ฮาวทู ขับรถลุยน้ำ อย่างไร ให้ปลอดภัยทั้งรถ ทั้งคน ในช่วง ฝนตกน้ำท่วม

ฮาวทู ขับรถลุยน้ำ อย่างไร ให้ปลอดภัยทั้งรถ ทั้งคน ในช่วง ฝนตกน้ำท่วม

เข้าสู่ช่วงหน้าฝนทีไร นอกจากเกิดฝนตกหนักแล้ว ยังเจอปัญหาจราจรติดขัด น้ำระบายไม่ทัน จนเกิดเป็นปัญหาน้ำท่วม และสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้สำหรับคนใช้รถใช้ถนนก็คือ การขับรถลุยน้ำท่วม

ซึ่งผู้ใช้รถควรระมัดระวังเป็นพิเศษ และต้องมีสติ ศึกษาเส้นทางที่จะเดินทาง ติดตามข่าวสารสภาพการจราจรล่าสุด โดยหากพบเส้นทางน้ำท่วม ต้องประเมินลักษณะของรถกับความสูงของน้ำที่ท่วม เช่น ผู้ที่ขับรถเก๋งขนาดเล็ก หากประเมินแล้วเห็นว่า น้ำที่ท่วมขัง 10 เซนติเมตร หรือระดับไม่เกินข้อเท้า ก็สามารถค่อยๆ ขับผ่านไปได้ เพราะอยู่ในระดับที่ยังท่วมไม่ถึงท้องรถและท่อไอเสีย

แต่หากระดับน้ำสูงกว่านั้น คือ สูงถึงใต้ท้องรถหรือท่วมถึงขอบประตูรถหรือท่วมถึงปลายท่อไอเสีย จะต้องใช้ความระมัดระวังในการขับมากขึ้น วิธีการที่ถูกต้องในการขับรถลุยน้ำท่วมสูง โดย คุณจิรัชญา หล่ายสอง
นักวิชาการเผยแพร่ สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค ได้รวบรวมบทความจาก กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย และ axa.co.th ดังนี้

1 . ปิดแอร์ทันที เพราะหากเปิดแอร์ไว้ พัดลมระบายความร้อนในการจับเพิ่มขึ้นของเครื่องปรับอากาศซึ่งติดตั้งอยู่ในจุดที่ต่ำ เมื่อน้ำท่วมถึงพัดลมจะตีน้ำกระจายไปทั่วห้องเครื่อง อาจเกิดไฟชอร์ตและทำให้เครื่องยนต์ดับ แถมยังมีความเสี่ยงที่ใบพัดลมจะหักอีกด้วย

2. ใช้เกียร์ต่ำ หากเป็นเกียร์ธรรมดาให้ใช้เกียร์ 1-2 เพราะรถต้องใช้แรงในการฝ่าน้ำ ควบคุมความเร็วรถให้ต่ำ ส่วนกรณีที่เป็นเกียร์อัตโนมัติ ให้รักษาความเร็วในระดับที่ต่ำไว้เท่าที่จะทำได้

3. รักษาความเร็วต่ำให้สม่ำเสมอ หรือรักษารอบเครื่องยนต์ไว้ที่ 1,500-2,000 รอบต่อนาที ไม่ขับเร็วเพราะอาจท้าให้เกิดคลื่นน้ำที่จะกระทบกับขอบทางเท้าหรือสิ่งกีดขวางอื่น แล้วย้อนกลับเข้ามาที่ตัวรถได้

นอกจากนี้ การขับตามคันหน้าในระยะที่ปลอดภัยนับเป็นเรื่องดี เพราะจะทำให้สามารถคาดการณ์ลักษณะของพื้นผิวถนนที่ใต้ผิวน้ำได้ เรียกง่ายๆ ว่าให้คันหน้าช่วยนำทางนั่นเอง อย่างไรก็ตาม กรณีที่ไม่แนะนำอย่างยิ่งส้าหรับการขับรถลุยน้ำท่วมสูงคือ หากประเมินสถานการณ์แล้วพบว่า มีโอกาสที่จะต้องหยุดหรือจอดรถแช่น้ำ หรือเส้นทางที่จะผ่านมีน้ำท่วมสูงเป็นระยะทางไกลเกินไป เป็นความเสี่ยงที่รถจะดับหรือเกิดความเสียหายได้มากขึ้น ควรเปลี่ยนเส้นทาง

หรือถ้าไม่มีเส้นทางอื่นจริงๆ ให้หาที่พักใกล้ๆ และพักรอจนกว่าน้ำจะลด นอกจากนี้ เมื่อถึงจุดหมายปลายทางแล้ว ควรตรวจสอบว่ามีน้ำรั่วเข้ามาในรถหรือไม่ โดยสังเกตพรมรองพื้นว่า มีรอยเปียกชื้นหรือไม่ หากมี ควรเอาพรมออกมาตากไว้นอกรถ เช็ดทำความสะอาดให้ทั่วถึง เพราะอาจเป็นจุดเริ่มของเชื้อราหรือสนิมที่จะส่งผลเสียต่อสุขภาพรถและคนขับอีกด้วย และในวันหยุด ควรจอดรถในที่โล่ง เปิดประตูหน้าต่างทิ้งไว้เพื่อไล่ความอับชื้น