วันที่ 25ต.ต. บริเวณจุดจอดรถรับส่งสนามม้านางเลิ้ง นางศิริรัตน์ ภัทรกรรม และด.ญ.ปพิชญา เอ่งฉ้วน หรือน้องอิง ลูกสาวสาว เรียนอยู่ชั้นป.4 ซึ่งเดินทางมาจากอ.เหนือคลอง จ.กระบี่ เพียงสองคนแม่ลูก โดยนางศิริรัตน์ เปิดเผยทั้งน้ำตา ว่า ตนและลูกสาวเดินทางมาจากจ.กระบี่โดยเครื่องบินมาต่อรถชัตเทิลบัสจากหมอชิตมาที่สนามม้านางเลิ้ง เพื่อจะเดินทางไปยังท้องสนามหลวง ซึ่งไม่ได้เตรียมที่พักอะไรไว้ก่อนล่วงหน้าและซื้อตั๋วเครื่องบินแค่ขามาเท่านั้น ส่วนขากลับจะกลับตอนไหนก็ค่อยซื้อ เพราะตั้งใจว่าจะอยู่จนเสร็จสิ้นพระราชพิธีจึงจะเดินทางกลับ

“ตัวเองและลูกสาวมุ่งมั่นที่จะเดินทางมากราบในหลวงรัชกาลที่ 9 และร่วมพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพในครั้งนี้ ตั้งใจมากเพราะลูกสาวเคยอ้อนว่าอยากจะมากราบพระบรมศพก่อนหน้านี้นานแล้ว แต่ด้วยภารกิจทางบ้านจึงไม่สามารถเดินทางมาได้ ครั้งนี้ถึงแม้จะมาลำพังสองคนแม่ลูกก็ได้เตรียมเสื้อผ้าอุปกรณ์กันฝน กันร้อนมาพร้อม ไม่ห่วงอะไร มาดูทุกอย่างเอาดาบหน้า และไม่ว่าจะเข้าไปได้ใกล้แค่ไหน จุดใด ก็จะปักหลักค้างแรมอยู่ตรงนั้นเพื่อขอมีส่วนร่วมในพิธีครั้งหนึ่งในชีวิต” นางศิริรัตน์ กล่าว

นางศิริรัตน์ กล่าวด้วยว่า ถึงแม้ว่าจะไม่ได้เข้าไปใกล้ก็ตาม แต่ขอเพียงแค่ให้ได้เข้าไปใกล้ที่สุดเท่าที่จะเข้าไปได้ก็พอ และจะอยู่จนถึงเสร็จพระราชพิธีในวันที่ 27 ต.ค.นี้ จากนั้นจึงจะหาตั๋วเครื่องบินเพื่อเดินทางกลับจ.กระบี่ ทั้งนี้ ถ้าไม่มีในหลวงรัชกาลที่ 9 พวกเราคงไม่มีความสะดวกสบายเท่าทุกวันนี้ และคนไทยคงลำบากไม่รู้ว่าชีวิตจะเป็นอย่างไร

 

“ตนพยายามสอนลูกให้รู้ถึงข้อปฏิบัติของพระองค์ท่านที่มีต่อประชาชน ทั้งเรื่องความซื่อสัตย์สุจริต ความเป็นอยู่แบบพอเพียง เพราะที่บ้านก็ใช้ชีวิตแบบพอเพียง สอนให้ลูกรู้จักความลำบาก รู้จักออม มีเท่าที่มีอยู่ ไม่ฟุ้งเฟ้อ ไม่อยากได้อยากมี ใช้ชีวิตพอเพียงเหมือนที่พระองค์ท่านทรงสอนไว้ และมีความกตัญญูต่อพ่อแม่เหมือนที่พระองค์ท่านปฏิบัติ” นางศิริรัตน์ กล่าว