“อีริคสัน” บริษัทยักษ์สวีเดน ประกาศปรับพนักงานออก 3,000 ตำแหน่ง

วันที่ 4 ตุลาคม บริษัทอีริคสัน ผู้ผลิตสินค้าด้านโทรคมนาคมชื่อดังสัญชาติสวีเดน ประกาศจะดำเนินการปรับพนักงานออกจำนวน 3,000 ตำแหน่ง ในสายการผลิต ค้นคว้า และพัฒนา อย่างไรก็ตามบริษัทมีแผนการจ้างงานบุคลากรในตำแหน่งนักค้นคว้าและพัฒนาอยู่ 1,000 ตำแหน่งในช่วง 3 ปีจากนี้ ซึ่งการปรับลดพนักงานครั้งนี้เป็นสิ่งที่เรียกว่า “ช่วงเปลี่ยนผ่านครั้งสำคัญ”
“เรายังคงให้ความสำคัญกับการค้นคว้าและวิจัยพัฒนา แต่ที่ผ่านมาพนักงานของอีริคสันส่วนมากทำงานในภาคส่วนการพัฒนาซอฟ์ทแวร์และการบริหารค่อนข้างมากกว่าสายงานด้านการผลิตและฮาร์ดแวร์”ผู้บริหารอีริคสันกล่าวในเอกสารแถลงข่าว
เขาระบุว่า ต้องการทำให้แน่ใจว่าการปรับแผนงานครั้งนี้จะทำให้อีริคสันสามารถต่อสู้แข่งขันในกระแสเทคโนโลยีและเป็นผู้นำในด้านการบริการได้
สำหรับอีริคสันปัจจุบันมีพนักงานในประเทศสวีเดน16,000 ตำแหน่ง และมีการจ้างงานทั่วโลก 116,000 ตำแหน่ง
การปรับลดพนักงานออก 3,000 ตำแหน่ง แยกเป็นในสายงานผลิต 1,000 ตำแหน่ง สายงานวิจัยและพัฒนา 800 ตำแหน่ง และส่วนปฏิบัติการณ์อื่นๆรวม 1,200 ตำแหน่ง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้เดือนเม.ย. ที่ผ่านมา อีริคสัน ได้ประกาศถึงเป้าหมายในการปรับโครงสร้างขององค์กร เพื่อมุ่งเน้นที่การลดค่าใช้จ่ายในส่วนที่ไม่จำเป็น อย่างไรก็ตาม ซีอีโอบริษัทยืนยันว่า จะเดินหน้าพัฒนาและปรับปรุงจุดอ่อนของบริษัท เพื่อการเติบโตที่เข้มแข็งขึ้น และยังคงศักยภาพคงเดิม แต่ค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นมีส่วนทำให้การเติบโตของบริษัทชะตัวขึ้น ดังนั้นหนึ่งในมาตรการสำคัญที่ทางบริษัทตัดสินใจนำมาใช้ คือ การปรับลดจำนวนพนักงานลงราว 1 ใน 5 ซึ่งปัจจุบัน
ก่อนหน้านี้ สื่อดังของสวีเดนอย่างหนังสือพิมพ์ “สเวนสกา ดักบลาเด็ต” (Svenska Dagbladet) รายงานว่า อีริคสันมีแผนปิดสายการผลิตในสวีเดน ซึ่งจะส่งผลให้พนักงานจำนวนถึง 3,000 คนว่างงาน โดยกระแสดังกล่าวมีขึ้นหลังจากที่บอร์ดบริหารของบริษัท มีมติปลด “ฮันส์ เวสต์เบิร์ก” ออกจากตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (ซีอีโอ) เมื่อเดือน ก.ค. หลังดำรงตำแหน่งมานานถึง 7 ปี โดยให้เหตุผลว่า การบริหารงานของอดีตซีอีโอ เวสต์เบิร์ก ทำให้บริษัทต้องเผชิญกับความยากลำบากมากขึ้น ซึ่งไม่สามารถปรับตัวเพื่อรับมือกับการแข่งขันที่รุนแรงมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การรับมือกับคู่แข่งอย่างโนเกีย, ซีเมนส์ และอัลกาแตล-ลูซองต์ รวมถึงประสบความยากลำบากในการสร้างรายได้จากตลาดโทรคมนาคม ที่ประสบภาวะอิ่มตัวและมีการแข่งขันสูงขึ้น โดยเฉพาะในตลาดในยุโรปและอเมริกาเหนือ