ฟ้าทะลายโจร คือ อาวุธของประชาชน รับมือโรคอุบัติใหม่ นักวิชาการ ยืนยัน

ฟ้าทะลายโจร คือ อาวุธของประชาชน รับมือโรคอุบัติใหม่ นักวิชาการ ยืนยัน 

จากกรณี สถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข (สวรส.) เปิดผลวิจัย ‘กรณีศึกษาชุดโครงการประสิทธิศักย์และความปลอดภัยของการใช้ฟ้าทะลายโจรในผู้ป่วยโควิด-19 ที่ไม่มีอาการหรือมีอาการน้อย’ โดยศึกษากลุ่มตัวอย่างในจังหวัดสระบุรีและปราจีนบุรี พบยาฟ้าทะลายโจร ไม่สามารถลดอัตราการเกิดปอดอักเสบหรือลดอาการและลดปริมาณเชื้อไวรัสได้ เมื่อเทียบกับยาหลอก นั้น

เมื่อเร็วๆ นี้ กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กระทรวงสาธารณสุข จึงจัดเวทีประชุมวิชาการ “สมุนไพรฟ้าทะลายโจรกับการรักษาโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019” มีผู้เชี่ยวชาญจากหน่วยงานต่างๆ เข้าร่วมกันอย่างคึกคัก

โดย นพ.ธนะวัฒน์ วงศ์ผัน นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดตราด กล่าวว่า ช่วงที่ตนดำรงตำแหน่ง รองนพ.สสจ.สระบุรี ได้ร่วมเป็นผู้วิจัยในโครงการวิจัยที่ได้รับการสนับสนุนจาก สวรส. โดยยืนยันว่า การศึกษาดังกล่าว อยู่ภายใต้กระบวนการวิจัยทางคลินิกที่เป็นตามมาตรฐานสากล มีการเลือกผู้ป่วยเข้าโครงการวิจัย โดย จ.สระบุรี มีผู้ป่วยที่เข้าร่วมโครงการ 396 คน จ.ปราจีนบุรี 271 คน

มีวิธีการเก็บข้อมูลเหมือนกัน แต่มีการใช้รูปแบบยาที่ต่างกัน โดย จ.สระบุรี ใช้สารสกัดฟ้าทะลายโจร ส่วน จ.ปราจีนบุรี ใช้ยาแคปซูลผงบดฟ้าทะลายโจร ที่มีปริมาณแอนโดรกราโฟไลด์ 180 มิลลิกรัม/วัน เป็นเวลา 5 วัน ส่งผลให้เกิดค่าเอนไซม์ตับสูงขึ้น จึงได้หยุดเก็บข้อมูลพร้อมเสนอให้มีคำเตือนในกรณีที่ใช้ยาฟ้าทะลายโจรควบคู่กับยาชนิดอื่นอาจส่งผลให้เอนไซม์ตับสูงขึ้นได้ ซึ่งยังจำเป็นต้องมีการศึกษาเพิ่มเติมทั้งความปลอดภัยและประโยชน์ เพื่อให้เกิดการใช้ที่เหมาะสมต่อไป

ด้าน ดร.ภญ.ผกากรอง ขวัญข้าว ผู้ช่วยผู้อำนวยการด้านการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร กล่าวว่า รพ.เจ้าพระยาอภัยภูเบศร ได้เก็บข้อมูลผู้ป่วยโควิดอายุ 30-31 ปี ที่ใช้ยาฟ้าทะลายโจรผงบดหยาบในการรักษาตั้งแต่ธันวาคม 2564 ซึ่งเป็นช่วงที่ผู้ป่วยส่วนใหญ่ได้รับวัคซีนมาแล้ว มีอาการน้อย จนถึงไม่มีอาการ ผู้ป่วยที่ได้รับยาฟ้าทะลายโจรมีความปลอดภัยสูง

เวที

และสิ่งที่มีคุณค่าสามารถนำไปสานต่อได้คือ การดูพลาสม่าในเลือดผู้ป่วย พบว่า ฟ้าทะลายโจรสามารถลดกระบวนการอักเสบในร่างกาย แม้ว่าค่าตับจะเพิ่มขึ้นในช่วงการให้ยา ซึ่งพบทั้งในกลุ่มที่ได้ฟ้าทะลายโจรและยาหลอก แต่พอหยุดยาค่าตับก็กลับมาเป็นปกติ ที่บอกว่าตับพังไม่จริง ในทางคลินิกเราต้องดูบริบทอื่นด้วย เช่น ยาที่ผู้ป่วยได้รับ เพราะในการศึกษาเราก็ให้ยาอื่นๆ เพื่อบรรเทาอาการของผู้ป่วยด้วย

นอกจากนี้ จากการศึกษาเพิ่มเติมโดยเภสัชกร มหาวิทยาลัยมหิดล โดยใช้เทคนิคโปรติโอมิกส์ พบว่า สามารถลดการเกิดลิ่มเลือดได้ด้วย จากบทเรียนที่ผ่านมา จึงอยากนำเสนอว่า งานวิจัยของประเทศไทยต่อไปต้องเร่งสปีดมากขึ้นเนื่องจากสายพันธุ์ไวรัสเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว

ส่วน ดร.ภญ.วิวรรณ วรกุลพาณิชย์ เภสัชกรชำนาญการ กองสมุนไพรเพื่อเศรษฐกิจ กรมการแพทย์แผนไทยฯ กล่าวว่า จากการทบทวนวรรณกรรมอย่างเป็นระบบทั้งในและต่างประเทศ พบว่า ผู้ที่ใช้ฟ้าทะลายโจรมีความปลอดภัยสูง และไม่มีรายงานที่ร้ายแรงเลย อันตรายที่อาจพบได้จากการใช้ฟ้าทะลายโจรที่ผู้ป่วยต้องสังเกต คือ การแพ้ ที่มีรายงานอยู่บ้าง

ดังนั้น ในผู้ป่วยที่มีประวัติการแพ้ จากข้อมูลที่รวบรวมมาจากงานวิจัย 10 ชิ้น และฐานข้อมูล 3 ฐาน พบว่า อัตราการเกิดอาการไม่พึงประสงค์ที่รุนแรง 100,000 คน พบได้ 2 ราย ซึ่งถือว่าน้อยมากเมื่อเปรียบเทียบกับยาต้านไวรัสแผนปัจจุบันที่เราใช้กันอยู่

รศ.ดร.จุฑามาศ สัตยวิวัฒน์ รองประธานสถาบันวิจัยจุฬาภรณ์ ฝ่ายธุรการวิทยาศาสตร์ กล่าวว่า สถาบันวิจัยจุฬาภรณ์ ได้ทำการศึกษาสมุนไพรฟ้าทะลายโจรในทุกแง่มุม ในการใช้ต่อผู้ป่วยทั้งผงบด และสารสกัด มีงานวิจัยถึง 15 ฉบับ รวมถึงได้ศึกษางานวิจัยจากทั่วโลกอีกนับพันฉบับ ในช่วง 15 ปีที่ผ่านมา ไม่พบว่าฟ้าทะลายโจรมีพิษต่อตับ จะมีเพียงในสแกนดิเนเวียน ที่เตือนให้ระวัง

แต่เมื่อพิจารณาจากข้อมูลอย่างเป็นระบบ พบว่า ประโยชน์มากกว่าโทษแน่นอน เรามีของดีอยู่แล้ว ถ้าใช้เป็นจะเป็นประโยชน์ อยากฝากไว้ว่า งานวิจัยก็ตอบแค่คำถามวิจัย แต่การนำมาใช้จริงต้องนึกถึงหลายปัจจัย เช่น ในกรณีผู้ป่วยที่ติดเชื้อโควิด ที่เขาไม่มีเงิน ฟ้าทะลายโจร ซึ่งเป็นยาที่เข้าถึงได้ง่ายราคาถูกและได้ผล ยาที่กินเข้าไป รู้กันอยู่แล้วว่ามีผลต่อร่างกายทั้งบวกและลบ แต่ถ้าประโยชน์มากกว่า ใช้อย่างเหมาะสม ก็ไม่ต้องกังวล และต้องมีการศึกษายาที่ใช้ควบคู่กับฟ้าทะลายโจรด้วย ว่าส่งผลต่อค่าตับด้วยไหมและสื่อสารทั้ง 2 ด้าน

ดร.ภญ.สุภาภรณ์ ปิติพร ประธานกรรมการบริหารฝ่ายพัฒนาภูมิปัญญาไทย มูลนิธิรพ.เจ้าพระยาอภัยภูเบศร

ด้าน ดร.ภญ.สุภาภรณ์ ปิติพร ประธานกรรมการบริหารฝ่ายพัฒนาภูมิปัญญาไทย มูลนิธิโรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร ได้ยกตัวอย่าง กรณีของน้ำลูกยอ หรือ โนนิ ที่เมื่อ 20 ปีที่แล้ว สมุนไพรพื้นบ้านธรรมดา สามารถสร้างมูลค่าในตลาดโลกได้ถึง ปีละ 2,300 ล้านบาท อัตราเติบโต 7.1% แต่เมื่อมีการให้สัมภาษณ์ของผู้ใหญ่ในแวดวงสาธารณสุขว่า กินยอแล้วไตวาย

โดยพูดความจริงไม่หมดว่า ผู้ป่วยที่มีการทำงานของไตไม่ดี กินน้ำลูกยอที่มีโพแทสเซียมสูงอย่าง ลูกยอ กล้วย ส้ม อาจทำให้การทำงานของไตลดลง การพูดสั้นๆ แบบนี้ ส่งผลให้ตลาดน้ำลูกยอตายสนิท ทั้งที่ปู่ย่าตายายกินกันมานับร้อยปี จึงไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์ดังกล่าวกับฟ้าทะลายโจรอีก งานวิจัยที่เผยแพร่ออกมา มีการใช้ยาฟ้าทะลายโจร กับคนไข้ที่ไม่มีอาการถึง 25% ยาจะไปช่วยลดอาการอะไร ส่วนเรื่องของตับมันมีหลายปัจจัย

“ส่วนตัวรู้สึกเจ็บปวด เพราะอยู่กับฟ้าทะลายโจรมานาน และใช้กับผู้ป่วยมาตั้งแต่ ไข้หวัดสายพันธุ์ 2009 อีโบลา ไม่ว่าจะเกิดโรคอุบัติใหม่อะไรที่เกี่ยวข้องกับไวรัส ฟ้าทะลายโจรจะถูกนำมาใช้หมด จึงได้เริ่มศึกษาวิจัย ทบทวนวรรณกรรมจากทั่วโลก และใช้ประสบการณ์ส่วนตัวที่คลุกคลีกับชาวบ้านที่ใช้มาโดยตลอด ในช่วงที่เกิดโรคอุบัติใหม่ ยังไม่มีวัคซีน ตนเองก็ได้รวบรวมข้อมูลเสนอให้โรงพยาบาลนำฟ้าทะลายโจรมาใช้”

“เมื่อเปรียบเทียบกับราคายาแผนปัจจุบัน พบว่า ต่างกันมากจริงๆ ยาสมุนไพรฟ้าทะลายโจร ราคา 80-150 บาท/คอร์สการรักษา ส่วนแผนปัจจุบันมี ฟาวิพิราเวียร์ ราคา 2,000-5,000 บาท/คอร์สการรักษา ถ้ารวบรวมข้อมูลอย่างเป็นระบบและนำมาใช้ จะช่วยลดค่าใช้จ่ายให้กับประเทศได้มากทีเดียว” ดร.ภญ.สุภาภรณ์ กล่าว

และว่า ขณะนี้กำลังศึกษาสายพันธุ์ฟ้าทะลายโจรในประเทศไทย ซึ่งพบว่ามีหลายสายพันธุ์มากและเรากำลังจะเป็นเจ้ายุทธจักรในเรื่องนี้ ที่ผ่านมามีการทำวิจัยในหลายแขนง ทั้งในเรื่องภูมิคุ้มกัน และลดปอดอักเสบจากคนไข้ในช่วงที่ไม่ได้วัคซีนที่คนไข้รอตรวจ รอเตียง รอตาย ชาวบ้านที่เข้าไม่ถึงยาก็คว้าฟ้าทะลายโจรมารักษาและก็ช่วยได้จริง เชื่อว่าวันนี้มีคนไข้จำนวนมากที่สามารถแชร์ประสบการณ์ดังกล่าวให้เราได้

จากประสบการณ์ของอภัยภูเบศร ที่สนับสนุนยาฟ้าทะลายโจรในช่วงสถานการณ์โควิด ก็ไม่มีใครเสียชีวิต  โดยส่วนตัวจึงขอสรุปว่า ฟ้าทะลายโจร เป็นอาวุธของประชาชน ในการรับมือโรคอุบัติใหม่

ตอนท้ายของการประชุมวิชาการดังกล่าว นพ.ธงชัย เลิศวิไลรัตนพงศ์ อธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยฯ แถลงว่า วันนี้ประเทศไทยไม่มีใครไม่รู้จักฟ้าทะลายโจร จึงเกิดคำถามมาที่กรมการแพทย์แผนไทยฯ เราพยายามให้ข้อมูลย้อนกลับให้เร็ว แต่เนื่องจากเป็นเรื่องงานวิจัยที่มีความซับซ้อนและแต่ละงานวิจัยมีคำถามเฉพาะ ดังนั้น จึงต้องประมวลผลงานวิจัยหลายชิ้นมาประกอบการสื่อสารให้ประชาชนเข้าใจว่า ข้อเท็จจริงที่มีอยู่วันนี้เป็นอย่างไร

อย่างไรก็ตาม ขอยืนยันว่า ฟ้าทะลายโจร ยังใช้ได้ดี ไม่เฉพาะรักษาโรคโควิด-19 เท่านั้น แต่ยังใช้ได้ในไข้หวัดใหญ่และหลายโรคที่เกี่ยวข้อง ข้อแนะนำวันนี้คือ ฟ้าทะลายโจร เป็นทางออกให้ได้ ส่วนที่ผลงานวิจัยออกมาว่าไม่ได้ผลนั้น ถ้าดูจากงานวิจัยการบอกว่าได้ผลหรือไม่ได้ผล ขึ้นกับการออกแบบงานวิจัยและระยะเวลาที่ทำงานวิจัย และบริบทการทำวิจัยขณะนั้น

บริบทงานวิจัยชิ้นนี้ที่บอกว่าไม่ได้ผล เพราะได้วัคซีนมาไม่ต่ำกว่า 2-3 เข็มแล้ว คนได้รับวัคซีนเยอะแล้ว มีผลช่วยลดความรุนแรง และมาถึงวันนี้เปิดประเทศ ดำเนินชีวิตประจำวันได้ พอเป็นอย่างนั้น การบอกว่าได้ผลหรือไม่ได้ผล โดยใช้การวัดที่เกิดปอดอักเสบอย่างเดียว น่าจะเป็นการวัดที่ไม่เพียงพอในการตอบคำถาม