ผู้เขียน | มติชนออนไลน์ |
---|---|
เผยแพร่ |
วันที่ 21 กรกฎาคม สำนักวิจัยซูเปอร์โพล ได้เผยแพร่ผลสำรวจภาคสนาม หัวข้อเรื่อง “สุข ทุกข์ คนไทย” นายนพดล กรรณิกา ผู้อำนวยการสำนักวิจัยซูเปอร์โพล (SUPER POLL) เปิดเผยว่า ได้ทำการสำรวจความคิดเห็นจากประชาชนทุกสขาอาชีพทั่วประเทศ จำนวนทั้งสิ้น 1,060 ตัวอย่าง ดำเนินโครงการทั้งการวิจัยเชิงปริมาณ(Quantitative Research) และการวิจัยเชิงคุณภาพ (Qualitative Research) ระหว่างวันที่ 15 -20 กรกฎาคม 2562 พบว่าเมื่อถามถึงผลงานรัฐบาลลุงตู่ (พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชาป ช่วง 5 ปีที่ผ่านมา ทำให้คนไทย สุข หรือ ทุกข์ แค่ไหน เมื่อนึกถึงเงินในกระเป๋าของตัวเอง พบว่าจำนวนมาก หรือร้อยละ 40.7 ทุกข์มากสุด ร้อยละ 19.1 ทุกข์ ร้อยละ 32.1 กลาง ๆ มีเพียงร้อยละ 6.1มีความสุข และเพียงร้อยละ 2.0 เท่านั้นที่สุขมากสุด
เมื่อจำแนกตามพรรคการเมืองที่นิยมชอบฝ่ายค้าน และ ฝ่ายรัฐบาล พบว่า ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 58.0 ของผู้นิยมพรรคฝ่ายค้าน ทุกข์มากสุด มากกว่า ร้อยละ 31.8 ของผู้นิยมพรรคฝ่ายรัฐบาลที่เป็นทุกข์มากสุด เมื่อนึกถึงเงินในกระเป๋าของตัวเอง
ที่น่าพิจารณาคือเมื่อถามถึง สุข หรือ ทุกข์ เมื่อเห็นนักการเมืองเดินสายวิจารณ์การเมืองไทยให้โลกฟัง พบว่าจำนวนมากหรือร้อยละ 42.2 ทุกข์ ถึงทุกข์มากสุด ขณะที่ร้อยละ 51.3 กลาง ๆ และเพียงร้อยละ 6.5 สุข ถึง สุขมากสุด
ที่น่าสนใจคือ ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 67.9 จะให้โอกาสรัฐบาลชุดใหม่ทำงานมากกว่า 2 ปีขึ้นไป ถ้ารัฐบาลแก้ปัญหาเดือดร้อนเงินในกระเป๋าของประชาชนได้ ขณะที่ ร้อยละ 21.9 ให้โอกาส –2 ปี และร้อยละ 10.2 ให้โอกาสน้อยกว่า 1ปี ตามลำดับ
ผอ.ซูเปอร์โพล กล่าวว่า ผลโพลครั้งนี้ชี้ให้เห็นว่าความทุกข์เรื่องเงินในกระเป๋าผลักประชาชนออกห่างไปจากฐานสนับสนุนรัฐบาล ลุงตู่ เป็นทุกข์แรกและทุกข์ที่สอง คือ นักการเมืองเดินสายวิจารณ์การเมืองไทยให้ต่างชาติฟัง ผลโพลนี้จึงชี้ให้เห็น 2 โจทย์สำคัญ โจทย์แรกเป็นโจทย์เดียวที่ทำให้ฐานสนับสนุนของสาธารณชนหลุดจากรัฐบาล ลุงตู่คือ ความทุกข์ของประชาชนเมื่อนึกถึงเงินในกระเป๋าของตัวเอง และถ้าพวกเขาผิดหวังจากนโยบายรัฐบาลชุดใหม่อีกจะทำให้อารมณ์ของสาธารณชนเหวี่ยงหนักมากจนน่าห่วงต่อเสถียรภาพของรัฐบาล และใครล่ะคืออัศวินขี่ม้าขาวคนต่อไป
นายนพดลกล่าวต่อว่า ถ้าแก้โจทย์นี้ได้ผลที่ตามมาคือ รัฐบาลจะสามารถดึงคนเข้ามาสนับสนุนรัฐบาลมากขึ้นโดยเห็นได้ชัดเจนจากโพลนี้ที่คนให้โอกาสรัฐบาลชุดใหม่อยู่นานกว่า 2 ปี ถ้าปลดทุกข์เงินในกระเป๋าของประชาชนได้จริง ขณะที่อีกโจทย์หนึ่งเป็นเรื่องของกลุ่มนักการเมืองผู้เดินสายวิจารณ์การเมืองไทยให้ชาวต่างชาตินอกประเทศฟังจนน่าห่วงว่าจะแบ่งแยกคนไทยในประเทศออกเป็นสองขั้วที่อาจเกิดความขัดแย้งรุนแรงบานปลายขึ้นจึงจำเป็นต้อง “ตัดไฟแต่ต้นลม”
“การเดินสายให้ชาวต่างชาติช่วยสร้างประชาธิปไตยของไทยจะไม่มีวันเป็นที่ยอมรับโดยคนไทย เพราะประชาธิปไตยของไทยต้องถูกสร้างขึ้นด้วยมือคนไทยและยึดโยงกับสถาบันหลัก สิ่งที่น่าห่วงสุดสำหรับนักการเมืองรุ่นใหม่ไม่ได้อยู่ที่ว่า พวกเขาไม่ได้ทำสิ่งที่ถูกต้อง แต่อยู่ที่ว่า พวกเขาไม่รู้ว่าอะไรถูก” นายนพดล กล่าว