นายเพ็ชร ชั้นเจริญ ผู้อำนวยการท่าอากาศยานภูเก็ต (ทภก.) บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) (ทอท.) กล่าวว่า ทภก. เพิ่มขีดความสามารถในการรองรับผู้โดยสารจาก 6.5 ล้านคนต่อปี เป็น 12.5 ล้านคนต่อปี ได้เปิดอาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศเพื่อให้บริการไปแล้วตั้งแต่วันที่ 16 ก.ย. 2559 นั้น ปัจจุบันอยู่ระหว่างการปรับปรุงอาคารผู้โดยสารหลังเดิมให้เป็นอาคารผู้โดยสารภายในประเทศ โดยแบ่งการดำเนินการเป็น 2 ระยะ ได้แก่ ระยะที่ 1 ปรับปรุงอาคารผู้โดยสารภายในประเทศ (ด้านทิศใต้) และระยะที่ 2 ปรับปรุงอาคารผู้โดยสาร (ด้านทิศเหนือ)

ซึ่งขณะนี้ ทอท.ได้ปรับปรุงอาคารผู้โดยสารภายในประเทศระยะที่ 1 (ด้านทิศใต้) เสร็จเรียบร้อยแล้ว โดยจะเปิดให้บริการตั้งแต่วันอังคารที่ 28 พ.ย. 2560 เวลา 00.00 น. เป็นต้นไป เพื่อรองรับปริมาณผู้โดยสารในช่วงฤดูกาลท่องเที่ยว (High Season) (ต.ค.2560 – มี.ค.2561)

ทั้งนี้ การเปิดให้บริการอาคารผู้โดยสารภายในประเทศ (ด้านทิศใต้) จะเปิดทั้งขาเข้าและขาออก ซึ่งได้มีการขยายพื้นที่ห้องโถงเพื่อรองรับปริมาณผู้โดยสาร รวมทั้งห้องโถงเช็กอินกว้างขวางขึ้น มีเคาน์เตอร์เช็กอิน จำนวน 22 เคาน์เตอร์ สำหรับเส้นทางจราจรมายังอาคารผู้โดยสารภายในประเทศ สามารถเข้าสู่อาคารผู้โดยสารภายในประเทศโดยใช้ทางเข้าจากทางหลวงหมายเลข 4031 บริเวณตรงข้ามสถานีเติมน้ำมันอากาศยานภูเก็ต บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ซึ่งในส่วนบริการผู้โดยสารขาออกสามารถส่งผู้โดยสารได้บริเวณชานชาลาชั้น 2 และส่วนบริการผู้โดยสารขาเข้าสามารถรับผู้โดยสารได้บริเวณชานชาลาชั้น 1

สำหรับผู้โดยสารที่นำรถยนต์ส่วนบุคคลมาเอง ขอความร่วมมือให้นำรถยนต์ไปจอดยังบริเวณลานจอดรถยนต์ด้านหน้าอาคารผู้โดยสารภายในประเทศ หรือ อาคารจอดรถยนต์ 5 ชั้น และใช้ทางเดินเชื่อมไปยังอาคารผู้โดยสารภายในประเทศได้ ทางด้านการตรวจค้นสัมภาระของผู้โดยสาร ทภก. ใช้รูปแบบการตรวจค้นสัมภาระแบบ Terminal Screening ซึ่งเป็นการตรวจสัมภาระด้านหน้าก่อนเข้าอาคารผู้โดยสาร

นายเพ็ชร กล่าวต่อว่า หลังจาก เปิดให้บริการอาคารผู้โดยสารภายในประเทศ (ด้านทิศใต้) แล้วจะทำการดำเนินการปรับปรุงอาคารผู้โดยสารภายในประเทศระยะที่ 2 (ด้านทิศเหนือ) ต่อไป ซึ่งคาดว่าจะดำเนินการแล้วเสร็จและสามารถเปิดให้บริการได้ภายในเดือน มิ.ย. 2561 อย่างไรก็ตาม ในช่วงที่มีการปรับปรุงอาคารผู้โดยสารภายในประเทศระยะที่ 2 (ด้านทิศเหนือ) อาจส่งผลให้เกิดความไม่สะดวกต่อผู้โดยสารและผู้ใช้บริการ ทภก.จึงขออภัยมา ณ โอกาสนี้ และผู้โดยสารสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ AOT Contact Center เบอร์โทรศัพท์ 1722 ตลอด 24 ชั่วโมง