ขุนคลังเตือนอย่าโลภเก็งกำไรบิตคอยน์ สั่ง ก.ล.ต. เร่งออกเกณฑ์คุมให้จบใน 1 เดือน

นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รมว.คลัง เปิดเผยว่า ในการประชุมติดตามและกำกับดูแลการซื้อขายสกุลเงินดิจิตอล เช่น บิตคอยน์ ระหว่างกระทรวงการคลัง ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) และ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ได้ข้อสรุปร่วมกันว่ามอบหมายให้ ก.ล.ต.เป็นหน่วยงานหลักที่จะต้องกำกับดูแล เพราะถือเป็นหน่วยงานที่ควบคุมการออกหลักทรัพย์ รวมถึงดูการระดมทุนด้วยสกุลเงินดิจิตอล (ไอซีโอ) โดยหลังจากนี้ ก.ล.ต. จะต้องร่างกฎระเบียบ ดูการใช้กฎหมายมาให้แล้วเสร็จภายใน 1 เดือน

“เรื่องสกุลเงินดิจิตอลไทยจะไม่ปิด แต่จะต้องมีการควบคุมให้ได้ ไม่งั้นก็กลัวว่าจะมีปัญหาตามมา โดยเฉพาะเรื่องการฟอกเงิน เพราะมีบางประเทศก็พบว่ามีการโยกเงินโดยใช้ช่องทางสกุลดิจิตอลในการโอนเงินออกนอกประเทศไปแล้ว”

ทั้งนี้ เรื่องสกุลเงินดิจิตอล หรือบิตคอยน์ เป็นสิ่งที่เราหยุดไม่ได้และตอนนี้ก็เกิดมาเร็ว รวมถึงมีภาคเอกชนก็จะมีการไอซีโอให้ใช้เงินดิจิตอลไปซื้อได้ แต่ถ้าเกิดเราจะพัฒนาก็ต้องหาทางดูแลความคุมให้ได้ด้วย ซึ่งในการหารือที่ผ่านมาของภาครัฐ 4 หน่วยงาน ได้มีการคุยกันว่าใครจะเป็นหน่วยงานควบคุมดูแลสกุลเงินดิจิตอล ซึ่งตอนแรกก็ดูว่าธปท. เพราะมีชื่อเกี่ยวกับสกุลเงิน แต่เมื่อดูรายละเอียดแล้ว ธปท. ไม่น่าจะเกี่ยวข้อง เพราะเป็นเหมือนแค่การสร้างของสิ่งหนึ่งมาเพื่อใช้แลกเปลี่ยนกันแทนเงิน ดังนั้นคนที่เกี่ยวจึงน่าจะเป็น ก.ล.ต.

นายอภิศักดิ์ กล่าวว่า สำหรับเรื่องราคาสกุลเงินดิจิตอล เช่น บิตคอยน์ ที่ความผันผวนนั้น มองว่าความโลภทำให้เกิดปัญหาขึ้น โดยคนลงทุนก็มองว่าบิตคอยน์จากราคาหลักร้อยดอลลาร์สหรัฐต่อเหรียญ ขึ้นไปเป็น 1.8-1.9 หมื่นล้านดอลลาร์ ก็รีบกระโดดเข้าลงทุน แต่หลังจากนี้ไม่กี่สัปดาห์ราคาก็ร่วงลงอย่างรวดเร็วเหลือ 6-7 พันดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งปัญหาทั้งหมดเกิดจากความโลภ

 

ที่มา ข่าวสดออนไลน์