เรื่องยังไม่จบ โนติสเรียกค่าเสียหาย 102 ล้านบาท รายย่อย เหตุใช้ชื่อร้าน ‘ปังชา’

เรื่องยังไม่จบ โนติสเรียกค่าเสียหาย 102 ล้านบาท รายย่อย เหตุใช้ชื่อร้าน ‘ปังชา’

ในที่สุด ร้านอาหารลูกไก่ทอง และร้านปังชา ก็ออกประกาศชี้แจงแล้ว กรณีที่ก่อนหน้านี้แบรนด์ จดทะเบียนเครื่องหมายการค้า (Trademark) ชื่อเมนู “ปังชา” ทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ พร้อมอ้างอิงพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) คุ้มครองเครื่องหมายการค้า พ.ศ. 2534 และเน้นย้ำว่า ร้านสงวนสิทธิห้ามลอกเลียนแบบ ทำซ้ำ ดัดแปลง แก้ไข รวมทั้งห้ามนำชื่อแบรนด์ทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษไปใช้เป็นชื่อร้าน หรือใช้เป็นชื่อสินค้าเพื่อจำหน่าย พร้อมกันนี้ยังแนบรายละเอียดกฎหมายโดยอ้างอิงข้อมูลจากกระทรวงยุติธรรมนั้น เป็นการสื่อสารและทำให้เกิดความเข้าใจคลาดเคลื่อน

ทำให้ กรมทรัพย์สินทางปัญญา ออกมาให้ความรู้ต่อประเด็นดังกล่าว สามารถสรุปได้ว่า “น้ำแข็งไสราดชาไทย” มีขายมานานแล้ว จึงไม่มีใครสามารถจดสิทธิบัตรและอนุสิทธิบัตรแล้วอ้างเป็นสิทธิแต่เพียงผู้เดียวในเมนูนี้ได้

ทว่า “ภาชนะ” ที่ใช้ใส่ “ปังชา” ของแบรนด์ที่เป็นข่าวจดสิทธิบัตรการออกแบบผลิตภัณฑ์ไว้ ดังนั้น เมนูน้ำแข็งไสราดชาไทยใครก็ขายได้ แต่อย่านำลวดลาย หรือแบบภาชนะที่คนอื่นจดสิทธิบัตรการออกแบบผลิตภัณฑ์ไว้ไปผลิตซ้ำ

อย่างไรก็ดี ร้านอาหารลูกไก่ทอง และร้านปังชา ชี้แจงบางช่วงบางตอนว่า ขออภัยที่มีการสื่อสารและทำให้เกิดความเข้าใจที่คลาดเคลื่อน ทางร้าน ขอน้อมรับทุกคำติชม คำแนะนำ และจะปรับปรุง พัฒนา ทั้งในการสื่อสาร การบริการ สินค้า ต่อไป ขอขอบคุณกรมทรัพย์สินทางปัญญาที่ได้ให้ข้อมูลและหาแนวทางร่วมกันในการชี้แจงเพื่อให้ความรู้ความเข้าใจทางแบรนด์เป็นอย่างดีที่สุด

ประเด็นนี้ไม่จบลงง่ายๆ เมื่อโลกโซเชียลแชร์โนติส เรียกค่าเสียหายจากการละเมิดชื่อทางการค้าของ “ปังชา” หรือ “Pang Cha” เป็นเงิน 102,000,000 บาท หรือ หนึ่งร้อยสองล้านบาทถ้วน

เพจเฟซบุ๊กผู้ประกาศข่าวดัง “หมายจับกับบรรจง” เปิดเผยว่า โดนทนายส่งโนติส เรียก 102 ล้านบาท!

มีน้องคนหนึ่งชื่อ “นิว” เปิดร้านขายขนมปังปิ้ง-ชา เครื่องดื่ม อยู่ที่เชียงราย ปัจจุบันมี 2 ร้าน

ร้านแรกอยู่ในฟู้ดคอร์ท ในห้างเซ็นทรัลเชียงราย ก็ร้านเล็กๆ

ร้านสองอยู่ในตัวเมืองเชียงราย ร้านริมถนน มีประมาณ 30 โต๊ะ

เปิดมาตั้งแต่ปี 2564 ใช้ชื่อร้านที่มีคำว่า “ปังชา”

ล่าสุด มีบริษัทในกรุงเทพฯ ที่เพิ่งไปจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าเมื่อประมาณ 2-3 เดือนก่อน ให้ทนายความส่งโนติสมาเรียกค่าเสียหาย 102 ล้านบาท ถ้าไม่จ่ายมีบวกค่าปรับอีกวันละ 1 หมื่นบาท ต่อ 1 ร้าน

น้องบอกว่า โลโก้ร้านผมก็ไม่เหมือนกับของบริษัทดังกล่าว และไม่มีเจตนาที่จะไปลอกเลียนแบบใดๆ

นอกจากร้านของ “นิว” แล้ว เห็นว่ามีร้านคนอื่นๆ อีกที่โดนโนติสส่งไปเรียกค่าเสียหาย เพราะมีชื่อร้านคำว่า “ปังชา”

ตอนนี้เครียดเลย บอกว่าไปปรึกษาเจ้าหน้าที่กรมทรัพย์สินฯ ก็ให้ข้อมูลไม่ตรงกัน เลยอยากให้คนที่รู้กฎหมายแม่นๆ แนะนำหน่อย

ถ้าต้องจ่ายเป็นร้อยล้านขนาดนี้

ผมจะเอาเงินที่ไหนไปจ่ายให้เขา…? น้องนิวทิ้งท้าย…

ก่อนที่เพจหมายจับกับบรรจง ระบุเพิ่มเติมว่า “อันนี้ยังไม่ได้ถึงขั้นยื่นฟ้องนะครับ แต่ให้ทนายความส่งหนังสือบอกกล่าว (โนติส)”

ขณะที่โนติสระบุ “การบรรเทาความเสียหายที่บริษัทอาจได้รับ” ขอให้ดำเนินการดังนี้

1. ลงประกาศโฆษณาคำขอโทษที่ นำชื่อ “ปังชา” ไปใช้ในทางการค้าโดยไม่ได้รับอนุญาต ผ่านสื่อหนังสือพิมพ์ รวมทั้งสื่อออนไลน์ทุกช่องทางที่ท่านได้ลงโฆษณาเกี่ยวกับทั้ง 2 ร้านดังกล่าว ขอให้ท่านจัดทำร่างคำขอโทษส่งกลับมาเพื่อขออนุมัติก่อนลงโฆษณา พร้อมติดแท็กในคำประกาศขอโทษในทุกสื่อออนไลน์

2. มีหนังสือแสดงคำขอโทษในการกระทำละเมิดดังกล่าว รวมถึงข้อความยินยอมให้บริษัทนำหนังสือดังกล่าวไปเปิดเผยต่อได้

ทั้งนี้ กรมทรัพย์สินทางปัญญา ยังกล่าวว่า การใช้คำว่า ‘ปัง ชา’ หรือ ‘ปังชา’ ใช้ได้ แต่ต้องไม่มีความเหมือนในเรื่องของการออกแบบฟอนต์ โลโก้ โทนสี ที่สะท้อนไปถึงแบรนด์ดังกล่าว และเรื่องนี้อาจจะต้องติดตามกันต่อไปว่าจะจบลงอย่างไร