ผู้เขียน | โดย รัตติกรณ์ |
---|---|
เผยแพร่ |
ธุรกิจ “ผ้าใยบัว” เจ้าแรกในเวียดนาม ใช้ทอผ้า ได้ราคาสูงกว่า 10 เท่า
ถึงแม้การนำ “ใยบัว” มาทอผ้า ไม่ใช่ของใหม่ในภูมิภาคเอเชีย ที่ประเทศพม่าและกัมพูชา ต่างมีการนำใยบัวมาทอผ้านานแล้ว แต่สำหรับที่เวียดนาม พาน ที ท้วน ช่างทอผ้า วัย 65 ปี ในกรุงฮานอย บอกกับนักข่าวเอเอฟพีอย่างภูมิใจว่า “ฉันเป็นเจ้าแรกในเวียดนามที่นำใยบัวมาทอผ้า ฉันเริ่มทำทุกอย่างด้วยตัวเอง กระทั่งตอนนี้สามารถฝึกอบรมทุกอย่างในเวิร์กช็อปของฉัน”
ทุกวันนี้ธุรกิจทอผ้าของ พาน ที ท้วน ซึ่งสืบทอดมาตั้งแต่รุ่นป้าทวดที่ทอผ้าไหมขายให้แก่ฝรั่งเศสในยุคอาณานิคม สามารถสร้างงานให้แก่แรงงานหลายร้อยชีวิต และยังเพิ่มมูลค่าแก่ผลิตภัณฑ์ที่ทอจากใยบัวได้ถึง 10 เท่า
พาน ที ท้วน เล่าว่า เพิ่ง 3 ปีที่ผ่านมานี้เอง ที่เธอมองเห็นโอกาสทำเงินจากก้านบัว หลังจากสังเกตเห็นว่า มีก้านบัวในบึงใกล้ๆ ที่เมื่อเน่าเสีย ชาวไร่ ชาวสวนต้องใช้เวลาหลายชั่วโมงในการเก็บก้านบัวเหล่านั้นทิ้งไป
แต่เธอกลับมองว่า แทนที่จะปล่อยให้ก้านบัวเหล่านั้น เน่าเสียไปเปล่าๆ น่าจะลองเก็บก้านบัวเหล่านั้นมาหักแล้วนำใย มาทำ “ไหมใยบัว” ซึ่งเป็นที่ต้องการของบรรดาดีไซเนอร์ และทุกวันนี้สามารถสร้างงานให้แก่แรงงานจำนวนไม่น้อย
อย่างเช่น แรงงานผู้หญิงเกือบ 20 คนที่ท้วนจ้างให้ลงไปเก็บก้านบัวในบึง จากนั้นจึงนำมาหักก้านเพื่อนำ “ใยบัว” ออก แล้วนำใยบัวที่ได้ไปม้วนเป็นด้าย ขณะที่ยังมีแรงงานอีกหลายร้อยชีวิต ที่ท้วนจ้างให้ “ทอผ้า” จากบ้านแล้วนำมาส่ง ในช่วงที่มีออร์เดอร์เข้ามามาก
ท้วน เล่าว่า ผ้าพันคอผ้าไหมผืนใหญ่ จะใช้ใยบัวจากก้านบัว 9,200 ก้าน ใช้คนทอ 1 คน กว่าจะเสร็จก็ใช้เวลาราว 2 เดือน แต่เธอมองว่าคุ้มค่า “เพราะนอกจากจะช่วยสร้างงาน ยังช่วยรักษาสิ่งแวดล้อม”
นอกจากนั้น ขณะผ้าพันคอขนาดมาตรฐาน ขายในราคา 20 ดอลลาร์ หรือราว 640 บาท แต่หากเป็นผ้าพันคอผ้าไหมใยบัว แม้ผืนเล็กกว่ากลับได้ราคาสูงกว่าถึง 10 เท่า
ธุรกิจของท้วน ได้รับการสนับสนุนจากกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ที่มีโครงการ 3 ปีช่วยพัฒนาเทคนิคการเพาะปลูก เก็บเกี่ยว ในช่วงปิดเทอม ท้วนยังเปิดสอนการทอผ้าจากใยบัวให้แก่เด็กนักเรียน ได้มีโอกาสเรียนรู้อาชีพเก่าแก่ ที่มีมาตั้งแต่โบราณนี้ด้วย
“เมื่อตอนเริ่มต้น ฉันรู้สึกว่ามันยากมาก แต่ตอนนี้ฉันรักที่จะทำอาชีพนี้ มันเป็นอาชีพที่มั่นคงและเป็นอาชีพที่ฉันภูมิใจ” ท้วน ทิ้งท้าย