มังคุดไทย ไปได้ดี ตลาดจีนถึงโลละ 70 บาท เร่งแผนพัฒนา มังคุดพรีเมียม

มังคุดไทยไปได้ดี ตลาดจีนถึงโลละ 70 บาท เร่งแผนพัฒนามังคุดพรีเมียม

วันที่ 25 สิงหาคม 2566 ที่ผ่านมา ร.ต.อรุณ บุญวงศ์ ประธานกลุ่มมังคุดบ้านน้ำดำ (ชะอวดโมเดล) อ.ชะอวด จ.นครศรีธรรมราช เปิดเผยว่า ตอนนี้ราคามังคุดเริ่มปรับตัวดีขึ้นจากช่วงก่อนหน้าราคาลดต่ำลง เพราะมีผู้ประกอบการ (ล้ง) มาประมูลกันมากขึ้น 80-85% โดยกลุ่มมังคุดบ้านน้ำดำมีผู้ประมูลวันละ 6-7 ราย ล่าสุดราคาประมูลเกรดผิวมันรวมหรือเกรดส่งออกอยู่ที่ กก.ละ 57 บาท ผิวดำ 15-17 บาท

ซึ่งราคามังคุดที่ผ่านการประมูลปรับราคาดีขึ้น และล้งจะช่วยซื้อเกรดที่ตกไซซ์ผิวดำที่มีปริมาณมาก ส่งตลาดภายในประเทศ คาดว่าไม่เกินสิ้นเดือนสิงหาคม ปริมาณมังคุดใกล้หมดรุ่น ราคาจะดีขึ้นเรื่อยๆ อาจจะถึง 60-70 บาท เพราะตลาดจีนไปได้ดี

ซึ่งราคาประมูลเป็นราคาของผู้ส่งออก สูงกว่าแผงรับซื้อข้างทางและ กก.ละ 25-30 บาท ที่ชาวสวนขายแบบเทรวมไม่คัดเกรดจะแยกเฉพาะปัดดอก ปัดดำ (ผิวสีดำไม่สวย) การยื่นประมูลแม้มีรายเดียวราคาต้องสูงกว่าราคาตลาด 10% ป้องกันพ่อค้าฮั้วกัน หรือกดราคา มีบางรายยื่นราคาต่ำมาก

“ราคาจะผันผวน 2 ช่วงทุกๆ ปี คือ ช่วงต้นฤดู ปริมาณมังคุดไม่มาก และล้งยังเปิดรับซื้อน้อย ราคาจะสูงระยะสั้นๆ เมื่อผลผลิตเริ่มมาก ล้งยังเปิดรับซื้อน้อย แทบไม่มีการแข่งขัน ราคาจะลดลงอย่างรวดเร็ว ล้งจะอ้างว่าของยังมีน้อยปริมาณไม่พอเปิดล้ง และคุณภาพไม่ดี ชาวสวนบางรายหยุดเก็บเพราะราคาต่ำไม่คุ้มทุน และเมื่อปริมาณมากขึ้น ล้งเริ่มเปิดราคาจะขยับขึ้นช่วงสั้นๆ ต่อมาราคาจะลดลง โดยอ้างกลไกตลาด”

สำหรับตลาดจีนล้งมีความต้องการเบอร์ 1-3 ยังขายได้ราคา แต่เบอร์ตกไซซ์ที่มีปริมาณมากตลาดอยู่ภายในประเทศราคาถูกมาก การที่หน่วยงานภาครัฐช่วยพยุงราคา จะช่วยดันราคาตลาดให้สูงขึ้น แต่ต้องวางแผนแก้ปัญหาล่วงหน้าและช่วยให้ตลอดจนจบฤดูกาล ไม่ใช่เกิดปัญหาแล้วแก้ไขช่วงสั้นๆ 2-3 วัน การพยุงราคาทำได้เพราะผู้ประกอบการรู้ราคาปลายทาง และช่วงที่ราคาผันผวน ตกต่ำจะรวดเร็วมาก

โดยปลายเดือนสิงหาคมนี้ มังคุดภาคใต้จะมีปริมาณมากเฉพาะนครศรีธรรมราช 30,000 ตัน ชุมพร 10,000 ตัน และมีมังคุดที่คาดการณ์ไว้ตั้งแต่ จ.นราธิวาส-นครศรีธรรมราช จะสุกกลางเดือนกันยายน ออกมาด้วยปริมาณมาก จากสภาพอากาศร้อนจัด ล้งทางภาคใต้ตอนล่างมี 1-2 แห่งจะส่งมาแพ็กที่นครศรีธรรมราชและชุมพร

ทั้งนี้ หน่วยงานเกี่ยวข้องกับการส่งออก การปิด-เปิดตู้ การปล่อยตู้ ได้เตรียมอำนวยความสะดวกการส่งออกเพื่อระบายผลผลิตให้ได้มากที่สุด

“อย่างไรก็ตาม ตลาดจีนยังไปได้ดี ราคาประมูลเป็นราคาที่ค่อนข้างสูงแม้ในช่วงวิกฤตเพราะเป็นราคาของผู้ส่งออก ทางออกแก้ปัญหาราคาตกต่ำ เกษตรกรต้องรวมตัวกันขายแบบประมูล” ร.ต.อรุณ กล่าว

แผนพัฒนามังคุดพรีเมียม

นายชวิศร์ สวัสดิสาร ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรนครศรีธรรมราช (ศวพ.) เปิดเผยว่า มังคุดภาคใต้เริ่มปรับตัวสูงขึ้นเรื่อยๆ ด้วยปัจจัย 2-3 ข้อ คือ 1) ตลาดจีนมีความต้องการสูง ล้งเปิดรับซื้อมากขึ้น 70-80% และการส่งและกระจายสินค้าไปตลาดจีนเพิ่มขึ้น 2) ใบ GAP ของ จ.นครศรีธรรมราชมี 100% เพียงพอกับการส่งออก 3) การรวมกลุ่มของเกษตรกรขายแบบประมูลได้ราคาสูง เป็นมังคุดคุณภาพ มีการคัดเกรด

“ช่วงเดียวกันนี้มีมังคุดอินโดนีเซียรุ่นแรกที่ลูกใหญ่ ผิวสวย เข้ามาแข่งขันในตลาดจีน ซึ่งมังคุดไทยปลายฤดูกาลจะลูกเล็กกว่า ขณะนี้ผลผลิตมังคุดออกไปแล้ว 70% จากนครศรีธรรมราช 13,000 ตัน ชุมพร 10,000 ตัน คาดว่าเหลืออีก 4,000-5,000 ตัน และมังคุดภาคใต้ตอนล่างใน 3 จังหวัด (ยะลา ปัตตานี นราธิวาส) สงขลา และจังหวัดอื่นๆ เริ่มทยอยออก 10% ส่งมาปิดตู้ให้ล้งที่นครศรีธรรมราช ชุมพร เพราะภาคใต้ตอนล่างมีล้งเพียง 2 แห่ง ที่ยะลา นราธิวาส

ปี 2566-2567 ศวพ. วางแผนพัฒนามังคุดภาคใต้เป็นมังคุดคุณภาพ (พรีเมียม) เพื่อการแข่งขันในตลาดต่างประเทศ จากปี 2565 มีมังคุดพรีเมียม 40% ตั้งเป้าปี 2566 เพิ่ม 60% และปี 2567 เพิ่ม 80% ส่วน 20% เป้าหมายตลาดผู้บริโภคภายในประเทศ และการแปรรูป โดย จ.นครศรีธรรมราชเป็นจังหวัดนำร่อง” ผอ.ศวพ. กล่าว

ข้อมูลศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรนครศรีธรรมราช : สถานการณ์มังคุด ปี 2566 ภาคใต้ตอนบนผลผลิตมังคุดในฤดูและนอกฤดูกาลทั้งหมด 118,073 ตัน เพิ่มขึ้น 367.86% มากที่สุด จ.ชุมพร 53,670 ตัน จ.นครศรีธรรมราช 41,283 ตัน คาดการณ์ผลผลิตเดือนสิงหาคม ประมาณ 21,208 ตัน มากสุดที่ จ.นครศรีธรรมราช 13,412 ตัน เดือนกันยายน ประมาณ 21,818 ตัน มากสุดที่ จ.นครศรีธรรมราช 5,281 ตัน

เดือนตุลาคม ประมาณ 735 ตัน การส่งออก 1 ม.ค .- 23 ส.ค. 66 มีการส่งออกมังคุด 2,573 ตู้/ชิปเมนต์ประมาณ 51,400 ตัน โดยส่งออกจากด่านเชียงของมากที่สุด จำนวน 1,792 ตู้/ชิปเมนต์ ประมาณ 35,800 ตัน รองลงมาด่านนครพนม จำนวน 381 ตู้/ชิปเมนต์ ประมาณ 7,610 ตัน

ขอบคุณข้อมูล ประชาชาติธุรกิจ