ซีเอ็นเอ็นรายงานว่า ผลการสอบเหตุการณ์ที่เครื่องบินของสายการบินแอร์เอเชีย ที่เดินทางจากนครซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย ไปยังประเทศมาเลเซีย แต่เครื่องบินกลับต้องไปลงจอดที่เมืองเมลเบิร์น ของออสเตรเลียแทน เป็นเพราะนักบินบันทึกพิกัดเริ่มต้นของเครื่องบินผิดพลาด

รายงานระบุว่า จากรายงานการสอบสวนของสำนักงานความปลอดภัยด้านการขนส่งออสเตรเลีย ซึ่งเผยแพร่เมื่อวันที่ 7 กันยายน พบว่า เครื่องบินของแอร์เอเชีย ที่มุ่งหน้าจากซิดนีย์ ไปยังกรุงกัวลาลัมเปอร์ ของมาเลเซีย เมื่อวันที่ 10 มีนาคม 2558 และมีผู้โดยสารอยู่บนเครื่องบิน 212 คน บินไปผิดทิศทางหลังจากทะยานออกจากสนามบินในซิดนีย์ เนื่องจากนักบินใส่พิกัดที่แสดงตำแหน่งของเครื่องบินในระบบนำร่องของเครื่องบินผิด ทำให้เกิดความผิดพลาดของตำแหน่งเกิน 11,000 กิโลเมตร กระทบต่อระบบนำร่องของเครื่องบินและทำให้ระบบส่งสัญญาณแจ้งเตือน

อย่างไรก็ตาม ผลการสอบสวนระบุว่า นักบินมีโอกาสที่จะตรวจสอบและแก้ไขความผิดพลาดนี้ได้หลายครั้ง แต่ไม่ได้สังเกตเห็นการแจ้งเตือน จนกระทั่งเครื่องบินขึ้นไปตั้งลำและเริ่มมุ่งหน้าไปในทิศทางที่ผิดพลาดแล้ว มีสัญญาณเตือนทั้งที่เป็นข้อความและสัญญาณเสียง แสดงให้เห็นความผิดพลาดตั้งแต่ก่อนเทคออฟ แต่ลูกเรือไม่สนใจ เมื่อนักบินมาเห็นการแจ้งเตือนก็สายเกินไปแล้ว และพยายามหาทางแก้ปัญหา ยิ่งทำให้เกิดปัญหากับระบบนำร่อง รวมทั้งระบบกำหนดเส้นทางบินและระบบควบคุมการบินของเครื่อง

เมื่อระบบล้มเหลวมากขึ้น นักบินขอเดินทางกลับซิดนีย์ และขอร่อนลงจอดโดยไม่ใช้ระบบนำร่อง อย่างไรก็ตาม สภาพอากาศที่ซิดนีย์ไม่เอื้ออำนวยทำให้เครื่องบินต้องไปลงจอดที่เมืองเมลเบิร์นแทน และจำเป็นต้องรอเพื่อตรวจสอบเครื่องนาน 3 ชั่วโมง ก่อนที่จะออกบินไปยังกรุงกัวลาลัมเปอร์ที่เป็นจุดหมายปลายทางจริงๆต่อไป

ซีเอ็นเอ็นระบุว่า แอร์เอเชียเอ็กว์ แถลงว่า เครื่องบินทั้งหมดของบริษัทได้รับการติดตั้งระบบริหารจัดการการบินที่ปรับปรุงใหม่แล้วหลังจากเกิดเหตุดังกล่าว