“โครงการไทยเด็ด” เด็ดที่ช่วยสร้างคุณภาพชีวิตและอนาคตที่สดใสให้สังคมชุมชนไทย

เพราะเชื่อมั่นในเรื่อง “การเติบโตไปด้วยกัน” และมองเห็นความสำคัญของ “การมีส่วนร่วมกันกับชุมชน” เพื่อนำพาสังคมและชุมชนไทยก้าวไปสู่การมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นร่วมกันอย่างยั่งยืน และสามารถพึ่งพาตัวเองได้

ทำให้ บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ โออาร์ บริษัทในกลุ่ม ปตท. ที่ดำเนินธุรกิจด้านน้ำมัน ธุรกิจค้าปลีก และธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องทั้งในและต่างประเทศ โดยมีวิสัยทัศน์ในการเป็นแบรนด์ไทยชั้นนำระดับโลกที่สร้างคุณค่าให้กับชุมชน จึงมุ่งมั่นดำเนินโครงการต่างๆ ที่สร้างประโยชน์ให้สังคมชุมชน และร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาศักยภาพของผู้ผลิตสินค้าชุมชนและผู้ประกอบการขนาดย่อม (SMEs) ไทย ให้ก้าวสู่มาตรฐานสากล โดยหนึ่งในโครงการสำคัญของโออาร์ ก็คือ “โครงการไทยเด็ด”

ผนึกกำลังพันธมิตร สร้างชุมชนเข้มแข็ง ยั่งยืน

“โครงการไทยเด็ด” จัดตั้งขึ้นเมื่อปี 2561 โดยการรวมตัวของ 6 หน่วยงานพันธมิตร ได้แก่ กรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน กระทรวงพลังงาน กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย ธนาคารออมสิน และโออาร์ ซึ่งมีเจตนารมณ์ร่วมกันในการสนับสนุนและผลักดันเศรษฐกิจฐานรากของประเทศให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น และเติบโตอย่างเข้มแข็งและยั่งยืน 

โดยพันธมิตรแต่ละราย มีบทบาทในการสนับสนุนและพัฒนาวิสาหกิจชุมชนและผู้ประกอบการขนาดย่อมทั่วประเทศตามหน้าที่และความถนัดของแต่ละหน่วยงาน เช่น การสนับสนุนเงินทุนในการดำเนินงาน การสนับสนุนอุปกรณ์เครื่องจักรสำหรับการผลิตสินค้า การเพิ่มพูนความรู้ในด้านต่างๆ ให้กับวิสาหกิจชุมชนและผู้ประกอบการขนาดย่อม นอกจากนี้ ยังมีการต่อยอด พัฒนา และแปรรูปผลิตภัณฑ์ที่เป็นสินค้าดีสินค้าเด่นประจำท้องถิ่น ให้มีคุณภาพและเป็นที่ต้องการของผู้บริโภคในประเทศ และก้าวไกลถึงต่างประเทศในอนาคต

ในส่วนของ โออาร์ รับหน้าที่สำคัญในการเพิ่มช่องทางการขายให้กับสินค้าชุมชน เพื่อช่วยวิสาหกิจชุมชนและผู้ประกอบการท้องถิ่น ได้มีโอกาสในการนำสินค้าไปสู่สายตาผู้บริโภคทั่วประเทศได้เร็วขึ้นและทั่วถึงขึ้น โดยนำจุดแข็งคือ จำนวนสถานีบริการน้ำมัน PTT Station กว่า 1,900 แห่งทั่วประเทศ มาเป็นช่องทางการจำหน่ายให้กับผลิตภัณฑ์ชุมชน ที่ผ่านการคัดสรรจากหน่วยงานพันธมิตรแล้วว่าเป็น  “สินค้าดีสินค้าเด็ด” เพื่อนำมาให้ผู้แทนจำหน่ายสถานีบริการน้ำมัน PTT Station ทั่วประเทศ คัดเลือกไปวางจำหน่าย ณ “มุมสินค้าไทยเด็ด” ที่อยู่ในสถานีบริการ PTT Station

ไม่เพียงแค่เพิ่มช่องทางจำหน่ายให้กับสินค้าดีสินค้าเด็ดของชุมชนได้มีโอกาสไปวางจำหน่ายทั่วประเทศ โออาร์ยังสนับสนุนผลิตภัณฑ์ชุมชนอย่างเต็มกำลัง ด้วยการจัดกิจกรรมประชาสัมพันธ์ในหลากหลายรูปแบบ เช่น การทำประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อต่างๆ อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ผู้บริโภคได้รู้จักและสนใจเลือกซื้อสินค้า อาทิ การจัดงาน “ไทยเด็ด Matching Day” ที่เปิดโอกาสให้วิสาหกิจชุมชนและผู้ประกอบการขนาดย่อม ได้มีโอกาสนำเสนอสินค้าโดยตรงให้กับผู้ประกอบการสถานีบริการน้ำมัน PTT Station โดยปัจจุบันได้มีการจัดงานแล้วรวม 5 ครั้ง

ปัจจุบัน “โครงการไทยเด็ด” มีพันธมิตรรวมทั้งสิ้น 7 ราย โดยพันธมิตรรายล่าสุดที่เข้ามาเมื่อต้นปี 2563  คือ สมาคมเพื่อนชุมชน ซี่งมีจุดแข็งคือ เป็นหน่วยงานที่เกิดจากการรวมตัวกันของผู้ประกอบการอุตสาหกรรมในพื้นที่มาบตาพุด ที่มีเจตนารมณ์ในการยกระดับคนในชุมชนให้มีคุณภาพชีวิตที่ดี ด้วยการวางรากฐานอาชีพ เพื่อให้ชุมชนสามารถพึ่งพาตนเองได้อย่างยั่งยืน ซึ่งปัจจุบันสมาคมเพื่อนชุมชนมีวิสาหกิจชุมชนในพื้นที่ จ.ระยอง ที่ได้ให้การดูแลและพัฒนาแล้วหลายผลิตภัณฑ์ อาทิ อาหารทะเลแปรรูป ผลไม้แปรรูป ผลิตภัณฑ์ผ้าหมักจากน้ำนมข้าว เป็นต้น ซึ่งจะมาร่วมเสริมทัพให้ “โครงการไทยเด็ด” มีเครือข่ายที่กว้างขวางขึ้น มีประเภทสินค้าหลากหลายขึ้น และเติบโตไปด้วยกันอย่างยั่งยืน

3 สินค้าสุดฮิต “ไทยเด็ด” 

ใครที่เคยแวะใช้บริการ ณ สถานีบริการน้ำมัน PTT Station และมีโอกาสแวะช็อปสินค้าที่ “มุมสินค้าไทยเด็ด” จะเห็นสินค้าจากวิสาหกิจชุมชนหลากหลายชนิด หลากหลายประเภท ที่ทางผู้ประกอบการสถานีบริการน้ำมัน PTT Station ทำการเลือกสรรมาวางจำหน่าย เพื่อให้ผู้สัญจรและผู้ใช้บริการสถานีบริการน้ำมันได้มีโอกาสเลือกซื้อเป็นของขบเคี้ยวระหว่างเดินทาง หรือซื้อเป็นของฝากเพื่อนและญาติสนิทก็ถูกใจผู้รับ โดยสินค้าไทยเด็ดยอดฮิต ที่ใครหลายคนไม่พลาดที่จะถามหา ได้แก่

  • กระเทียมดำ B-Garlic สินค้าโอท็อปชื่อดังจากจังหวัดลำพูน ที่มาจากการนำกระเทียมไทยพื้นบ้านมาหมักบ่มด้วยนวัตกรรมสมัยใหม่ จนกลายมาเป็นกระเทียมดำที่มีคุณค่าและสารอาหารมากกว่ากระเทียมทั่วไปถึง 13 เท่า ที่สำคัญ เป็นการช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกกระเทียมที่เคยประสบปัญหาราคากระเทียมตกต่ำจนหมดเนื้อหมดตัว ให้มีรายได้และอาชีพที่มั่นคงด้วยการรับซื้อกระเทียมล่วงหน้าด้วยราคาที่เกษตรกรและโรงงานอยู่ได้ นอกจากนี้ ยังมีการจ้างงานชาวบ้านที่อยู่บริเวณใกล้เคียงโรงงานให้มีงานทำ ไม่ต้องออกไปหางานไกลบ้าน โดยผู้ประกอบการกระเทียมดำ B-Garlic กล่าวว่า หลังจากที่ได้เข้าร่วมโครงการไทยเด็ด สินค้ามียอดจำหน่ายสูงขึ้น โดยปัจจุบันมีการรับซื้อกระเทียมจากชาวบ้านเพิ่มขึ้นจากเดือนละ 10 ตัน เป็น 20 ตันต่อเดือน
  • กระเป๋ากระจูด ชาวบ้านแถบป่าพรุทางภาคใต้ของประเทศ รู้จักการนำต้น “กระจูด” มาสร้างประโยชน์ด้วยการนำมาจักสานเป็นของใช้ในบ้าน เช่น เสื่อ กระบุงใส่ข้าว ปัจจุบันมีการนำมาเพิ่มมูลค่าอีกขั้นด้วยการพัฒนาเป็นสินค้าแฟชั่น เช่น “กระเป๋ากระจูด” ที่มีลวดลายสวยงามและรูปแบบทันสมัย ถูกใจคนรุ่นใหม่ที่ชื่นชอบผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติและงานแฮนด์เมดฝีมือชาวบ้าน โดยหนึ่งในผู้ประกอบการร้านจำหน่ายกระเป๋ากระจูดในมุมสินค้าไทยเด็ด ในสถานีบริการน้ำมัน PTT Station เปิดเผยว่า หลังจากที่โออาร์นำกระเป๋ากระจูดเข้าโครงการไทยเด็ด และช่วยโปรโมตสินค้าให้เป็นที่รู้จัก ได้รับการตอบรับอย่างดี สินค้ามียอดจำหน่ายเพิ่มขึ้น 2-3 เท่าตัว ทำให้ปัจจุบันมีการรับซื้อกระเป๋ากระจูดจากชาวบ้านมากขึ้น ชุมชนมีรายได้เพิ่มขึ้น และที่สำคัญ เป็นการต่อยอดภูมิปัญญาชาวบ้านของไทยไม่ให้สูญหายตามกาลเวลา
  • ผัดไทภูเขาไฟ จากผัดไทยร้านเล็กๆ ริมทาง ที่เกิดขึ้นด้วยความตั้งใจของครูกานต์ อดีตแม่พิมพ์ของชาติ เพื่อสร้างงาน สร้างรายได้ให้กับชาวบ้านละแวกใกล้เคียง โดยนำสูตรเด็ดเคล็ดลับความอร่อยประจำครอบครัวคือ ผัดไทยและหมี่กรอบส้มซ่า มาผสมผสานจนเป็นผัดไทยส้มซ่า ที่มีเอกลักษณ์ความอร่อยไม่เหมือนใครและยังสร้างอัตลักษณ์ความเป็นบุรีรัมย์ ด้วยการนำวัตถุดิบ เช่น ข้าว หอม กระเทียม พริก ส้มซ่า กุยช่าย น้ำตาลอ้อย ที่ปลูกบนดินภูเขาไฟมารวมเป็นผัดไทย 1 จาน จึงเรียกว่า ผัดไทภูเขาไฟ และมีการพัฒนามาเป็นผัดไทยกึ่งสำเร็จรูป เพื่อกระจายความอร่อยไปยังจังหวัดอื่นๆ ใกล้เคียง โดยมียอดจำหน่ายอยู่ที่ปีละ 10,000 ซอง และหลังจากที่โออาร์ได้นำผัดไทภูเขาไฟเข้าโครงการไทยเด็ด ผลที่ได้รับคือ ผัดไทภูเขาไฟกลายเป็นสินค้าขายดี ยอดขายพุ่งขึ้นเป็น 10,000 ซองภายในสัปดาห์เดียว ทำให้ปัจจุบันมียอดจำหน่ายสินค้าอยู่ที่ 480,000 ซองต่อปี และมีการขยายเครือข่ายชุมชนผัดไทภูเขาไฟที่ทำการส่งวัตถุดิบให้ทางโรงงานเพิ่มขึ้นจากเดิม 8 ชุมชนเป็น 20 ชุมชน

ล่าสุด “โครงการไทยเด็ด” ได้คัดเลือกสินค้าดีสินค้าเด็ดประจำท้องถิ่น เข้ามาเสริมทัพในมุมสินค้าไทยเด็ดอีกมากมาย อาทิ ข้าวแตนน้ำแตงโมบรรจุกระป๋อง “LeeRice” ของดีเมืองมีนบุรี ที่ช่วยสร้างงานสร้างอาชีพให้กับคนในชุมชน และ “ขนมปั้นขลิบน้องหนึ่ง” ของเด็ดเมืองพัทลุง ที่ไม่เพียงมีดีแค่ความอร่อย แต่ยังมีคุณค่าทางโภชนาการสูงและยังรวมอัตลักษณ์เด่นของเมืองพัทลุงได้ในขนม 1 คำ เป็นต้น

โครงการไทยเด็ดในมุมมองผู้ประกอบการสถานีบริการน้ำมัน 

นายเฉลิมเกียรติ เป็นศิริ ผู้ประกอบการสถานีบริการน้ำมัน PTT Station ปั๊มลุงเท่ง อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี ผู้บริหารร้านจำหน่ายของฝากและมุมสินค้าไทยเด็ดที่ใหญ่ที่สุดในภาคใต้ เปิดเผยว่า การทำธุรกิจสมัยนี้ จะมองกันที่ผลกำไรอย่างเดียวไม่ได้ ต้องมองที่ชุมชนและสิ่งแวดล้อมรอบข้างด้วย ชุมชนจะต้องเติบโตไปคู่ไปกับธุรกิจ 

“ในฐานะผู้ประกอบการสถานีบริการน้ำมัน PTT Station รู้สึกดีใจมากที่ผู้บริหารโออาร์ จัดตั้ง “โครงการไทยเด็ด” ขึ้น เพื่อให้เราได้มีโอกาสนำประสบการณ์และความรู้ที่มีเข้าไปแนะนำ และพัฒนาสินค้าร่วมกับชุมชน รวมถึงได้คัดเลือกสินค้าของดีแต่ละชุมชนที่ผ่านการคัดเลือกจากกลุ่มพันธมิตร เข้ามาวางจำหน่ายในมุมสินค้าไทยเด็ด เป็นการช่วยเหลือผู้ประกอบการขนาดเล็กและวิสาหกิจชุมชนได้มีช่องทางจำหน่ายสินค้า ส่วนผู้บริโภคก็ได้อุดหนุนสินค้าที่หลากหลายขึ้น และมาจากชุมชนอย่างแท้จริง”

ไม่หยุดพัฒนา สร้างเครือข่ายชุมชน

จากการดำเนินงาน “โครงการไทยเด็ด” ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ของโออาร์และกลุ่มพันธมิตร ที่ร่วมกันสร้างความเป็นอยู่และคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นให้กับสังคมชุมชน มีวิสาหกิจชุมชนและผู้ประกอบการ SMEs เข้าร่วมโครงการฯ กว่า 200 ราย และในอนาคต โออาร์และกลุ่มพันธมิตร จะยังคงเดินหน้า “โครงการไทยเด็ด” อย่างต่อเนื่องและไม่หยุดยั้ง เพื่อกระจายความเจริญและรายได้ไปสู่ชุมชนใหม่ๆ และช่วยยกระดับและสร้างมาตรฐานให้กับผลิตภัณฑ์ชุมชนให้ได้มาตรฐานและก้าวไกลสู่ระดับสากล สมตามเจตนารมณ์ที่วางไว้

“ไทยเด็ด เด็ดที่ความคิดของคนไทย ที่ช่วยเหลือกัน”