่อทางด้านเวชสำอาง และสมุนไพร จนจบเภสัชกรแพทย์แผนไทย สถาบันการแพทย์แผนไทย กระทรวงสาธารณสุข เพราะคิดว่าสมุนไพรสามารถนำมาต่อยอดผลิตเครื่องสำอางเพื่อทำเป็นธุรกิจได้ เมื่อศึกษาจบและได้ใบประกอบโรคศิลปะ ในปี 2549 จึงเปิดกิจการเครื่องสำอางสมุนไพรเต็มตัว

“ด้วยความที่เป็นคนชอบใช้สมุนไพร มีความรู้สึกว่ายิ่งใช้นานจะเกิดผลดีกับร่างกาย ไม่แปรสภาพเป็นสารตกค้าง จึงผลิตเครื่องสำอางสมุนไพรขึ้นเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคในราคาที่เหมาะสม และสามารถทำการตลาดได้ยั่งยืน เพราะการดูแลตัวเองด้วยสมุนไพรธรรมชาตินั้นเป็นการดูแลตัวเองอย่างยั่งยืนด้วยเช่นกัน” เจ้าของผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางสมุนไพร กล่าว

คุณอรประภา กล่าวต่อไปว่า สำหรับผลิตผลทางการเกษตรที่นำมาเป็นวัตถุดิบในการผลิตเครื่องสำอางสมุนไพรของชีววิถีนั้น บริษัทได้เข้าไปส่งเสริมเกษตรกรอยู่ 2 กลุ่ม คือ กลุ่มวิสาหกิจชุมชน “บ้านน้ำเกี๋ยน” จังหวัดน่าน ซึ่งเป็นแหล่งที่ปลูกใบหมี่ สำหรับนำไปผลิตเป็นแชมพูใบหมี่ป้องกันผมร่วงได้เป็นอย่างดี และอีกกลุ่มหนึ่ง คือวิสาหกิจชุมชนกลุ่มเกษตรกรแม่บ้าน “รำมะสัก” จังหวัดอ่างทอง จะปลูกขิง ข่า ตะไคร้ ไพล และได้รับซื้อจากเกษตรกรโดยตรงอีกในหลายพื้นที่ ฯลฯ นับเป็นการสร้างอาชีพ และช่วยรับซื้อผลผลิตทางการเกษตร ทำให้เกษตรกรในท้องถิ่น มีรายได้ที่มั่นคงมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น

“เมื่อเรามีแหล่งวัตถุดิบในการผลิตที่ดีแล้ว จึงมองหาช่องทางจำหน่ายที่มีประสิทธิภาพ ในปี 2556 ได้นำผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางสมุนไพร ได้แก่ แชมพูสระผมใบหมี่-อัญชัน, ครีมนวดส้นเท้า สูตรกล้วยหอม, ทรีตเมนต์มะพร้าว สูตรน้ำมันมะพร้าว และเครื่องดื่มสมุนไพรตรีผลา ฯลฯ เข้ามาจำหน่ายผ่านทเวนตี้โฟร์ ช้อปปิ้ง และร้านเซเว่นอีเลฟเว่น”  คุณอรประภา กล่าว

กรรมการผู้จัดการ กล่าวทิ้งท้ายว่า การได้ร่วมงานกับทางทเวนตี้โฟร์ ช้อปปิ้ง และเซเว่นอีเลฟเว่น ทำให้ผลิตภัณฑ์ชีววิถีเติบโตอย่างรวดเร็ว เพราะทางบริษัทจะมีทีมงานคอยให้คำแนะนำในเรื่องต่างๆ ที่ช่วยยกระดับแบรนด์ชีววิถีให้มีมาตรฐานและตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภค ด้วยการให้คำแนะนำในหลายๆ  ด้าน ทั้งทางด้านการพัฒนาแพ็กเกจจิ้ง พัฒนาคุณภาพสินค้า การทำการตลาด ตลอดจนมาตรฐานการผลิต ทำให้ทีมงานชีววิถีทุกคนพยายามพัฒนาตนเองในทุกๆ ด้าน ซึ่งการสร้างโรงงานแห่งนี้ส่วนหนึ่งก็เพราะการได้รับโอกาสในการเป็นคู่ค้ากับทเวนตี้โฟร์ ช้อปปิ้ง และเซเว่นอีเลฟเว่น ซึ่งเป็นช่องทางจำหน่ายที่มีศักยภาพสูงสามารถกระจายสินค้าของเราสู่ผู้บริโภคได้ทั่วประเทศ