ชู วัฒนธรรม สมุนไพร ขมเป็นยา พาเที่ยวไทย ส่งเม็ดเงินสู่ชุมชน

ชู วัฒนธรรม สมุนไพร ขมเป็นยา พาเที่ยวไทย ส่งเม็ดเงินสู่ชุมชน
ชู วัฒนธรรม สมุนไพร ขมเป็นยา พาเที่ยวไทย ส่งเม็ดเงินสู่ชุมชน

ชู วัฒนธรรม สมุนไพร ขมเป็นยา พาเที่ยวไทย ส่งเม็ดเงินสู่ชุมชน

มูลนิธิโรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร ร่วมจัดงาน “เทศกาลเที่ยวเมืองไทย ปี 2566” จัดโดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ระหว่างวันที่ 2-6 ส.ค. 66 ณ ฮอลล์ 5-8 ชั้น LG ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ โดยภายในงาน อภัยภูเบศรจัดเต็มบูธสมุนไพร นำเสนอการท่องเที่ยวให้ทุกการเดินทางปลอดภัย ด้วยสมุนไพรฟ้าทะลายโจร และสมุนไพรจำเป็นที่ต้องพกติดตัวในยามฉุกเฉิน เช่น รางจืด มัสคูลสเปรย์ ยาทาแผลฆ่าเชื้อ เปลือกมังคุด เป็นต้น

ดร.ภญ.สุภาภรณ์ ปิติพร ประธานกรรมการบริหารฝ่ายพัฒนาภูมิปัญญาไทย เปิดเผยว่า สมุนไพรเป็นวัฒนธรรมแห่งชีวิต ที่ต้องการการธำรงรักษาและพัฒนาไม่หยุดนิ่ง ฟ้าทะลายโจร เป็นสมุนไพรจำเป็นชนิดหนึ่งดังที่ได้เห็นในช่วงการระบาดของโควิด-19 และขณะนี้ก็ยังอยู่ในฐานะโรคประจำถิ่นเช่นเดียวกับไข้หวัดใหญ่ ซึ่งฟ้าทะลายโจร ชนิดรับประทานนั้นจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องพกติดตัว มีติดบ้าน หรือจะปลูกไว้ใช้การได้ทันที

ดร.ภญ.สุภาภรณ์ ปิติพร ประธานกรรมการบริหารฝ่ายพัฒนาภูมิปัญญาไทย

นอกจากนี้ การเดินทางอาจมีปัญหาคอแห้ง เจ็บคอ มีแผลในปาก มีกลิ่นปาก สามารถบรรเทาอาหารเหล่านี้ได้ด้วยการใช้สเปรย์พ่นคอฟ้าทะลายโจร ทางอภัยภูเบศรพัฒนาขึ้นในชื่อ อภัยเม้าท์สเปรย์ ซึ่งมีการศึกษาทางคลินิกพบว่า ดีกว่าสเปรย์สมุนไพรพ่นคอจากต่างประเทศด้วยฤทธิ์ลดการอักเสบที่โดดเด่นของฟ้าทะลายโจร

ดร.ภญ.สุภาภรณ์ กล่าวอีกว่า ฟ้าทะลายโจร ยังมีฤทธิ์ป้องกันยุงกัด มีความอ่อนโยน ปลอดภัย ใช้ได้ทั้งคนและสัตว์เลี้ยง พ่นทิ้งไว้ที่ผิวได้ กันยุงได้ถึง 2.7 ชั่วโมง โดยอภัยภูเบศรได้ออกผลิตภัณฑ์ฟ้าทะลายยุง เป็นอีกหนึ่งผลิตภัณฑ์แห่งความภูมิใจของอภัยภูเบศร ขณะเดียวกัน ฟ้าทะลายโจรยังมีประโยชน์ต่อผิว ต้านการอักเสบช่วยลดปัญหาผิวหนังต่างๆ เช่น บวม แดง คัน แห้งเป็นขุย

นอกจากฤทธิ์ต้านการอักเสบแล้ว ความขมของฟ้าทะลายโจร ยังช่วยทำให้การทำงานของเซลล์ต่างๆ ซึ่งเป็นกลไกปกป้องผิวหนังทำงานได้ดีขึ้นจากการที่ผิวหนังของคนเรามี Receptor หรือตัวรับความขมอยู่ ฟ้าทะลายโจรยังช่วยคืนความหนุ่มสาวให้ผิวหนัง ชะลอความชราและทำให้เซลล์ชั้นนอกของผิวหนังเกาะเกี่ยวกันได้ดีขึ้น ผิวหนังแข็งแรงขึ้นช่วยป้องกันเชื้อโรคและสารพิษได้ดีขึ้น ทางเราจึงพัฒนาสบู่เหลวและสบู่ก้อนจากฟ้าทะลายโจรสูตรอ่อนโยนขึ้นในชื่อ “อภัย เฮิร์บการ์ด”

ผลิตภัณฑ์สมุนไพรไทย

“ความว้าว ของฟ้าทะลายโจรอีกอย่างคือ การนำมาทำเป็นเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพได้คือ ฟ้าอภัยโทนิค ซึ่งคล้ายๆ กับการบำรุงร่างกายของตะวันตกกลุ่ม Bitter Tonic  เช่น Gin Tonic สมัยโบราณมีการใช้ควินินเป็นสารขมแต่ต่อมาใช้สารขมชนิดอื่น ในสังคมไทยมีวัฒนธรรมการเติมสารขมในอาหาร เช่น ใช้ดีสัตว์ ขี้เพี้ย เปลือกไม้ ใบไม้เช่นใบฟ้าทะลายโจร ใส่ในอาหารเพื่อเพิ่มรสชาติ บำรุงน้ำดี ช่วยย่อย ลดความร้อนในร่างกาย”

“ในงานนี้ท่านสามารถมาชิม ฟ้าอภัยโทนิค พร้อมแจกสูตรให้ไปทำเองหรือเพื่อจำหน่ายด้วยก็ได้ สำหรับท่านที่ต้องการเมล็ดฟ้าทะลายโจรกลับไปปลูก สามารถรับได้ที่งานนี้เช่นกัน” ดร.ภญ.สุภาภรณ์ กล่าว

นอกจาก ฟ้าทะลายโจร แล้ว อภัยภูเบศร ได้เตรียมผลิตภัณฑ์สมุนไพรจำเป็นที่มีไว้ในการเดินทางหรือเป็นของฝากในราคาพิเศษ เช่น มัสคูลสเปรย์ จากสารสกัดสมุนไพรกระดูกไก่ดำ เพื่อบรรเทาอาการปวดและอักเสบเฉียบพลัน จากการลื่น หกล้ม กระแทก ช้ำบวม การ์ซิดีน ยาทาแผลฆ่าเชื้อและทำให้แผลหายเร็วจากเปลือกมังคุด

แคปซูลรางจืด ชารางจืด แก้แพ้ ลดปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือด สเปรย์รางจืด แก้แพ้ทางผิวหนัง ลดอาการผิวหนังอักเสบหลังการสัมผัสแดด ยาหม่อง ยาดม ยาอมมะขามป้อมฯ และผลิตภัณฑ์ใหม่บำรุงผิวหน้าจาก CBD ที่เราปลูกและสกัดเอง

สนใจ

ดร.ภญ.สุภาภรณ์ ทิ้งท้ายว่า การท่องเที่ยว ทำให้สังคมไทยแข็งแรง เม็ดเงินลงสู่ชุมชน และธำรงศิลปวัฒนธรรมของชาติ สำหรับ อภัยภูเบศร แล้ว มีแหล่งวัตถุดิบสมุนไพรเกษตรอินทรีย์จากเครือข่ายชาวบ้าน เช่น สหกรณ์เกษตรอินทรีย์จังหวัดปราจีนบุรี กลุ่มทับทิมสยามจังหวัดสระแก้ว นอกจากสมุนไพรแล้วยังมีกิจกรรมสุดพิเศษ กับบูธอภัยภูเบศร ตรวจธาตุเจ้าเรือนเฉพาะบุคคล จากแพทย์แผนไทย

รับฟรี เมล็ดพันธุ์ฟ้าทะลายโจร ชิมฟรี เครื่องดื่มฟ้าอภัยโทนิค ผลิตภัณฑ์สมุนไพรคุณภาพราคาพิเศษ มาสุขกาย สุขใจ ได้ช่วยเหลือสังคมและสิ่งแวดล้อมไปด้วยกัน พบกันได้ที่ บูธ “สมุนไพรอภัยภูเบศร” ตั้งอยู่ภายในสถาปัตยกรรมจำลองตึกเจ้าพระยาอภัยภูเบศร ปราจีนบุรี เป็น Landmark ที่สง่างาม ตั้งอยู่ Zon 2 ภาคตะวันออก อยู่ด้านหน้า ระหว่างประตู 5 และ 6 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ กรุงเทพฯ