จากที่มีการโพสต์ในเฟซบุ๊ค ของผู้ใช้ชื่อ srisuda samas ด้วยข้อความ… “ จานนี้***450 แซ่บสุดยอดใครอยากเชิญ””*จ้า … พร้อมภาพเป็นตำหอยแครงจานใหญ่ พร้อมมีเพื่อนทางเฟซบุ๊คคอมเมนท์ ถึงราคาดังกล่าวหลากหลาย

ต่อมามีผู้ใช้เฟซบุ๊คชื่อธนวัต ต้อม ต่ำนาดี ได้โพสต์ตอบโต้กลับมาว่า ด้วยข้อความว่า “… ชีวิตแม่ค้า ขายของก็หวังกำไร ถ้าขายแล้วขาดทุนจะขายของไปทำไม ตัวคุณเองก็เป็นแม่ค้าเหมือนๆกันไม่ใช่รึ ก่อนที่จะว่าเค้าขายแพง หัดมองดูท้องตลาดบ้างนะว่า ต้นทุนมาเท่าไหร่ ที่ขายไปไม่ใช่ว่าจะได้กำไรมากมาย คุณคิดมั้ยว่าชีวิตแม่ค้าขายของร้านเช่า ต้องขายให้ได้ค่าเช่าค่าน้ำค่าไฟมันต่างจากร้านที่เป็นของตัวเองมั้ย ก่อนจะพูดว่าใครหัดคิดสักนิดไม่ใช่ว่ามีปากสักแต่จะพูด ขอเตือนถ้าไม่หยุดเดียวจะเดินไปถามเองว่ามีปัญหามากมั้ย…”

และได้มีการโพสต์ข้อความเพิ่มอีกว่า …. “หลังจากที่ขายตำหอยแครง+หอยเชอรี่ที่ ลูกค้าสั่งพิเศษหอยแครง 1 กิโล+หอยเชอรี่ แม่ค้าคิดถาดละ450บาทมันมีคำพูดของ ลูกค้าที่มีปัญหากับราคา แม่ค้าคล่องใจเลยอยากอธิบายให้ลูกค้าฟัง หอยแครง1กิโล180 บาทหอยเชอรี่1/2กิโล60บาทค่าเครื่องปรุง100 บาท ใส่น้อยรสชาติก็จืดใส่มากรสชาติก็เข็มข้นจัดจ้านค่าแรง 110บาท ตรงนี้คือกำไรของแม่ค้ามันมากไปมั้ยขอถามหน่อยซิลูกค้าที่คล่องใจและมีปัญหา หวังว่าคนที่มีปากไม่ใช่ว่าสักแต่จะพูดก่อนพูดขอให้คิดสักนิสว่าเรื่องจริงเป็นไง แม่ค้าขายของก็หวังกำไร ไม่ได้มากมายสักนิดถ้าไม่หวังกำไร แล้วจะขายไปทำไม”ท่ามกลางมีผู้คอมเมนท์และแชร์ จำนวนมาก ตามที่เสนอโดยละเอียดก่อนหน้านี้นั้น

ความคืบหน้า เมื่อวันที่ 11 มี.ค. ผู้สื่อข่าวได้ไปติดตามความคืบหน้าที่ร้านดังกล่าว (โบว์ตำแหลงแซบนัว) ตั้งอยู่ที่ห้องเช่าเลขที่ 59 หมู่ 5 ต.โคกไทย อ.ศรีมโหสถ จ.ปราจีนบุรี ได้พบกับเจ้าของร้านชื่อนางภาวิณี ต่ำนาดี อายุ 39 ปี โดยทางเจ้าของร้านบอกว่า “ร้านเปิดเป็นร้านอาหารตามสั่งทั่วๆไป มีรายการอาหารตามสั่งหลายอย่างบริการลูกค้า

นางภาวิณีกล่าวว่า เมื่อวันที่ 7 มี.ค.ที่ผ่านมา มีลูกค้ามาสั่งตำหอยแครง-หอยเชอรี่ และข้าวเหนียวอีก โดยเฉพาะราคาตำหอยแครงจานเดียวราคา 450 บาท ตนเองเป็นร้านค้า เมื่อลูกค้าสั่งอาหารก็จัดให้ตามสั่ง

ต่อมาผู้สื่อข่าวได้ติดต่อลูกค้าคนที่สั่งตำหอยแครงดังกล่าว คือ น.ส.สุรีรัตน์ อินทศรี อายุ 24 ปี โดยน.ส.สุรีรัตน์กล่าวว่า ได้สั่งอาหารตำหอยแครงจากร้านนี้จริง และเมื่อคิดเงินรู้สึกตกใจมาก ที่มีราคาแพงมากถึงจานละ 450 บาท ทางแม่ค้าบอกว่าคิดรวมทั้งหมดทั้งค่าแรง ค่าไปซื้อหอยมาทำให้ บวกให้อีกด้วย หอย กก.ละ 180 บาท ค่าแรงค่าอื่นๆรวมเบ็ดเสร็จ 450 บาท ไม่น่าจะแพงขนาดนี้

โดยเมื่อวันที่ 10 มี.ค.ที่ผ่านมา คู่กรณีทั้งคนขาย-คนซื้อทั้ง2ฝ่าย ได้มีการนัดมาเคลียร์กันที่ร้านโบว์ตำแหลงแซบนัว โดยมีคนเฒ่าคนแก่ และกำนัน ต.โคกไทยมาช่วยเคลียร์ ช่วงแรกทั้งสองจะไม่เอาความกัน มีการจับมือขอโทษกัน และฝ่ายเจ้าของร้านจะเป็นฝ่ายไปโพสต์ขอโทษในเฟซบุ๊คก่อน และฝ่ายลูกค้าก็จะโพสต์ขอโทษตาม

แต่ทางคนเฒ่าคนแก่ให้ฝ่ายนางภาวิณี เจ้าของร้านขอโทษนางศรีสุดา เพ็งจอมพงศ์แม่ของน.ส.สุรีรัตน์ ลูกค้า เพราะเห็นว่านางภาวิณีเป็นเด็กกว่าไปกล่าวต่อว่าผู้ใหญ่ในคำที่ไม่สุภาพ ซึ่งนางศรีสุดาได้ถามแม่ค้าว่า “ทำไมโพสต์รูปปืนในหน้าเฟซบุ๊ค และก็ยังข้อความให้ระวังตัวให้ดี” ทำให้นางภาวิณี แม่ค้ากล่าวว่า ไม่ยอมก็ไม่เป็นไร เพราะตนได้แอบไปแจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้แล้วเมื่อวานนี้ (9 มีค.) ที่โรงพัก ทำให้แม่ลูกค้ากับลูกค้าไม่พอใจ จึงไปแจ้งความที่ สภ.ศรีมโหสถ จ.ปราจีนบุรี ด้วยเช่นกัน

ร.ต.อ.ณัฐชมน นึกรักษ์ พนักงานสอบสวน สภ.ศรีมโหสถ จ.ปราจีนบุรี ถึงกับงงกับเรื่องที่เกิดขึ้น ทั้งที่ราคาขายเมนูตำหอยแครง และรวมถึงการที่ทั้ง 2 ต่างนำข้อความลงโพสต์ทางเฟซบุ๊คตอบโต้กันไป-มาทั้งคู่ ว่าจะเข้าข่ายผิด พ.ร.บ.คอมฯหรือไม่ และถ้อยคำจะเข้าข่ายหมิ่นประมาทและทำให้เสียชื่อเสียงหรือไม่

เบื้องต้นนี้จะสอบถามผู้บังคับบัญชาก็ยังให้คำตอบไม่ได้ จะขอไปปรึกษา-สอบถามท่านอัยการหรือศาล เนื่องจากในพื้นที่ยังไม่เคยมีคดีแบบนี้มาก่อนผ่านโลกออนไลน์ เคสนี้เปฺ็นเคสแรก สภ.ศรีมโหสถ โพสต์ผ่านออนไลน์ จึงต้องให้ลงบันทึกประจำวันไว้ เป็นหลักฐาน และจะได้เรียกฝ่ายแม่ค้ามาสอบปากคำอีกครั้งหนึ่ง