ประสิทธิชัยโพสต์ซัด ไฟฟ้ากลายเป็นธุรกิจหากำไร ไม่ใช่สาธารณูปโภคพื้นฐานของ ปชช.

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (3 มีนาคม) นายประสิทธิชัย หนูนวล แกนนำเครือข่ายปกป้องอันดามันจากถ่านหิน โพสต์ข้อความทางเฟซบุ๊ก ประเด็นปัญหาพลังงานไฟฟ้าของไทยในขณะนี้ โดยมีรายละเอียดระบุว่า มีความพยายามจะบอกว่าประเทศเราไฟฟ้าไม่พอ ต้องซื้อไฟฟ้าจากต่างประเทศ แล้วที่เหลืออยู่กว่า 10,000 เมกะวัตต์นั้นคืออะไร การเหลือเหล่านี้คือต้นทุนที่คนไทยต้องจ่ายหลายแสนล้านผ่านค่าไฟฟ้าทุกเดือน

ลองมาดูความจริง…เราซื้อไฟฟ้าจากลาวตอนนี้ประมาณ 3,500 เมกะวัตต์ แต่เมื่อไปดูผู้ถือหุ้นแล้ว ล้วนเป็นบริษัทไทยที่ถือหุ้นใหญ่จากโรงไฟฟ้าเหล่านี้ เพียงแต่ตั้งอยู่ในประเทศลาว แล้ว กฟผ.ก็ทำสัญญารับซื้อไฟฟ้าบนผลประโยชน์ของเอกชนและบริษัทลูกของ กฟผ. 1.เทิน-หินบุน (ลาว) 2.ห้วยเฮาะ (ลาว) 3.น้ำเทิน 2 (ลาว) 4.น้ำงึม 2 (ลาว) 5.บริษัท ไฟฟ้าหงสา จำกัด (โรงไฟฟ้าหงสา)

นายประสิทธิชัยระบุอีกว่า หากสืบสาวไปดูในลาว เวียดนาม พม่า จะพบว่าทุนไทยนั้นเป็นผู้ลงทุนสำคัญในโรงไฟฟ้าเหล่านี้ โดยเฉพาะโรงไฟฟ้าถ่านหิน ไฟฟ้ากลายเป็นธุรกิจที่แสวงหากำไร จึงเกิดยุทธการอาเซียน เพาเวอร์ กริด เริ่มต้นจากการเอาไฟฟ้าจากลาวไปขายมาเลเซีย โดยผ่านสายส่งในประเทศไทย สายส่งมีเพียงพอสำหรับกลุ่มทุน แต่มันไม่สามารถมีได้สำหรับพลังงานหมุนเวียนของประชาชนโดยทั่วไป ไฟฟ้ามันกลายเป็นธุรกิจแสวงหากำไรสูงสุดไปแล้ว ไม่ใช่การสร้างสาธารณูปโภคพื้นฐานสำหรับประชาชน ธุรกิจเหมืองถ่านหินและโรงไฟฟ้าถ่านหินมีไว้ตอบสนองการแสวงหากำไรสูงสุดในธุรกิจไฟฟ้า ความตายของสิ่งแวดล้อมและชีวิตมนุษย์ไม่อยู่ในสมองของกลุ่มทุนเหล่านี้

 

ที่มา มติชนออนไลน์