ไทย-ญี่ปุ่น ยกระดับอุตสาหกรรมท้องถิ่น สร้างมูลค่าเศรษฐกิจหลักพันล้าน

ไทย-ญี่ปุ่น ยกระดับอุตสาหกรรมท้องถิ่น สร้างมูลค่าเศรษฐกิจหลักพันล้าน

เมื่อเร็วๆ นี้ นางสาวพิมพ์ภัทรา วิชัยกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า ประเทศไทยและญี่ปุ่น นับว่ามีความสัมพันธ์กันมาเป็นเวลายาวนานถึง 136 ปี ไม่ว่าจะเป็นด้านเศรษฐกิจและการเมือง ความร่วมมือทางการค้า การพัฒนาอุตสาหกรรม การร่วมทุน-ลงทุน และการท่องเที่ยว ปัจจุบันญี่ปุ่น ยังคงเป็นชาติที่เข้ามาลงทุนในไทยมากสุดเป็นอันดับ 1 มีสัดส่วนสูงถึงร้อยละ 40 ของการลงทุนจากต่างประเทศทั้งหมด

ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความสัมพันธ์ด้านเศรษฐกิจทั้ง 2 ประเทศที่มีการเกื้อกูลกัน อีกทั้งหน่วยงานต่างๆ ของไทยได้มีการผลักดันนโยบายการส่งเสริมให้ภาคธุรกิจและภาคอุตสาหกรรมร่วมมือกันในทุกๆ มิติ ส่งผลให้เกิดการขยายความร่วมมือกับญี่ปุ่นในบริบทและรูปแบบที่กว้างและหลากหลายมากยิ่งขึ้น

ที่ผ่านมากระทรวงอุตสาหกรรม ได้สานสัมพันธ์ผ่านความร่วมมือกับหน่วยงานต่างๆ ของประเทศญี่ปุ่น มาอย่างต่อเนื่องในการยกระดับขีดสามารถในการแข่งขันของภาคอุตสาหกรรมไทยด้วยเทคโนโลยี นวัตกรรม และหลักการ BCG Economy เพื่อรองรับการเปลี่ยนผ่านสู่อุตสาหกรรม 4.0

ทั้งนี้ กระทรวงอุตสาหกรรม ได้ประสานความร่วมมือกับประเทศญี่ปุ่นทั้งภาครัฐและเอกชนผ่านกิจกรรมและโครงการต่างๆ รวมถึงความร่วมมือกับจังหวัดวากายามะ ประเทศญี่ปุ่น ในการส่งเสริมและพัฒนาการลงทุนจนเกิดเป็นคู่ค้า รวมทั้งการถ่ายทอดเทคโนโลยีขั้นสูงต่างๆ ตลอดจนการสนับสนุนการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้และพัฒนาบุคลากรภาคอุตสาหกรรมร่วมกันของทั้ง 2 ประเทศในอนาคต

นางสาวพิมพ์ภัทรา วิชัยกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม

นางสาวพิมพ์ภัทรา กล่าวต่อว่า ที่ผ่านมากระทรวงอุตสาหกรรม ได้สร้างความร่วมมือกับภาครัฐและเอกชน ประเทศญี่ปุ่น ในการยกระดับการพัฒนาภาคอุตสาหกรรมและเอสเอ็มอีของทั้ง 2 ประเทศมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเน้นความร่วมมือกับรัฐบาลท้องถิ่นในลักษณะ Local-to-Local ผ่านการลงนามความร่วมมือ MOU ไปแล้ว 23 แห่ง

ปัจจุบันมีผู้แทนจากจังหวัดวากายามะ มาประจำที่โต๊ะญี่ปุ่น (Japan Desk) ตั้งแต่ปี 2562 ถึงปัจจุบัน เพื่อสร้างเสริมโอกาสในการแลกเปลี่ยนบุคลากรและผู้เชี่ยวชาญระหว่างกัน การแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ และการถ่ายทอดเทคโนโลยี-นวัตกรรมการผลิตต่างๆ ตลอดจนการร่วมกันจัดกิจกรรมเจรจาจับคู่ธุรกิจ เพื่อโอกาสในการเชื่อมโยงธุรกิจในระดับสากล

ซึ่งในระยะเวลาประมาณ 4 ปีที่ผ่านมา สามารถสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจได้ไม่ต่ำกว่า 1,000 ล้านบาท โดยเฉพาะความร่วมมือในกลุ่ม “อุตสาหกรรมเครื่องเขิน” กับจังหวัดวากายามะ มีการแลกเปลี่ยนแนวคิด เทคนิคเพื่อพัฒนารูปแบบผลิตภัณฑ์ นับเป็นอีกหนึ่งความสำเร็จของความร่วมมือและสะท้อนให้เห็นถึงวัฒนธรรมของทั้ง 2 ประเทศ ที่สามารถเชื่อมโยงและต่อยอดการสร้างมูลค่าเพิ่มได้เป็นอย่างดี