5 ความเชื่อเรื่องเงิน ที่เข้าใจผิด เกี่ยวกับการลงทุน

5 ความเชื่อเรื่องเงิน ที่เข้าใจผิด เกี่ยวกับการลงทุน

เรื่องการลงทุนอาจจะดูเป็นเรื่องที่ยากและไกลตัว แต่ในความเป็นจริงแล้ว สิ่งเหล่านี้ไม่ได้ยากเลย เพียงแค่เรามีความเชื่อผิดๆ ที่ทำให้เราไม่กล้าที่จะลงทุนต่างหาก 

เมื่อความเชื่อในทางที่ผิดอยู่ในความคิดเราตลอด จนทำให้ไม่กล้าที่จะลงมือทำ ซึ่งจะส่งผลระยะยาว เพระจริงๆ แล้ว เราควรลงทุนเพื่อสร้างรากฐานในชีวิตให้มั่นคง และหากคุณลบความเชื่อทั้ง 5 สิ่งนี้ ที่เว็บไซต์ ttb ได้กล่าวถึง ก็อาจจะทำให้ความกล้าในการลงทุนเกี่ยวกับธุรกิจคุณมีมากขึ้นก็เป็นได้

1. การลงทุนเป็นเรื่องของคนรวย และคนที่ไม่มีหนี้

ใครๆ ก็ลงทุนได้ การลงทุนเป็นเรื่องของทุกคน ไม่ใช่เฉพาะคนรวยที่มีเงินเหลือ หรือคนไม่มีหนี้เท่านั้น

โดยสามารถเริ่มลงทุนควบคู่ไปกับการชำระหนี้ได้ ไม่จำเป็นต้องรอให้จ่ายหนี้สินให้หมดก่อนเสมอไป เราสามารถบริหารเงินไปพร้อมๆ กันได้ทั้ง 3 ก้อน คือ เงินจ่ายหนี้ เงินออม เงินลงทุน

และการเปิดพอร์ตเพื่อลงทุนในปัจจุบันสามารถทำได้ง่ายๆ เพียงเริ่มต้นลงทุนได้ตั้งแต่ 1 บาท – 1,000 บาท แล้วแต่เกณฑ์ของกองทุนนั้นๆ ก็สามารถลงทุนได้แล้ว

ซึ่งเงินที่งอกเงยจากการลงทุนจะช่วยให้เรามีพลังใจมากยิ่งขึ้น ทำให้รู้สึกดีกว่าการได้เงินมาแล้ว เราบริหารให้หมดไปกับการใช้จ่าย และจ่ายหนี้เพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่การลงทุนก็ยังมีความเสี่ยง ดังนั้น ควรต้องศึกษา และปรึกษาผู้เชี่ยวชาญควบคู่กันไปด้วย

2. วางแผนเกษียณ เป็นเรื่องของคนสูงวัย

การเกษียณไม่ได้หมายถึง การหยุดทำงานอย่างเดียวเสมอไป แต่หมายถึงการมีอิสรภาพทางการเงิน ที่สามารถมีเงินใช้จ่ายในแต่ละเดือนได้โดยไม่ต้องทำงาน

การวางแผนเกษียณจึงไม่ใช่เรื่องสำหรับคนสูงวัยเพียงเท่านั้น แต่เป็นเรื่องของทุกคน ยิ่งเริ่มวางแผนเกษียณได้ไว ก็ยิ่งเก็บเงินได้เร็วขึ้น หรือมากขึ้นด้วย คนวัยเลข 2 หรือเลข 3 ก็สามารถวางแผนเกษียณได้ เพื่อเป้าหมายที่จะได้ใช้ชีวิตที่ต้องการ โดยไม่ต้องกังวลเรื่องรายจ่าย

ยกตัวอย่างสูตรคำนวณ “จำนวนเงินที่ต้องมีในวัยเกษียณ” เพื่อวางแผนเกษียณแต่เนิ่นๆ
(อายุขัย – อายุที่พร้อมเกษียณ) x 12 x ค่าใช้จ่ายรายเดือนยามเกษียณ = จำนวนเงินที่ต้องมีในวัยเกษียณ
(80 – 55) x 12 x 15,000 = 4,500,000 บาท

จากตัวอย่างคำนวณจะเห็นว่า หากต้องการเกษียณที่อายุ 55 ปี และต้องการใช้จ่ายเดือนละ 15,000 บาท

โดยคำนวณจากอายุไขเฉลี่ยที่ 80 ปี จะต้องเตรียมเงินเพื่อไว้ใช้หลังเกษียณ 4.5 ล้านบาท

เมื่อรู้เป้าหมายจำนวนเงินที่ต้องใช้ในวันเกษียณแล้ว สามารถคิด คำนวณการเก็บเงิน หรือเงินออมรายเดือนเพื่อเป้าหมายการเกษียณได้ตามสูตรนี้

เงินที่ต้องใช้หลังเกษียณ ÷ (อายุที่พร้อมเกษียณ – อายุปัจจุบัน) x 12 = เงินออมรายเดือนเพื่อการเกษียณ
4,500,000 ÷ (55 – 25) x 12 = 12,500 บาท

เพราะฉะนั้น หากในปัจจุบันอายุ 25 ปี จะต้องออมสำหรับการเกษียณอายุอย่างน้อยเดือนละ 12,500 บาท

นอกจากนี้ ตัวช่วยสำคัญที่ทำให้ไปถึงเป้าหมายการออมเพื่อวัยเกษียณได้จริง และเร็วขึ้น คือการแบ่งเงินมาลงทุน โดยเลือกการลงทุนที่เรายอมรับความเสี่ยงได้ในแต่ละช่วงอายุ เพื่อให้มีโอกาสในการรับผลตอบแทนที่ชนะเงินเฟ้อ และได้รับผลตอบแทนที่ทำให้เงินของเรางอกเงยขึ้นอีกด้วย

3. ลงทุนมีความเสี่ยงกว่าการออม

ไม่ถูกทั้งหมด เพราะการไม่ลงทุนอาจมีความเสี่ยงมากกว่า เนื่องจากเมื่อเวลาผ่านไป มูลค่าของเงินมีแนวโน้มที่จะน้อยลง เนื่องจากปัจจัยด้านเงินเฟ้อ ซึ่งอัตราเงินเฟ้อที่เกิดขึ้นนั้น โดยทั่วไปมักสูงกว่าอัตราผลตอบแทนที่ได้จากการออม ยกตัวอย่างให้เห็นภาพ เช่น ราคาก๋วยเตี๋ยวต่อชามในปัจจุบัน เมื่อเปรียบเทียบกับ 20 ปีก่อน ปัจจุบันราคาต่อชามมีราคาสูงกว่าหลายเท่าเลยทีเดียว ดังนั้น การไม่ลงทุนเลย อาจมีความเสี่ยง หรือผลกระทบต่อมูลค่าของเงินเราได้เช่นกัน

นอกจากนี้ เราสามารถเลือกลงทุนกับเครื่องมือที่มีความเสี่ยงน้อยได้ หรือเลือกตามความเสี่ยงที่เรายอมรับได้ เช่น ลงทุนในตราสารหนี้ (Bond) ไม่ว่าจะเป็นในรูปแบบของ ตั๋วเงินคลัง และพันธบัตรรัฐบาล ถือเป็นการลงทุนที่มีความเสี่ยงต่ำมากที่จะเสียเงินต้นไป เพราะหน่วยงานที่กู้มีความมั่นคงสูง และยังเป็นการลงทุนที่ให้ผลตอบแทนสม่ำเสมอ และยังช่วยเพิ่มโอกาสได้รับผลตอบแทนมากกว่าดอกเบี้ยเงินฝากทั่วไป ที่ปัจจุบันอยู่ที่ประมาณ 0.3-0.5% (Setinvestnow.com)

4. อยากรวยเร็วต้องเล่นหุ้น

การลงทุนในตลาดหุ้น เป็นการลงทุนที่ต้องอาศัยความรู้ ทักษะ และหลักการลงทุนที่มีระบบชัดเจนถึงจะประสบความสำเร็จในการลงทุนหุ้นได้

การคาดหวังที่จะรวยเร็วๆ อาจทำให้เราเลือกไปลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูง ซึ่งหากไม่มีความรู้มากเพียงพอ ก็จะทำให้ขาดทุนได้ง่ายๆ แทนที่จะรวย กลับกลายเป็นเสียเงินก้อนแทน เพราะฉะนั้น เราจึงไม่ควรโฟกัสที่เป้าหมายความร่ำรวยอย่างเดียว แต่ควรโฟกัสที่ความรู้ ความเข้าใจ ตลอดจนความสามารถในการลงทุนของเรา และกระบวนการลงทุน จึงจะทำให้ประสบความสำเร็จได้อย่างยั่งยืน

แต่สำหรับใครที่สนใจการลงทุน แต่ไม่รู้จะเริ่มจากตรงไหน การลงทุนในกองทุนรวมที่มีผู้เชี่ยวชาญคอยจัดพอร์ตการลงทุนให้ก็เป็นอีกตัวเลือกที่น่าสนใจ

5. ลงทุนต้องมีเวลา จะซื้อขายก็ต้องติดตามตลอดเวลา

ไม่จริง เพราะมีเครื่องมือที่หลากหลายช่วยดูแลพอร์ตการลงทุนโดยผู้เชี่ยวชาญ อย่างเช่น ttb smart port เหมาะสำหรับคนที่ไม่มีเวลา หรือเพิ่งเริ่มลงทุน ก็ลงทุนได้อย่างสบายใจ เพราะมีผู้เชี่ยวชาญดูแลให้ เพียงใช้เงินแค่ 1 บาทก็สามารถเริ่มลงทุนได้ และยังเลือกลงทุนได้ตามกำลังเงินของเรา เช่น เริ่มจากแบ่งเงินไว้ลงทุนเดือนละ 1,000 บาทอย่างสม่ำเสมอ

เมื่อทุกคนอ่านมาจนถึงตรงนี้แล้ว จะเห็นว่าทั้ง 5 ความเชื่อผิดๆ นี้เป็นสิ่งที่เราสามารถปรับเปลี่ยนทัศนคติใหม่ได้ เมื่อเราเข้าใจมากขึ้น มีความกล้ามากขึ้น ก็สามารถเลือกการลงทุนที่เหมาะสมกับตัวเอง เพราะการลงทุนจะไม่เป็นเรื่องไกลตัวของคุณอีกต่อไป

อย่างไรก็ตาม การลงทุนย่อมมีความเสี่ยง ก่อนที่จะคิดลงทุนต้องทำความเข้าใจในลักษณะสินค้า และเงื่อนไขต่างๆ ให้ละเอียดเสียก่อน เมื่อศึกษาข้อมูลดีแล้ว ก็เริ่มลงทุนกันได้เลย