เพื่ออนาคตลูก ท้อไม่ได้ คุณพ่อนักสู้ ขับแกร็บ เลี้ยงทุกคนในครอบครัว 

เพื่ออนาคตลูก ท้อไม่ได้ คุณพ่อนักสู้ ขับแกร็บ เลี้ยงทุกคนในครอบครัว 
เพื่ออนาคตลูก ท้อไม่ได้ คุณพ่อนักสู้ ขับแกร็บ เลี้ยงทุกคนในครอบครัว 

เพื่ออนาคตลูก ท้อไม่ได้ คุณพ่อนักสู้ ขับแกร็บ เลี้ยงทุกคนในครอบครัว 

เมื่อพูดถึงคำว่า “พ่อ” เราจะนึกถึงภาพของผู้ชายที่เข้มแข็ง คนที่หวังดีและเคียงข้างเราเสมอ ลองมาดูเรื่องราวของคุณพ่อท่านนี้ พ่อผู้เป็นเสาหลักของทุกคนในครอบครัว คุณอู-เอกลักษณ์ บุญสืบสาย หนุ่มใหญ่วัย 43 ที่ยึดอาชีพขับแกร็บมานานกว่า 7 ปี

ย้อนกลับไปเมื่อปี 2525 หากใครเคยผ่านแถวสนามหลวงจะมีภาพของเด็กผู้ชายตัวเล็กๆ คนหนึ่งที่กำลังยืนขายถุงกระดาษที่หอบเอาไว้เต็มมือ เพื่อช่วยแม่หารายได้มาจุนเจือครอบครัว เด็กชายในวันนั้นได้เติบโตมาเป็นคุณอู

“ผมไม่ได้เกิดมาในครอบครัวร่ำรวย แม่เป็นกระเป๋ารถเมล์อยู่แถวสนามหลวง สิ่งที่เด็กในวัยนั้นอย่างผมพอจะทำได้เพื่อหาเงินมาช่วยแม่ คือการพับถุงกระดาษขาย ตอนนั้นผมอยากไปวิ่งเล่นสนุกกับเพื่อนนะ แต่พอเห็นแม่ลำบากผมก็ไม่อยากไป พอมองย้อนกลับไปสิ่งเหล่านั้นมันทำให้ผมกลายเป็นคนที่ไม่ยอมแพ้กับอะไรง่ายๆ” คุณอู เล่า 

ก่อนเล่าต่อ แต่ทุกอุปสรรคที่เคยมีมาเทียบไม่ได้เลยกับตอนที่ลูกชายคลอดก่อนกำหนด ซึ่งถือเป็นจุดเปลี่ยนในชีวิต เพราะความหวังเดียวในตอนนั้นคืออยากให้ลูกมีชีวิตรอด จึงตัดสินใจให้ภรรยาลาออกจากงานเพื่อมาดูแลลูกอย่างใกล้ชิด ส่วนตนต้องทำงานหลายอย่างเพื่อให้มีรายได้เพียงพอพยุงทุกคนในบ้าน ทั้งลูก ภรรยา และแม่ผู้ให้กำเนิด

“เหนื่อยกายนอนพักก็หาย แต่เพื่ออนาคตของลูกเราจะท้อไม่ได้ ตอนนั้นผมต้องทำทั้งงานประจำและงานพิเศษเพื่อให้มีรายได้มาดูแลครอบครัว จนมาวันหนึ่งผมเห็นรถแท็กซี่เปิดไฟว่างเข้ามาในหมู่บ้านเพื่อรับผู้โดยสาร ผมแปลกใจมากว่าเขารู้ได้ยังไงว่ามีคนต้องการเรียกรถอยู่ในซอยลึกขนาดนี้ จนได้ลองหาข้อมูล จึงได้รู้ว่าแกร็บเปิดให้บริการแล้ว

ผมเลยตัดสินใจมาขับแกร็บเพื่อหารายได้เสริม หลังจากที่ได้ลองขับหลังเลิกงานได้ไม่กี่เดือน ผมก็ตัดสินใจลาออกจากงานทันที ปัจจุบันแกร็บจึงกลายมาเป็นรายได้หลักที่ทำให้ผมเลี้ยงดูครอบครัวได้อย่างสบาย ผมว่าชีวิตก็ไม่ต่างอะไรกับการขับรถบนท้องถนน เมื่อก่อนอาจจะเจอทางขรุขระบ้าง แต่วันนี้ถนนที่ผมกำลังขับรถอยู่ราบเรียบขึ้นเยอะนะครับ” คุณอู เล่าด้วยเสียงหัวเราะ

ก่อนทิ้งท้ายว่า “ความหวังของผมตอนนี้ คืออยากเฝ้าดูการเติบโตของลูกให้นานที่สุด และอยากส่งเสียให้เขาเรียนให้สูงที่สุด โดยไม่ได้คาดหวังว่าจะต้องไปแข่งกับใคร อยากให้เขาได้ทำในสิ่งที่รัก วันหนึ่งเรียนจบมาแล้วไม่รู้จะทำอาชีพอะไรก็สามารถมาขับแกร็บเหมือนพ่อได้ ผมวางแผนว่าหากเศรษฐกิจกลับมาดีขึ้น ก็อยากจะออกรถเอสยูวีอีกคัน จะได้ใช้ทั้งขับแกร็บและพาลูกไปเที่ยวในวันหยุดได้ด้วย”