เผยแพร่ |
---|
เชฟอาหารญี่ปุ่น จากแดนอีสาน บุกเบิกธุรกิจจากการขายซูชิในตลาดนัด คำละ 5 บาท สู่ร้านอาหารรายได้หลักแสนต่อเดือน
“ผมเป็นคนที่มักเฮ็ดอาหารอยู่แล้ว อยู่สารคามกะหาอยู่หากินตามทุ่งนา เพราะถ้าลองสังเกตเบิ่งบ่ว่าเชฟอาหารไทย อาหารเกาหลี อาหารญี่ปุ่น เป็นคนอีสานเบิ่ด เพราะผมกะเฮ็ดอยู่ (หัวเราะ)”
เชฟน้อย-สมาน เอี้ยงไธสง เจ้าของร้านนิกิริ ซูชิ ผู้มีบุคลิกอันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว คือ ใส่แว่นตา ไว้หนวดหนา อารมณ์ดี มีใบหน้าคล้ายคนญี่ปุ่น ทั้งที่เป็นคนอีสานแท้ๆ
ก่อนที่เชฟน้อยจะมาเปิดร้านอาหารญี่ปุ่นอย่างทุกวันนี้ เขาเก็บเกี่ยวประสบการณ์มาอย่างโชกโชน ด้วยคำถามที่ท้าทายตัวเองว่า “อยากจะรู้ว่าตัวเราจะไปได้ไกลแค่ไหน”
มีวันนี้ได้เพราะไม่ชอบครัวร้อน
เชฟน้อย เล่าว่า เขาเริ่มเข้าสู่ธุรกิจร้านอาหารครั้งแรกจากการที่เพื่อนชวน โดยไปเปิดร้านอาหารอีสานที่สยาม ตอนเชฟน้อยอายุ 21 ปี เท่านั้น แต่ทำได้ไม่นานก็ผันตัวมาลองปั้นซูชิในห้างหรูแทน
“พอทำร้านอาหารอีสานไปได้สักระยะ ผมรู้ตัวเลยว่าผมเป็นคนไม่ชอบครัวร้อน เพราะการทำร้านอาหารอีสาน เราต้องเตรียมของในครัวร้อนๆ ตลอดเวลา และถือเป็นช่วงจังหวะดี ที่เพื่อนที่ทำงานอยู่ร้านอาหารญี่ปุ่นมาชวนผมไปทำด้วย ตอนนั้นยังไม่มีประสบการณ์ แต่ก็อยากลองดู พอได้ลองไปทำร้านอาหารญี่ปุ่นแล้วก็รู้สึกชอบมาก รู้สึกว่าเหมาะกับตัวเองดี เพราะมันเป็นครัวเย็น (หัวเราะ)”
“ผมไปอยู่ในวงการร้านอาหารญี่ปุ่นได้ 10 ปี ระหว่างนั้นก็เปลี่ยนร้านไปเรื่อยๆ จากผู้ช่วยเชฟ มาเป็นหัวหน้าเชฟ ปั้นซูชิหน้าร้าน จากนั้นก็มาเป็นเชฟลีดเดอร์ที่ได้เทรนเชฟคนอื่นๆ จนถึงอายุ 30 ก็ออกมาขายคอหมูย่าง”
ชีวิตพลิกผันอีกครั้ง แต่ยังไม่ทิ้งอาหารญี่ปุ่น
เหตุผลที่ลาออกจากการเป็นเชฟในร้านอาหารญี่ปุ่นมาขายคอหมูย่างในตลาดนัด ทั้งที่หน้าที่การงานกำลังไปได้ดี เป็นเพราะเชฟน้อยอยากมีธุรกิจเป็นของตัวเอง เพื่อให้ครอบครัวได้อยู่กันสบายขึ้น แต่ความสำเร็จก็ไม่ได้มาง่ายๆ อย่างที่คิด
เชฟน้อย เล่าว่า “จุดเปลี่ยนแปลงจริงๆ เริ่มจากเงินทุนและกำไรที่ได้มาจากการขายคอหมูย่างนั้นไม่ถึงเกณฑ์ที่จะรับได้ แต่ด้วยความที่เรามีประสบการณ์ทำอาหารญี่ปุ่นมาเป็นสิบปี ตอนนั้นเลยตัดสินใจลองเปิดขายซูชิอีกแผงหนึ่งใกล้ๆ กัน”
“ตอนนั้นผมขายแค่ 5 บาท เปิดร้านวันแรก 2-3 ชั่วโมงขายหมดแล้ว กระแสตอบรับจากลูกค้าเป็นไปในทิศทางที่ดี เมื่อเทียบกำไรจากการขายซูชิ เราได้กำไรเยอะกว่าคอหมูย่างหลายเท่า แม้ราคาวัตถุดิบจะแพงขึ้น ทำให้ผมต้องปรับราคาจากซูชิคำละ 5 บาท ขยับเป็น 7 บาท 10 บาท 20 บาท 70 บาท 100 บาท ไปเรื่อยๆ ตามราคาวัตถุดิบ แต่ลูกค้าก็ยังสนับสนุน จนมีลูกค้าประจำหลายคนมาบอกว่าอยากให้เปิดร้าน”
เพราะฟังความเห็นลูกค้าในวันนั้น จึงมีร้านนิกิริ ซูชิ ในวันนี้
“เขาบอกผมว่า ‘ซื้อกลับไปกินที่บ้าน ไม่อร่อยเหมือนกินที่หน้าร้านเลย’ อย่างที่เรารู้กัน การกินซูชิมันจะอร่อยที่สุดใน 15 นาทีแรก และคำขอของลูกค้าในวันนั้นมันคือจุดเปลี่ยนที่ทำให้ผมเปิดร้านนิกิริ ซูชิ ซึ่งพอเปิดร้านวันแรก ขายแค่แป๊บเดียวก็ของหมด หรือแม้แต่ตอนนี้ เราปิดร้าน 4 ทุ่ม แต่บางวัน 2-3 ทุ่ม ของก็หมดแล้ว”
“กำไรทุกวันนี้ก็ตกเดือนละ 2-3 แสนบาท ตั้งแต่เปิดร้านมาไม่เคยขาดทุนเลย อาจจะมีเท่าทุนบ้างช่วงโควิด” เชฟน้อย เสริม
ความใส่ใจ ทัศนคติ และตัวช่วย คือ 3 สิ่งที่ทำให้ร้านปัง
นอกจากความอารมณ์ดีของเชฟน้อย ที่เขามักจะยิ้มและหัวเราะอยู่เสมอ ทุกครั้งที่ได้คุยกัน เราจะรับรู้ได้ถึงพลังบวกและทัศนคติที่ดี ใครเคยไปร้านนิกิริ ซูชิ ก็จะรู้กันดีว่าเชฟน้อยมักจะอยู่ดูแลร้านด้วยตัวเองอยู่เสมอ และไม่ใช่แค่ทำอาหารเสิร์ฟตามหน้าที่ แต่เชฟน้อยยังชอบพูดคุยและรับฟังความเห็นของลูกค้า ซึ่งเรารู้กันว่าความเห็นของลูกค้าเป็นที่มาที่ทำให้เชฟน้อยมาเปิดร้านอาหารญี่ปุ่นเป็นของตัวเอง หลังจากโลดแล่นอยู่ในวงการร้านอาหารมากว่า 10 ปี
การบริหารร้านให้มีกำไร ทั้งที่ขายราคาไม่แพง, การควบคุมอาหารให้อร่อย มีคุณภาพดีอยู่เสมอ, แถมยังสามารถดูแลลูกค้าแบบทุกระดับประทับใจ ทั้งที่เป็นร้านขายดี แน่นอนว่าเชฟน้อยต้องมีตัวช่วย
“ตอนทำร้านอาหารอีสานผมใช้ซอสทาคูมิ อายิ เป็นส่วนผสมในการย่างหมู ย่างเนื้อ ย่างปลาดุก โดยเฉพาะซอสเทริยากิมันจะทำให้อาหารดูน่าทานมากขึ้น กลิ่นหอม และประหยัดเวลา”
“จากตอนนั้นถึงตอนนี้ก็ 10 ปีแล้วที่อยู่ด้วยกันมา ถือว่าเป็นสารตั้งต้นของความอร่อยในเกือบทุกเมนูของร้านนิกิริ ซูชิ เลยก็ว่าได้ ทำให้อาหารอร่อยถูกปากลูกค้าได้ไม่ยาก เราก็ไม่ต้องมาปวดหัวเรื่องรสชาติ มีเวลาไปดูแลส่วนอื่นๆ”
10 ปีที่อยู่ข้างกันมาอย่างยาวนาน ทำให้ร้านนิกิริ ซูชิ ตัดสินใจร่วมมือกับซอสปรุงรส ทาคูมิ อายิ รังสรรค์เมนูสุดพิเศษขึ้นมา 2 เซ็ต
พบกับเมนูพิเศษจากซอสปรุงรส ทาคูมิ อายิ ได้ที่ร้าน นิกิริ ซูชิ
เซ็ตที่ 1 เซ็ตทาคูมิดงบุริ ประกอบด้วย
ข้าวหน้าเนื้อหรือหมู (สามารถเลือกเนื้อสัตว์ได้)
เสิร์ฟพร้อมกับ ยำวากาเมะแซลมอนสด และแคลิฟอร์เนียไข่กุ้ง
โดยเซ็ตหมูราคา 299 บาท และเซ็ตเนื้อ ราคา 319 บาท
เซ็ตที่ 2 เซ็ตแซลมอนทาคูมิ ประกอบด้วย
ข้าวหน้าแซลมอนดองซอสโชยุ
เสิร์ฟพร้อมกับ ยำวากาเมะแซลมอนสด และแคลิฟอร์เนียไข่กุ้ง เช่นกัน
ในราคา 299 บาท เท่านั้น
พิเศษสุดๆ วันที่ 1-31 กรกฎาคม 2566*
เพียงสั่งเมนูพิเศษจาก ทาคูมิ อายิ ที่ร้านนิกิริ ซูชิ ชุดใดก็ได้ ทั้งทานที่ร้านหรือผ่านช่องทางดีลิเวอรี Robinhood
รับฟรี! ทาคูมิ อายิ ซอสโชยุญี่ปุ่น ขนาด 200 มล.
*หรือจนกว่าของสมนาคุณจะหมด / ของสมนาคุณมีจำนวนจำกัด
ร้านนิกิริ ซูชิ ถนนนวมินทร์ 68 https://goo.gl/maps/z9H9e59fk3ooY4ZC8
#ทาคูมิอายิ #TakumiAji #ทาคูมิอายิโชยุญี่ปุ่น #โชยุญี่ปุ่น #ซอสเทริยากิ #ปรุงเมนูฮิตติดร้าน #กลมกล่อมติดเทรนด์ลูกค้าติดใจ #ซูชิริมทาง #นิกิริซูชิ