รฟม.ถกบีอีเอ็มเคลียร์ปมรื้อเก้าอี้รถไฟฟ้าเอ็มอาร์ที ยันพรุ่งนี้สรุปเดินหน้า-นำกลับที่เดิม

นายรณชิต แย้มสอาด รักษาการรองผู้ว่าการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย(รฟม.) เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน ได้หารือร่วมกับบริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด(มหาชน) หรือบีอีเอ็ม ผู้รับสัมปทานให้บริการรถไฟฟ้าใต้ดินเอ็มอาร์ทีจาก รฟม. เกี่ยวกับกรณีแจ้งถอดเก้าอี้นั่งผู้โดยสารออกเฉพาะที่นั่งแถวกลาง เพื่อให้ผู้โดยสารสามารถเดินทางได้มากขึ้น โดยได้เริ่มทดลองให้บริการขบวนแรกตั้งแต่วันที่ 20 พฤศจิกายนที่ผ่านมานั้น ที่ประชุมยังไม่ได้ข้อสรุปว่าจะเดินหน้าต่อไปหรือติดตั้งเก้าอี้กลับเหมือนเดิม ภายหลังมีผู้ไม่เห็นด้วยเกี่ยวกับการดำเนินการดังกล่าว ซึ่งเบื้องต้นตนได้ตั้งคำถามไปยังบีอีเอ็มเพื่อให้นำรายละเอียดมาชี้แจงให้ทราบอีกครั้งในการประชุมวันที่ 22 พฤศจิกายนนี้

“เรื่องนี้เป็นมาตรการชั่วคราวที่บีอีเอ็มดำเนินการและเคยแจ้งให้ รฟม.ทราบมานานแล้ว แต่ยังไม่มีการอนุมัติให้ดำเนินการ โดยเห็นว่าปัญหาที่เกิดขึ้นเป็นการมองต่างมุม เนื่องจากทางบีอีเอ็มต้องการจะช่วยระบายผู้โดยสารออกจากชานชาลาได้โดยเร็ว เพราะมีผู้โดยสารใช้บริการเป็นจำนวนมากในช่วงเวลาเร่งด่วน แต่ทางผู้ไม่เห็นด้วยก็มองอีกด้านหนึ่ง ให้ซึ่งก็เข้าใจทั้ง 2 ฝ่าย”นายรณชิต กล่าว

นายรณชิต กล่าวว่า สำหรับขบวนรถไฟฟ้าที่มีการถอดเก้าอี้แถวกลางออกไปนั้น มีอยู่ 1 ขบวน โดยได้ดำเนินการเมื่อวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ที่ผ่านมา ขณะนี้บีอีเอ็มกำลังตรวจสอบอยู่ว่ายังมีขบวนอื่นที่อยู่ในขั้นตอนที่จะดำเนินการเพิ่มเติมหรือไม่

นายฤทธิกา สุภารัตน์ รองผู้ว่าการ(บริหาร) ในฐานะรักษาการแทนผู้ว่าการ รฟม. กล่าวว่า การปรับเปลี่ยนดังกล่าวบีอีเอ็มไม่ได้แจ้งให้ รฟม.ทราบก่อนดำเนินการ จึงยังไม่ทราบรายละเอียดเกี่ยวกับการทดลองดำเนินการว่าจะเป็นอย่างไร แต่เบื้องต้นทราบว่าทางบีอีเอ็มได้ถอดเก้าอี้แถวกลางออกไปเพียง 1 ขบวนเท่านั้น เพื่อนำมาทดลองให้บริการในช่วงเวลาเร่งด่วนตอนเช้าและตอนเย็น ซึ่งมีผู้โดยสารใช้บริการเป็นจำนวนมาก ส่วนช่วงเวลาอื่นๆก็ใช้ขบวนปกติให้บริการผู้โดยสารเหมือนเดิม

“เก้าอี้ที่บีอีเอ็มถอดออกจะอยู่เฉพาะแถวกลางเท่านั้น จาก 1 ตู้จะมีที่นั่งรวม 3 แถว ไม่ใช่การถอดที่นั่งออกทั้งหมด โดยเห็นว่าปัญหาการไม่เห็นด้วยกับการนำเก้าอี้ออกของประชาชนนั้น เกิดจากการที่บีอีเอ็มไม่แจ้งประชาชนให้ทราบก่อนล่วงหน้า ไม่ทำความเข้าใจก่อนว่าจะทดลองนานแค่ไหนอย่างไร ไม่มีการสอบถามความคิดเห็นผู้โดยสารก่อนทำ แต่อยู่ดีๆก็ประกาศออกมาเลย จึงเกิดปัญหาขึ้น”นายฤทธิกา กล่าว