โยเกิร์ตขมิ้นชัน กินทุกวันป้องกันมะเร็ง

ข้อมูลน่าสนใจศูนย์สารสนเทศสมุนไพรอภัยภูเบศร เปิดเผยว่า  ด้วยงานวิจัยและการศึกษาถึงคุณประโยชน์ที่มากมายของขมิ้นชัน  พบว่า ขมิ้นชัน เป็นสมุนไพรเครื่องเทศที่ช่วยในการขับลม กระจายลม บรรเทาอาการท้องอืดเฟ้อ ฤทธิ์ต้านการอักเสบ แก้ปวด บรรเทาอาการปวดข้อจากข้อเสื่อม  รักษาโรคกระเพาะ กรดไหลย้อน ฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ ป้องกันอัลไซเมอร์ หรือภาวะสมองเสื่อม

และโดยเฉพาะข้อมูลการป้องกันมะเร็ง พบว่า ขมิ้นชันมีฤทธิ์ลดการแบ่งตัว ยับยั้งการเติบโต ยับยั้งการแพร่กระจาย ของเซลล์มะเร็งในหลอดทดลองได้อย่างมีประสิทธิภาพในเซลล์มะเร็งหลายๆ ชนิด ไม่ว่าจะเป็นมะเร็งปอด มะเร็งเต้านม มะเร็งต่อมลูกหมาก มะเร็งลำไส้ และมะเร็งตับอ่อน

ที่สำคัญคือ ขมิ้นชัน เป็นสมุนไพรที่มีการทดลองในคน เช่น มะเร็งลำไส้ใหญ่ มะเร็งทวารหนัก มะเร็งตับอ่อน มะเร็งกระดูก รวมทั้งการลดการอักเสบของเยื่อบุปากในเด็กที่ได้รับการฉายรังสีนอกจากนี้ ขมิ้นชันยังเป็นช่วยเสริมการสร้างภูมิคุ้มกันให้กับผู้ป่วยมะเร็งที่ได้รับ การบำบัดด้วยคีโมและช่วยการรักษามะเร็งด้วยการฉายรังสีมีประสิทธิภาพขึ้นโดย ขมิ้นช่วยให้เซลล์มะเร็งไวต่อการฉายรังสีมากขึ้น ในขณะเดียวกัน ยังป้องกันเซลล์ปกติไม่ให้ถูกทำลายโดยรังสีได้อีกด้วย

นอกจากยังมีข้อมูลเกี่ยวกับประโยชน์จากโยเกิร์ต มาบอกด้วยว่า โยเกิร์ต เกิดจากการหมักของนมชนิดต่างๆ กับแบคทีเรียแลคโตบาซิลัส เอซิโดซิส และ สเตรปโตคอคคัส เทอร์โมฟิลลัส ซึ่งแบคทีเรียเหล่านี้ เป็นตัวช่วยในการย่อยน้ำตาลแลคโตสในนมให้กลายเป็นกรดแลคติค ที่มีรสเปรี้ยว  และโยเกิร์ต ยังมีประโยชน์มากมายที่หลายคนคาดไม่ถึงอีกด้วย

โยเกิร์ต นับเป็นตัวช่วยชั้นดีต่อท้องไส้   เนื่องจากโยเกิร์ตประกอบไปด้วยแบคทีเรียแลคโตบาซิลัสหลายๆ ตัวที่มีประโยชน์ต่อลำไส้ ช่วยเพิ่มแบคทีเรียตัวดี และลดแบคทีเรียตัวร้าย  ช่วยให้เระบบขับถ่ายดีขึ้น ถ่ายของเสียได้เป็นปกติ และยังลดความเสี่ยงในการเกิดโรคมะเร็งลำไส้ รวมทั้งโรคอื่นๆ ที่เกี่ยวกับลำไส้ เช่น ท้องผูก ริดสีดวงทวาร ได้

นอกจากนี้ มีงานวิจัยหลายตัวที่พบว่าแบคทีเรียในโยเกิร์ตช่วยสร้างภูมิคุ้มกันแก่ร่างกาย ช่วยป้องกันไม่ให้เจ็บป่วยง่าย และ แลคโตบาซิลัสในโยเกิร์ต สามารถส่วนช่วยในการควบคุมระดับคอเลสเตอรอลและไตรกลีเซอไรด์ ช่วยลดภาวการณ์เกิดโรคหัวใจและหลอดเลือดได้

รวมถึง ประโยชน์ในการเสริมแคลเซียมให้ร่างกาย  นอกจากนี้ ยังมีงานวิจัยในญี่ปุ่นพบว่าการทานโยเกิร์ตรสธรรมชาติสามารถป้องกันโรคฟันผุ เพราะแคลเซียมที่มีอยู่ในโยเกิร์ตช่วยให้ฟันแข็งแรง ไม่ผุง่าย ช่วยป้องกันโรคเหงือก ส่วนแบคทีเรีย แลคโตบาซิลัส และสเตร็ปโตค็อกคัส ช่วยทำลายปริมาณไฮโดรเจนซัสไฟด์ที่เป็นสาเหตุของกลิ่นปาก

และเมื่อนำ “สองประโยชน์” จากโยเกิร์ต และ ขมิ้นชัน ให้โครจรมาพบกัน กลายเป็น “โยเกิร์ตขมิ้นขัน” ซึ่งทางผู้เชี่ยวชาญจากอภัยภูเบศร ยืนยันว่า หากรับประทานได้ทุกวันสามารถป้องกันการเกิดมะเร็งได้จริง

 ลองมาดูส่วนประกอบและวิธีทำ “โยเกิร์ตขมิ้นขัน” กันเลยดีกว่า

ส่วนประกอบ

  1. นมสดรสจืด 500      มิลลิลิตร
  2. โยเกิร์ตรสธรรมชาติ 1          ถ้วย (110 มิลลิลิตร)

ส่วนประกอบสำหรับสมุนไพรเชื่อม

  1. ขมิ้นชัน สด 2-3       แง่ง
  2. น้ำตาลทราย ½         ถ้วยตวง

 

วิธีทำโยเกิร์ต      

  1. นำนมสดมาตั้งไฟให้เดือด แล้วยกลง รอจนนมเริ่มอุ่น (ประมาณ 40 องศาเซลเซียส)
  2. เติมโยเกิร์ตลงไป คนให้เข้ากัน เทลงในภาชนะสำหรับเสิร์ฟ ตั้งทิ้งไว้ประมาณ 8-12 ชั่วโมง หรือจนขึ้นเป็นโยเกิร์ต แล้วนำไปแช่ตู้เย็น

วิธีทำสมุนไพรเชื่อม

  1. นำขมิ้นชันล้างสะอาด ปอกเปลือก หั่นเป็นชิ้นพอคำ(อาจจะหั่นเป็นสี่เหลี่ยมลูกเต๋าเล็กๆ) มาตั้งไฟ ใส่น้ำเล็กน้อย และใส่น้ำตาล เคี่ยวจนน้ำตาลละลายงวดเข้ากันดีแล้วยกลง ตั้งทิ้งไว้จนเย็น จากนั้นนำไปผสมกับโยเกิร์ต รับประทานได้ทันที หรือจะแช่เย็นเก็บไว้ได้นานประมาณ 1 เดือน

 

สนใจสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่  ศูนย์สารสนเทศสมุนไพรอภัยภูเบศร 037-211289  หรือ  www.abhaiherb.com  และ Facebookสมุนไพรอภัยภูเบศร