รวบสองชาวจีนล้วงกระเป๋าในสนามบินสุวรรณภูมิ ก่อนนำไปรูดซื้อสินค้าเกือบล้าน

เมื่อวันที่ 3 ก.ค. นายกิตติพงศ์ กิตติขจร ผู้อำนวยการฝ่ายรักษาความปลอดภัย ท่าอากาศยาน
สุวรรณภูมิ (ทสภ.) เป็นผู้แทน ทสภ.แถลงข่าวร่วมกับ พล.ต.ต.ธรรมนูญ ไตรทิพยพงศ์ ผบก.ภ.จ.สมุทรปราการ พ.ต.อ.ชูตระกูล ยศมาดี ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ พ.ต.อ.อาชยน ไกรทอง รองผู้บังคับการตำรวจท่องเที่ยว พ.ต.อ.สุรศักดิ์ สุรินทร์แก้ว ผู้กำกับการ 6 กองบังคับการตำรวจท่องเที่ยว

ในคดีการจับกุม นายหยาง โมเฟิง และ นายเจีย เซียวตง  ฐานความผิด “ร่วมกันลักทรัพย์ในท่าอากาศยานและร่วมกันใช้บัตรอิเล็กโทรนิกส์ของผู้อื่นโดยมิชอบในประการที่น่าจะก่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน”

โดยการจับกุมในครั้งนี้สืบเนื่องมาจาก เมื่อวันที่ 30 มิถุนายน 2560 เวลาประมาณ 13.30 น. นายทากาชิ โอกาซาวะ ชาวญี่ปุ่น ซึ่งเป็นผู้โดยสารที่ใช้บริการท่าอากาศยานฯ ได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน สภ.ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ว่า เมื่อวันที่ 29 มิถุนายน 2560 ช่วงเวลาประมาณ 18.00-20.00 น. ตนได้เดินทางมารับเพื่อนที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ แล้วกระเป๋าเงินของตนได้เกิดสูญหายไป เมื่อได้รับแจ้งเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เจ้าหน้าที่ฝ่ายรักษาความปลอดภัยและศูนย์ปฏิบัติการพิเศษ

ทอท.ได้เร่งตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิด พบว่าเมื่อเวลาประมาณ 18.01 น. นายทากาชิเดินขึ้นมาจากชั้นรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิ้งค์ ระหว่างที่กำลังเดินขึ้นบันไดเลื่อนบริเวณชั้น 1 ประตู 4 มีชายต้องสงสัยจำนวน 2 คน เดินมาประกบและได้เดินขึ้นบันไดเลื่อนไปด้วย ระหว่างนั้นหนึ่งในสองคนได้ล้วงกระเป๋าสะพาย ภายในมีกระเป๋าเงินและบัตรเครดิต จากนั้นชายทั้ง 2 คน ก็ได้รีบเดินลงมาขึ้นรถแท็กซี่ บริเวณชานชาลาชั้น 1 ออกไปจากพื้นที่ ทสภ.

ส่วนทางนายทากาชิ ได้ไปนั่งคอยเพื่อนที่อาคารผู้โดยสารชั้น 2 ประตู 10 โดยที่ยังไม่ทราบว่ากระเป๋าเงินของตนได้หายไป จนต่อมาเวลาประมาณ 20.02 น. ได้รับ SMS ว่ามีการนำบัตรเครดิตของตนไปชำระค่าสินค้า จำนวน 3 ครั้ง รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 803,100 บาท

นายกิตติพงศ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.ทสภ. และเจ้าหน้าที่ตำรวจท่องเที่ยว ทสภ. จึงได้ติดตามตรวจสอบภาพวงจรปิดจากร้านค้าที่มีการนำบัตรเครดิตไปชำระสินค้าภายในห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลแอมบัสซี่ ชิดลม เมื่อตรวจสอบแล้วพบว่าเป็นชายต่างชาติ 2 คน ซึ่งมีรูปพรรณสันฐานตรงกับชายต้องสงสัยดังกล่าว และจากการตรวจสอบข้อมูลจากการเดินทางเข้า-ออกประเทศไทย ทราบว่าชายทั้งสองชื่อ นายหยาง อายุ 50 ปี สัญชาติจีน และนายจางอายุ 36 ปี สัญชาติจีน เข้าพักที่โรงแรมนิวเอ็มพายน์ ย่านเยาวราช ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้าตรวจสอบพบชายทั้งสองคน จึงได้แสดงตนเข้าควบคุมตัวไว้และเมื่อเข้าค้นห้องพักก็พบของกลางที่ชายทั้งสองคนซื้อมาโดยใช้บัตรเครดิตของนายทากาชิ จำนวน 3 จาก 4 รายการ ได้แก่ รองเท้าและกระเป๋าใส่เงินอีก 2 ใบส่วนอีก 1 รายการ คือกระเป๋าสะพาย(สีฟ้า) ได้ถูกส่งต่อให้เพื่อนที่ร่วมขบวนการนำกลับไปประเทศจีนแล้ว

เจ้าหน้าตำรวจจึงได้ควบคุมตัวผู้ต้องหามาที่ สภ.ทสภ.เพื่อทำการสอบสวนฯ และแจ้งข้อกล่าวหาให้ชายทั้ง 2 คนนี้รับทราบ ซึ่งในเบื้องต้นผู้ต้องหาให้การรับสารภาพ จึงได้ควบคุมตัวเข้าห้องขังเพื่อรอดำเนินคดีในข้อหา “ร่วมกันลักทรัพย์ ในท่าอากาศยานและร่วมกันใช้บัตรอิเล็กโทรนิกส์ของผู้อื่นโดยมิชอบในประการที่น่าจะก่อให้เกิดความเสียหาย แก่ผู้อื่นหรือประชาชน” ตามคดีอาญาเลขที่ 233/60 และของกลางเลขที่ 155/60 ปจว.ข้อที่ 3 เวลา 14.00 น. ลงวันที่ 1 กรกฎาคม 2560 ต่อไป

นายกิตติพงศ์ กล่าวในตอนท้ายว่า ทสภ. ยังคงมุ่งมั่นและให้ความสำคัญในการดูแลรักษาความปลอดภัย
ต่อชีวิตและทรัพย์สินของผู้ใช้บริการทุกท่าน โดยมีฝ่ายรักษาความปลอดภัย ทสภ. ศูนย์ปฏิบัติการพิเศษ ร่วมกับหน่วยงานความมั่นคงในพื้นที่ทั้งตำรวจและทหาร เพื่อคอยดูแลรักษาความปลอดภัยตลอดเวลา เพื่อเพิ่มความอุ่นใจแก่ผู้มาใช้บริการ ทสภ. หากผู้ใช้บริการท่านใดพบเห็นสิ่งผิดปกติ หรือประสบเหตุด่วน เหตุร้าย สามารถแจ้งศูนย์รักษาความปลอดภัย ทสภ.โทร. 0 2132 4000 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง