ผู้ออกแบบมาสคอต “น้องพลัง” แจงชัด ไม่ได้ลอกแบบจากการ์ตูนญี่ปุ่น

จากกรณีเกิดกระแสดราม่าในสื่อโซเชียลมีเดีย เมื่อนายกเทศมนตรี เมืองโอซาก้าออกมาทวิตรูปพร้อมข้อความว่า น้อง “มาสคอตข้าวโพด” ของไทยเหมือนมาสคอตฟูนาชี่ของญี่ปุ่น กลายเป็นประเด็นร้อน และถึงแม้จะไม่ได้พูดตรงๆ แต่ก็สื่อเป็นนัยว่า “มาสคอตของไทย” ก็อปปี้ “ฟูนาชี่”หรือเปล่า

ล่าสุดผู้ออกแบบ มาสคอต อาคารประเทศไทย น.ส. จันทร์ จันทรวิโรจน์ ครีเอทีฟ ดีไซเนอร์ บริษัท อินเด็กซ์ ครีเอทีฟ วิลเลจ จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นผู้ออกแบบ และพัฒนาแนวคิด (Conceptual design) ของอาคารประเทศไทย และตัวมาสคอต ชี้แจงว่า จากกรณีในโลกโซเชียลมีเดีย ที่กลายเป็นประเด็นเกี่ยวกับความคล้ายของ      มาสคอตของประเทศไทย กับตัวการ์ตูนของประเทศญี่ปุ่นนั้น เนื่องจากประเทศไทยได้เข้าร่วมงาน โดยเป็น 1 ใน 115 ประเทศ ที่เข้าร่วมงานระดับโลก อัสตานา เอ็กซ์โป 2017 ณ กรุงอัสตานา ประเทศคาซัคสถาน ภายใต้คอนเซปต์ “Bioenergy for All” เนื่องจากประเทศไทยเป็นประเทศเกษตรกรรม และโดดเด่นในเรื่องของพลังงานชีวภาพ โดยมีเนื้อหาสาระเพื่อแสดงให้ชาวต่างชาติเห็นถึงศักยภาพของประเทศไทยในด้านพลังงานชีวภาพ

ด้วยเนื้อหาดังกล่าว ทีมผู้ออกแบบจึงได้คัดเลือกพืชพลังงานของไทยมาพัฒนาเป็นมาสคอต โดยในเบื้องต้น ได้เลือกพืชพลังงานหลายชนิดด้วยกัน เช่น ต้นหญ้า มันสำปะหลัง อ้อย มาพัฒนาเป็นมาสคอต และออกแบบกว่า 10 แบบด้วยกัน

แต่จากการทำวิจัยศึกษาข้อมูลชาวคาซัคสถานพบว่า ข้าวโพด หนึ่งในพืชพลังงานของไทย เป็นพืชที่ชาวคาซัคคุ้นเคย และรู้จักเป็นอย่างดี ทีมงานทุกคนจึงได้สรุปลงตัวเลือกข้าวโพด มาเป็นสัญลักษณ์นำโชคของอาคารศาลาไทยในงาน Astana Expo 2017 เพราะเชื่อว่าจะทำให้ชาวคาซัคสถานจดจำได้ง่ายมากกว่าพืชอื่นๆ โดยใช้ชื่อว่า “พลัง” (Pa-Lang) เพื่อให้เข้ากับแนวคิดการจัดงานของประเทศเจ้าภาพ ในเรื่องพลังงานแห่งอนาคต โดยไม่ได้มีการคัดลอกมาจากการ์ตูนญี่ปุ่นแต่อย่างใด แต่มองว่าเนื่องจากพืช หรือต้นไม้ หรือผลไม้ ที่มีลักษณะเป็นการ์ตูน จะมีลักษณะคล้ายๆ กัน ด้วยสีสัน ซึ่งข้าวโพดก็จะเป็นสีเหลือง และสีเขียว อาจจะทำให้เกิดเป็นประเด็นขึ้นมา

ทั้งนี้ส่วนตัวอยากวอนขอว่า ไม่อยากให้มาสคอตเป็นประเด็นร้อนของทั้งสองประเทศ และค่อนข้างตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และด้วยความเป็นจริงตนเป็นคนวาดร่างแบบตัวน้องพลังขึ้นมาเอง โดยถอดแบบมาจากข้าวโพด และมีทีมงานช่วยกันคัดเลือก ทั้งนี้อยากฝากให้คนไทยช่วยเป็นกำลังใจให้ “น้องพลัง” สร้างชื่อเสียงให้กับประเทศไทยในงานมหกรรมโลก ซึ่งเป็นงานที่มีความสำคัญอย่างมาก

เพราะนอกจากตอนนี้ประเทศไทยจะจัดสร้างอาคารนิทรรศการเสร็จเป็นอันดับแรกของงาน ในส่วนของอาคารที่เปิดงานไปแล้ว ยังได้รับความนิยมอย่างมาก จนชาวต่างชาติพูดกันบอกต่อปากอีกด้วย รวมถึงประเทศไทย และญี่ปุ่น ก็มีพื้นที่จัดงานอยู่บริเวณใกล้เคียงกัน และเป็นเพื่อนบ้านที่ดีต่อกัน จึงอยากฝากให้เป็นกำลังใจในการช่วยกันสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศมากกว่า