วันศุกร์ที่ 4 สิงหาคม 2560 เวลา 23.05 น. จะมีอีเว้นท์ใหญ่ “พระราหูย้ายราศี” และจะอยู่ยาวถึง “ปีครึ่ง” ส่งผลให้หลายคนตื่นตระหนกกลัวอิทธิพลของดาวดวงนี้

หมอดูชื่อดัง “หมอช้าง-ทศพร ศรีตุลา” ได้ออกมาเตือนพร้อมแนะวิธีการรับมือกับราหู “ดาวแห่งเงา” อย่างมีสติ และไม่ต้องกลัวจนเกินเหตุ

“หมอช้าง” กล่าวว่า การยกย้ายราศีของพระราหูครั้งนี้ ผู้คนค่อนข้างให้ความสนใจ เพราะช่วงเดือนกรกฎาคม มีหลายเหตุการณ์เกิดขึ้น เช่น การสูญเสียคนในวงการบันเทิงหลายคนในหนึ่งอาทิตย์ หรือแม้กระทั่งภัยธรรมชาติ ซึ่งเกิดในช่วงที่พระราหูกำลังจะย้ายราศี ทำให้หลายคนมองว่า เป็นผลจากพระราหูหรือเปล่า

“ราหูอยู่คู่กับสังคมไทยมาช้านาน และอย่าไปกลัว แม้พระราหูจะมีหน้าเป็นยักษ์ แต่ในทางโหราศาสตร์เป็นดวงดาวที่ให้ทั้งคุณและโทษ พระราหูไม่ใช่ยักษ์ใจร้าย ราศีใครที่ราหูเข้าก็ไม่ใช่ว่าจะโชคร้ายอย่างเดียว บางคนอาจจะเป็นบวกก็มี โดยในวงรอบของพระราหูจะมีอัตราการเปลี่ยนเปลี่ยนราศี ประมาณ 18 เดือนต่อหนึ่งครั้ง ซึ่งตอนนี้ก็ครบรอบแล้ว ประมาณ 1 ปีครึ่ง”

หมอช้าง ระบุอีกว่า ในทางโหราศาสตร์จริงๆ เวลาเราดูดวงชะตา เราไม่ได้พูดถึงดวงดาวใดดวงดาวหนึ่งจะให้ผลกระทบทั้งหมด การดูดวงคือการวิเคราะห์องค์ประกอบของดวงดาวต่างๆ ถ้าเขียนเป็นสมการ ก็มีตัวแปรเยอะ เพียงแต่พระราหูเป็นดวงดาวที่ถูกประชาสัมพันธ์เยอะที่สุด คนก็เลยเหมารวม

“สิ่งที่ต้องพูดให้เข้าใจคือ ไม่ใช่อะไรก็พระราหู”

เมื่อเป็นดวงดาวที่ถูกประชาสัมพันธ์เยอะ จึงเป็นช่องทางให้มีผู้ไม่ประสงค์ดีนำเรื่องนี้ไปใช้ในทางมิชอบ!!

“ปัญหาคือ มีคนเอาเรื่องนี้ไปหากิน ไปจัดงานอีเว้นท์ตามวัด ไปเรียกเก็บค่าของไหว้แพงๆ เอาเงินเข้ากระเป๋าตัวเอง กลายเป็นพุทธพาณิชย์ บางทีไปทำให้มันแรง มันน่ากลัว ไปเรียกเงินเรียกทอง ยิ่งช่วงหลังๆ มีคนที่เรียกตัวเองว่าเป็นหมอดู แต่ไม่มีความรู้ แชร์เรื่องนี้ในแบบที่ผิด ด้วยยุคนี้เป็นยุคที่คนชอบเรื่องโหราศาสตร์ แต่ว่าคอนเทนท์ที่เป็นโหราศาสตร์แท้ๆ กลับมีน้อยลง แต่กลายเป็นการสร้างกระแส เกาะกระแส เรียกยอดไลค์ ยอดฟอลโล่”

หมอช้าง จึงย้ำว่า พระราหูมีทั้งดีและไม่ดี ในทางโหราศาสตร์ดาวที่ดีที่สุดไม่มี มีทั้งดาวที่ดีและไม่ดีปนๆ กันไป แต่ทำไมถึงออกมาพูดว่า 4 สิงหาคม พระราหูเปลี่ยน เพราะอยากเตือนสติว่า ชีวิตกำลังจะเปลี่ยนนะ วันที่ 4 สิงหาคมจะเป็นวันเห็นการเริ่มต้นของชะตาชีวิตใน 12 ราศี

ดวงเมืองหลังพระราหูย้าย

“พระราหูย้ายเข้าสู่ภพพันธุของดวงเมือง เพราะดวงเมืองถูกวางลัคนาไว้ที่ราศีเมษเพราะดาวราหูจะย้ายมาทับดาวจันทร์ หมายถึงเรื่อง เศรษฐกิจการเงินที่มีความผันผวนความวุ่นวายอย่างหนัก และภพพันธุยังหมายถึงเรื่องของการจัดการภายใน การปรับเปลี่ยน เรื่องการบริหาร อันนี้ก็ต้องระมัดวัง และภัยที่เกิดจากทางน้ำ เพราะพระจันทร์ เป้นดวงดาวธาตุน้ำ และภัยที่เกิดกับน้ำท่วม”

2 ราศี “ราหูถีบออก” ชีวิตจะดีขึ้น

ราศีสิงห์ (17 สิงหาคม-16 กันยายน) และ ราศีกุมภ์ (13 กุมภาพันธ์-14 มีนาคม)

หมอช้าง ระบุว่า ถ้าช่วงที่พระราหูเข้าชีวิตแย่ พอออกไปก็จะดีขึ้น แต่จะดีมากน้อยขึ้นอยู่กับดาวอื่นที่เข้ามาด้วย แต่ช่วงที่ราหูถีบตัวก็คือช่วงนี้จะมีเรื่องวุ่นวาย ผิดหวังเรื่องความรัก เสียเงิน เสียทอง

2 ราศี “ราหูเข้า”

ราศีกรกฎ (17 กรกฎาคม-16 สิงหาคม) เป็นเจ้าภาพหลัก และ ราศีมังกร (15 มกราคม-12 กุมภาพันธ์) เป็นเจ้าภาพร่วม

ราศีกรกฎ (17 กรกฎาคม-16 สิงหาคม)

ระวังเรื่องสุขภาพ ปัญหาส่วนตัว ครอบครัว หรือความสัมพันธ์ การฟ้องร้องคดีความ ต้องระวัง

ราศีมังกร (15 มกราคม-12 กุมภาพันธ์)

เป็นราศีพิเศษที่มีภูมิต้านทางของพระราหู เพราะดาวประจำตัวราศีมังกรเป็นดาวเสาร์ เป็นดาวประเภทเดียวกันกับพระราหู พอดาวประเภทเดียวกันมาเจอกัน ก็จะไม่ส่งผลร้ายเท่าไหร่ แต่ต้องระวัง เพราะดวงดาวแรง เป็นทุกขลาภ คือ บางทีได้บางอย่างมา แล้วมีเหตุให้เสียไป โชคจากพระราหูไม่ใช่โชคจีรังยั่งยืนเท่าไหร่ แต่ก็มีโอกาสรวยเพราะเป็นดาวแห่งการเสี่ยง

3 ราศี ดวงดี

ราศีพิจิก (17 พฤศจิกายน-15 ธันวาคม)

จะดีขึ้นในเชิงหน้าที่การงาน ความก้าวหน้า การขยับขยาย โชคก้อนโต การโปรโมตต่างๆ

ราศีกันย์ (17 กันยายน-17 ตุลาคม)

จะมีโชคลาภไม่คาดฝัน

ราศีตุลย์ (18 ตุลาคม-16 พฤศจิกายน)

ส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงเรื่องงาน เปลี่ยนงาน ย้ายงาน เริ่มงานใหม่

5 ราศี ดวงต้องระวัง

ราศีเมษ (14 เมษายน-14พฤษภาคม)

จะมีความวุ่นวายในบ้านและครอบครัว แต่เป็นปัญหาที่จัดการได้ เพราะเป็นราศีที่มีดาวตัวช่วยเข้ามา

ราศีพฤษ (15 พฤษภาคม-14 มิถุนายน)

ให้ระวังเพื่อน เพื่อนร่วมงาน การถูกนินทา ใส่ร้าย กลั่นแกล้ง มีปัญหาเรื่องการติดต่อ

ราศีเมถุน (15 มิถุนายน-16 กรกฎาคม)

จะมีปัญหาความวุ่นวายเรื่องการเงิน เสียเงิน เสียทรัพย์ ซึ่งเป็นเรื่องชาวบ้าน

ราศีธนู (16 ธันวาคม-14มกราคม)

จะมีปัญหาเรื่องอสังหาริมทรัพย์ เรื่องที่ดิน มรดก ทรัพย์สิน

ราศีมีน (15 มีนาคม-13 เมษายน)

จะมีการเปลี่ยนแปลงเรื่องงาน แต่ต้องระวังปัญหาเรื่องบุตรและบริวาร ใครมีลูกก็อาจจะเจอปัญหาเจ็บป่วย แต่ถ้าไม่มีลูก ก็เป็นเรื่องลูกน้อง ต้องดูแลสิ่งต่างๆ ด้วยตัวเองใกล้ชิดมากขึ้น

รู้ทันดวง

หมอช้าง ย้ำว่า ทั้งหมดนี้ รู้ไว้เพื่อเตรียมรับการเปลี่ยนแปลง โหราศาสตร์ เป็นความสัมพันธ์ระหว่างชีวิตมนุษย์กับดวงดาว เมื่อดวงดาวเคลื่อนเปลี่ยน ชีวิตก็หมุนเวียนเปลี่ยนไป ความแน่นอนของสิ่งต่างๆ บนโลกนี้ ไม่มีอะไรดีตลอด หรือแย่ตลอด มันก็หมุนเวียนเปลี่ยนกันไป

“ซึ่งคุณไม่จำเป็นต้องทำอะไรเลยก็ได้ หรือถ้าบางคนทั้งชีวิตสวดมนต์ไหว้พระ ทำบุญมาทุกวัน เรื่องวันที่ 4 สิงหาคมเป็นเรื่องเล็ก สำหรับคุณมาก ถือว่า มีภูมิคุ้มกัน เปรียบเหมือนคน ถ้าออกกำลังมาทั้งชีวิต วันนี้ต้องเดินขึ้นบันไดสัก 5 ชั้น ก็ไม่ต้องเตรียมตัวอะไรแล้ว ก็เดินลิ่วเลย เพราะคุณมีพื้นฐานที่ดี แต่สำหรับคนที่ไม่สบายใจ ก็อาจจะสวดมนต์ที่บ้าน หรือเตรียมการไหว้พระราหู แต่ขอย้ำว่า การไหว้พระราหูทำที่บ้านได้ และไม่จำเป็นต้องไปซื้อของบูชาแพงๆ 3,000-5,000 บาท ซึ่งอันนี้เจอพิษพระราหูของแท้ คือ โดนหลอก ก็ให้ทำอะไรที่ง่ายๆ ไม่เดือดร้อนคนอื่น เอาที่สบายใจ”

ของไหว้พระราหู ของดำ 8 อย่าง

ตามตำรามี 3 ประเภท คือ ของคาว ของหวานหรือผลไม้ และเครื่องดื่ม

1.ของคาว เช่น ไก่ดำ ซุปไก่

2.ของหวานหรือผลไม้ เช่น ขนมเปียกปูน คุ๊กกี้ องุ่นสีดำ หรือสาหร่าน

3.เครื่องดื่ม เช่น กาแฟดำ น้ำอัดลม

เวลาไหว้พระราหู

พระราหูเคลื่อน 23.05 น. วันที่ 4 สิงหาคม ถ้าใครทำบุญสามารถทำได้ทั้งวันในวันนี้ แต่ถ้าตั้งใจสวดบทบูชาพระราหูหรือไหว้พระราชหู ให้เริ่มตั้งแต่ 23.05 น. จนถึง 6 โมงเช้าของวันที่ 5 สิงหาคม

“แต่ถ้าอยากให้การอธิษฐานมีพลังให้ไหว้หรือสวดมนต์ตอน 23.05 น. เพราะเป็นช่วงที่พระราหูเปลี่ยนราศี คลื่นแรงที่สุด โดยวิธีการอธิษฐาน สำหรับคนที่พระราหูเข้า ก็อาจจะอธิษฐานว่า เมื่อท่านเข้ามาในดวงเราแล้ว ขอให้ท่านมาแล้วทำให้เกิดสิ่งที่ดี ให้เรามีความขยันความตั้งใจประกอบสัมมาอาชีพ ให้แปรความลุ่มหลงเป็นความขยัน ได้โชคจากพระราหู สำหรับคนที่พระราหูออก ตามธรรมเนียมไทยก็ต้องไปลามาไหว้ เพราะในชีวิตหนึ่ง เรามีสิทธิเจอพระราหูอีก เราก็มีของลาไป ถ้ามาครั้งหน้าก็ขอให้มาดี” หมอช้างแนะนำ

ขั้นตอนการไหว้พระราหู

1.ให้หันหน้าผู้ไหว้ไปทางทิศ ‘ตะวันตกเฉียงเหนือ’ จุดธูปเทียน

2.ตั้งนะโม 3 จบ

3.บทสวดบูชาพระราหู

กินนุ สันตะระมาโน วะราหุ สุริยัง ปะมุญจะสิสังวิคคะรูโป อาคัมมะกินนุ ภีโต วะ ติฏฐะสีติ สัตตะธา เม ผะเล มุทธา ชีวันโต นะ สุขัง ละเภ

4.พระคาถาสุริยะบัพพา

กุสเสโตมะมะ กุสเสโตโต ลาลามะมะโตลาโม โทลาโมมะมะ โทลาโมมะมะโทลาโมตัง เหกุติมะมะ เหกุติฯ

5.พระคาถาจันทรบัพพา

ยัตถะตังมะมะ ตังถะยะ ตะวะตังมะมะตัง วะติตัง เสกามะมะกาเสตัง กาติยังมะมะ ยะติกาฯ

6.คำถวายของบูชาพระราหู

นะโมเม พระราหูเทวานัง ธูปะทีปะ จะปุปผัง สักการะวันทะนัง สูปะพะยัญชะนะ สัมปันนัง โภชะนานัง สาลีนัง สะปะริวารัง อุทะกังวะรัง อาคัจฉันตุ ปะริภุญชันตุ สัพพะทา หิตายะ สุขายะ พระราหูเทวา มะหิทธิกา เตปิอัมเห อะนุรัก ขันตุ อาโรคะ เยนะ สุเขนะจะ

ข้าแต่พระราหู เทพแห่งโชคลาภอันศักดิ์สิทธิ์ที่สูงสุด ข้าขอบูชาท่านด้วยของดำ 8 อย่าง ขอให้ข้าพเจ้าปราศจากโรคภัย และอันตรายใดๆ ขอให้ท่านประทานพร โชคลาภ ความร่ำรวย ทั้งหลายทั้งปวง ให้แก่ข้าพเจ้า ด้วยเทอญ

วิธีอื่นชนะพระราหู

หมอช้าง ระบุ ในประวัติ พระพุทธเจ้าเป็นผู้แสดงธรรมให้พระราหู ดังนั้น ถ้าเราอยากชนะพระราหูก็ต้องหาธรรมะ และธรรมะเป็นผู้ชนะพระราหู การที่เราไหว้ขอพรจากพระพุทธรูปไสยาสน์ ปางโปรดอสุรินทราหู ประเทศไทยมีหลายที่ เช่น พระนอนวัดโพธิ์ พระนอนที่วัดสามพระยา แถวแบงชาติ สะพานพระราม 8 ให้ไปไหว้ขอพร

พระพุทธรูปไสยาสน์ ปางโปรดอสุรินทราหู

“ธรรมะทำให้เรามีสติ มีปัญญา เป็นสิ่งที่ขจัดความมัวเมาลุ่มหลงของพระราหูได้” หมอช้างย้ำ และว่านอกจากนี้ ในการทำความดี หรือทำบุญ มี 10 อย่าง เรียก บุญกิริยาวัตถุ 10 ประการ เช่น การกตัญญูกับพ่อแม่ การทำหน้าที่ของเราให้ดีที่สุด ทำตัวให้เป็นประโยชน์กับสังคม

“ถ้าพระราหูเข้า แต่เรามัวแต่กังวลโวยวาย ก็ไม่มีอะไรดีขึ้น และดาวดวงนี้ เป็นดาวแห่งความลุ่มหลงมัวเมา ถ้าเราใช้ไปในทางที่ถูก เช่น ติดกีฬา เราจะกลายเป็นนักกีฬา เพราะโดยพื้นฐานของดวง คนที่เป็นนักกีฬา เขาต้องมีดาวราหูที่เด่น เพราะเขาต้องซ้อมทุกวัน เช่น พวกที่ทำแต่เล็กจนโต ไม่เปลี่ยนสักที ก็เป็นทางแก้พระราหูแบบที่ไม่เคยคิดมาก่อน”

“หรือพระราหู เป็นดาวที่จับต้องไม่ได้ เพราะเป็นเงา ดังนั้น ธุรกิจที่เกี่ยวกับเงา คือ ทำธุรกิจออนไลน์ เพราะไม่มีหน้าร้าน หรือการทำงานเกี่ยวกับต่างประเทศ หรือการเดินทางไกล ก็เป็นสิ่งที่ช่วยให้เกิดพลังในทางที่เป็นบวกของพระราหู”

หมอช้าง ทิ้งท้ายว่า เรื่องพระราหู จะไม่ได้หายไปจากสังคมไทย ยังคงอยู่ต่อไป เราต้องอยู่กับพระราหู ใครที่สนใจที่ชอบเรื่องนี้ ควรศึกษาหาข้อมูลด้วยตัวเอง เพราะการมีความรู้ทำให้เรามีปัญญาเพิ่มมากขึ้น ทำให้เราไม่ตกเป็นเหยื่อ

“สิ่งสำคัญสิ่งที่แก้ปัญหาจากพระราหูได้ดีที่สุด คือ ปัญญา เพราะปัญญา คือแสงสว่างในจิตใจของเรา”