วาฟ-อุตุ ชี้ 9-14 ฝนคลุมทั่วประเทศ ใต้หนักสุด

วันที่ 8 พฤษภาคม แบบจำลองสภาพอากาศ(วาฟ-รอม) ของสถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำและการเกษตร(สสนก.) กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี(วท.) แจ้งว่า ให้เฝ้าระวัง ภาคใต้ เพราะจะมีปริมาณฝนเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักบางแห่ง โดยเฉพาะภาคใต้ฝั่งตะวันตก ส่วนประเทศไทยตอนบนจะกลับมามีฝนเพิ่มขึ้นและตกหนักบางแห่ง โดยเฉพาะภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน และภาคเหนือ ในช่วงวันที่ 9-14 พฤษภาคม

สำหรับ ช่วงวันที่ 8-10 พฤษภาคม กระแสลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้จะเริ่มพัดปกคลุมทะเลอันดามัน และภาคใต้ ส่งผลให้ภาคใต้จะมีฝนเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักบางแห่ง โดยเฉพาะภาคใต้ฝั่งตะวันตก ส่วนประเทศไทยตอนบนมีฝนลดลง จากนั้นจะมีความกดอากาศสูงอีกระลอกแผ่ลงมาจากประเทศจีนตอนบนในช่วงวันที่ 9 พฤษภาคม ส่งผลให้ประเทศไทยตอนบนจะกลับมามีฝนเพิ่มขึ้นและตกหนักบางแห่ง โดยเฉพาะภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน และภาคเหนือ

วาฟยังระบุด้วยว่า ช่วงวันที่ 11-14 พฤษภาคม กระแสลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่เริ่มปกคลุมทะเลอันดามัน จะมีกำลังแรงขึ้นตั้งแต่ช่วงวันที่ 12 พฤษภาคม ท้าให้ลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้พัดปกคลุมทั่วทั้งทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ส่งผลให้ภาคใต้จะมีฝนเพิ่มขึ้นและจะมีฝนตกหนักโดยเฉพาะภาคใต้ฝั่งตะวันตกและภาคตะวันออกบริเวณ จ.จันทบุรีและตราด ประกอบกับความกดอากาศสูงยังคงแผ่ลงมาจากทะเลจีนตะวันออก ส่งผลให้ประเทศไทยตอนบนยังคงมีฝนฟ้าคะนองและมีฝนตกหนักบางแห่ง โดยเฉพาะภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน และภาคเหนือ

ส่วนกรมอุตุนิยมวิทยา เปิดเผยการคาดหมายลักษณะอากาศ ในช่วงวันที่ 7 – 8 พฤษภาคม ว่า บริเวณประเทศไทยมีฝนฟ้าคะนองลดลง ส่วนในช่วงวันที่ 9 – 13 พฤษภาคม บริเวณประเทศไทยมีฝนฟ้าคะนองเพิ่มขึ้นกับมีฝนตกหนักบางแห่ง สำหรับคลื่นลมบริเวณภาคใต้จะมีคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง ข้อควรระวังในช่วงวันที่ 9 – 13 พฤษภาคม ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยระวังอันตรายจากฝนตกหนัก และฝนที่ตกสะสม สำหรับชาวเรือบริเวณภาคใต้ควรเดินเรือด้วยความระมัดระวังบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง

ลักษณะสำคัญทางอุตุนิยมวิทยา ในช่วงวันที่ 7-8 พฤษภาคม ลมตะวันออกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมประเทศไทยตอนบนมีกำลังอ่อนลง ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนฟ้าคะนองลดลง หลังจากนั้นในช่วงวันที่ 9 – 13 พฤษภาคม บริเวณความกดอากาศสูงจากประเทศจีนจะแผ่ลงมาปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนและทะเลจีนใต้ ประกอบกับมีลมตะวันออกเฉียงใต้พัดนำความชื้นเข้ามาปกคลุมประเทศไทยตอนบน และลมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามันและภาคใต้จะมีกำลังแรงขึ้น ทำให้ประเทศไทยมีฝนเพิ่มขึ้น และมีฝนตกหนักบางแห่ง

ภาคเหนือ ในช่วงวันที่ 7 – 8 พฤษภาคม มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 20-30 ของพื้นที่ ส่วนในช่วงวันที่ 9 – 13 พฤษภาคม มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 60-70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 22-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34-36 องศาเซลเซียส ลมตะวันตก ความเร็ว 10-25 กม./ชม.

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ในช่วงวันที่ 7 – 8 และ 12 – 13 พฤษภาคม มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 20-30 ของพื้นที่ ส่วนในช่วงวันที่ 9 – 11 พฤษภาคม มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 60-70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-36 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-25 กม./ชม.

ภาคกลาง ในช่วงวันที่ 7 – 8 พฤษภาคม มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 20-30 ของพื้นที่ ส่วนในช่วงวันที่ 9 – 13 พฤษภาคม มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 60-70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-36 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-25 กม./ชม.

ภาคตะวันออก ในช่วงวันที่ 7 – 8 พฤษภาคม มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 20-40 ของพื้นที่ ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-25 กม./ชม. ส่วนในช่วงวันที่ 9 – 13 พฤษภาคม มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 60-70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-36 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูง 1-2 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) ในช่วงวันที่ 7 – 8 พฤษภาคม มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 30-40 ของพื้นที่ ส่วนในช่วงวันที่ 9 – 13 พฤษภาคม มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 60-70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร อุณหภูมิต่ำสุด 22-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-35 องศาเซลเซียส

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) ในช่วงวันที่ 7 – 8 พฤษภาคม มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ ส่วนในช่วงวันที่ 9 – 13 พฤษภาคม มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 60-70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-35 องศาเซลเซียส

กรุงเทพมหานครและปริมณฑล ในช่วงวันที่ 7 – 8 พฤษภาคม มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 30-40 ของพื้นที่ ส่วนในช่วงวันที่ 9 – 13 พฤษภาคม มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 60-70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-25 กม./ชม. อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-35 องศาเซลเซียส