ที่มา | ข่าวสดออนไลน์ |
---|---|
เผยแพร่ |
ตูนวิ่งวันที่ 19 ถึง จ.ชุมพรแล้ว ยอดเงินบริจาคพุ่งเกิน 284 ล้าน รวมระยะทาง 700 กม.พอดี ที่ อ.หลังสวน คึกคักประชาชนกว่า 3 พันคนตั้งแถวยาวเป็นกิโลริมถนนสายเอเซีย ชูป้ายรอต้อนรับและร่วมบริจาค ด้านชาวสุราษฎร์ฯ ทำป้ายส่งให้เดินทางโดยสวัสดิภาพ ระบุเป็น 6 วันที่ทำให้คนทุกเพศทุกวัยมีความสุข เปิดใจคุณยายชาวท่าฉาง วิ่งตามบริจาคจนผ้าถุงเกือบหลุด เผยสุดตื้นตันตูนซึ่งผ่านหน้าบ้านไปแล้ววิ่งกลับมาคุกเข่าไหว้และกอด ติดตามข่าวตลอด ไม่คิดว่าจะวิ่งผ่านหน้าบ้าน จึงรีบร้อนออกมาเพราะกลัวไม่ทัน ช่างผมทั่วประเทศรวมตัว ที่รังสิต ตัดผมคิดหัวละ 19 บาท รายได้นำสมทบทุนโครงการตูน
เมื่อวันที่ 19 พ.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานกิจกรรมการวิ่งของ “ตูน บอดี้สแลม” นายอาทิวราห์ คงมาลัย ในโครงการก้าวคนละก้าว โดยออกวิ่งรับบริจาคเงินสมทบทุนเพื่อช่วยเหลือโรงพยาบาล 11 แห่งทั่วประเทศ จาก อ.เบตง จ.ยะลา ถึง อ.แม่สาย จ.เชียงราย ระยะทาง 2,191 กม. ซึ่งเมื่อวิ่งมาเป็นระยะทาง 676 กม. ถึงหน้าหน่วยบริการประชาชน ต.คันธุลี อ.ท่าชนะ จ.สุราษฎร์ธานี เมื่อคืน วันที่ 17 พ.ย.ที่ผ่านมา และหยุดพัก 1 วันตามคำสั่งแพทย์เพราะเกรงว่าร่างกายของตูนจะรับไม่ไหว
เมื่อเวลา 04.00 น. ตูนได้เริ่มออกวิ่งต่อไป ซึ่งเป็นการวิ่งวันที่ 19 เริ่มจากหน้าหน่วยบริการประชาชน ต.คันธุลี เขตสุดท้ายในพื้นที่ จ.สุราษฎร์ธานี โดยมี พ.อ. รัชพร พัฒนรังสรรค์ ผอ.โรงพยาบาลค่ายวิภาวดีรังสิต มณฑลทหารบกที่ 45 สุราษฎร์ธานี ร่วมวิ่งด้วย มุ่งหน้าไปตามถนนทางหลวงเอเซีย 41 ยังจุดพักที่ร้านต้อมละแมมูลสัตว์ ต.ละแม อ.ละแม จ.ชุมพร ระยะทาง 16.3 กม. ใช้เวลาวิ่ง 2 ชั่วโมง 20 นาที
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงเช้ามืดก่อนออกจากจุดสตาร์ตหน้าหน่วยบริการประชาชน ต.คันธุลี มีประชาชนจำนวนหนึ่งที่ทราบข่าวการเปลี่ยนเวลาออกวิ่งเร็วขึ้นตามออกมาส่ง ขณะที่ชาวสุราษฎร์ธานีกลุ่มหนึ่งได้จัดทำ ภาพอินโฟกราฟิกเผยแพร่ทางโซเชียลมีเดีย อวยพรให้ตูนเดินทางโดยสวัสดิภาพ โดยระบุว่าในช่วงตั้งแต่วันที่ 14-19 พ.ย. เกือบ 6 วันเต็ม การวิ่งของตูนในพื้นที่ จ.สุราษฎร์ธานี ทำให้ประชาชนทุกเพศทุกวัยตั้งแต่เด็กเล็กจนถึงคนเฒ่าคนแก่มีความสุข ทั้งที่หลายคนไม่เคยรู้จักหรือฟังเพลงของตูนมาก่อน
ต่อมาเวลา 09.30 น. ทีมวิ่งได้วิ่งมาถึงกม.ที่ 70 รวมระยะทางที่วิ่งมา 700 กม.พอดี ที่ ต.บ้านควน อ.หลังสวน ท่ามกลางประชาชนจำนวนกว่า 3,000 คนตั้งแถวยาวราว 1 กม. รอต้อนรับและร่วมบริจาคอยู่บริเวณริมถนนสายเอเซีย 41 ก่อนถึงปั๊มน้ำมัน ปตท.จิงโจ้ ซึ่งเป็นจุดเช็กพอยต์ โดยตูนเดินเข้าไปทักทายและถ่ายรูปร่วมกับประชาชนก่อนขึ้นพักในรถบัส สิ้นสุดการวิ่งของช่วงระยะทาง 14.4 กม.
เวลา 15.00 น. ตูนออกวิ่งจากปั๊ม ปตท.จิงโจ้ อ.หลังสวน ไปยัง อ.ทุ่งตะโก จ.ชุมพร โดยตลอดสองข้างทางถนนสายเอเซีย 41 จากจุดสตาร์ตถึงหน้าโรงพยาบาลหลังสวนระยะทางกว่า 9 กม. มีประชาชนหลั่งไหลเดินทางมาร่วมบริจาคให้กับตูนจำนวนนับหมื่นคน ต้องใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง 20 นาที ก่อนตูนจะออกวิ่งต่อ และถึงแม้ขณะนั้นจะมีฝนตกลงมาอย่างหนักทีมวิ่งก็ไม่ได้หยุดวิ่ง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สรุปยอดเงินล่าสุดขณะนี้มีมากกว่า 284 ล้านบาท
ที่ จ.สุราษฎร์ธานี ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้เดินทางไปยังบ้านเลขที่ 128 หมู่ที่ 5 ต.ท่าเคย อ.ท่าฉาง จ.สุราษฎร์ธานี ซึ่งเป็นบ้านของ คุณยายชะม้าย วงศ์อภัย อายุ 81 ปี หลังจากมีการแชร์ภาพในโลกโซเชียลช่วงจังหวะที่ตูนวิ่งเลยผ่านหน้าบ้านไปแล้วประมาณ 30 เมตร หันมาเห็นคุณยายชะม้ายกำลังรีบออกจากบ้านเพื่อจะนำเงินมาบริจาคจนผ้าถุงที่สวมอยู่เกือบจะหลุด ตูนได้วิ่งมาคุกเข่าไหว้และกอดคุณยาย จนเป็นภาพประทับใจให้แชร์กันแพร่หลาย
นายสุวัฒน์ ลัคนาพันธ์ อายุ 53 ปี หัวหน้าฝ่ายบริหารงานทั่วไป เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าคลองยัน ลูกชายคุณยายชะม้าย เปิดเผยว่า ติดตามตูนผ่านทางไลฟ์สด “ก้าว” กระทั่งเห็นตูน ซึ่งเป็นร็อกเกอร์สตาร์ วิ่งเข้ามากอดหญิงชราคนหนึ่งและหญิงชราคนนั้นเป็นแม่ของตัวเอง ขอยอมรับว่าไม่เคยกอดพ่อกอดแม่อย่างที่ตูนกอดเลย จึงได้เขียนข้อความ ดังกล่าวออกมาจากความรู้สึกภายในใจ และทำให้ย้อนคิดกลับมาดูแลพ่อแม่ให้มากขึ้น การวิ่งของตูนในครั้งนี้อยากบอกว่าตูนไม่ใช่แค่ร็อกเกอร์สตาร์เมืองไทย แต่คือเทวดา และทำให้ตัวเองได้กลับมากอดแม่บ้าง ขอส่งกำลังใจให้ตูนวิ่งถึงจุดหมายที่ตั้งใจ
ด้านคุณยายชะม้าย หรือคุณยายผ้าถุงปลิว กล่าวว่า ติดตามดูตูนทางโทรทัศน์ ไม่คิดว่าจะผ่านมาทางหน้าบ้านของตัวเอง ขณะที่ขบวนวิ่งของตูนผ่านมาตัวเองนอนอยู่ในบ้าน จึงได้รีบร้อนออกไปหน้าบ้าน ด้วยความเร่งรีบกลัวจะไม่ทันนำเงินไปบริจาคทำให้ผ้าถุงเกือบหลุด ในกระเป๋าสตางค์มีเงินอยู่ 200 บาท บริจาคไป 100 บาท ไม่คิดว่าตูนจะวิ่งย้อนกลับมาและคุกเข่าไหว้และโอบกอด ตูน พูดว่าขอให้คุณยายแข็งแรง อายุยืน ทำให้ตัวเองตื้นตันจนกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่ ทั้งนี้ ได้ให้พรตูนให้วิ่งไปถึงจุดหมายปลายทาง อย่าให้เกิดอะไรระหว่างทาง ขอให้พระคุ้มครองไปจนถึงเป้าหมายที่ตั้งใจ และเจริญๆ ยิ่งขึ้น
วันเดียวกัน ที่ศูนย์ค้าส่งเดอะฮับ รังสิต จ.ปทุมธานี กลุ่มช่างตัดผมจากทั่วประเทศร่วมกันจัดกิจกรรมตัดผมการกุศลในราคาหัวละ 19 บาท โดยรายได้ทั้งหมดไม่หักค่าใช้จ่ายนำไปสมทบในโครงการก้าวคนละก้าว โดยนายพนม ผิวขำ ผู้จัดงาน กล่าวว่า ตนเองและกลุ่มเพื่อนช่างตัดผมอยากเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยเหลือสังคม จึงได้จัดงานในครั้งนี้ขึ้น โดยมีกลุ่มเพื่อนช่างตัดผมจากทั่วประเทศร่วมแรงร่วมใจกันทำบุญมาช่วยกันตัดผม คนที่มาตัดผมตัดผมทรงอะไรก็ได้ เพียงบริจาคเข้าโครงการจำนวน 19 บาทเท่านั้น ซึ่งหลังจากที่มีการประชาสัมพันธ์กิจกรรมในสื่อโซเชียลและสื่อต่างๆ ปรากฏว่ามีลูกค้าทยอยเดินทางมาร่วมตัดผมและร่วมสมทบทุนอย่างต่อเนื่อง