การลงทุนมีความเสี่ยง แต่ทำไมคนยุคใหม่ ลงทุนออนไลน์ มากขึ้น?

ในอดีตหลายคนมักมอง การลงทุน เป็นเรื่องยุ่งยาก เพราะเข้าถึงข่าวสารการลงทุนที่มีไม่มากพอให้ศึกษาเหมือนในปัจจุบัน แต่ด้วยเทคโนโลยีที่พัฒนาไปอย่างรวดเร็ว ทำให้ยุคสมัยปัจจุบันกลายเป็นยุคสมัยแห่งการลงทุนออนไลน์  Digital Platform ต่างๆ สามารถเข้าถึงทุกคนได้ ทั้งยังสร้างความสะดวกสบาย มีการเสริมช่องทางการลงทุนใหม่ๆ ให้กับทุกกลุ่มคน โดยเฉพาะกลุ่มคนรุ่นใหม่มากขึ้น

Krungsri Plearn Plearn ได้เปิด 4 เหตุผลที่ทำให้คนยุคใหม่ลงทุนออนไลน์มากขึ้น มีอะไรบ้าง มาดูกัน

1. Digital Platform ตอบทุกความต้องการของทุกคน

เราจะเห็นได้ชัดว่าในทุกๆ เช้าที่เราลืมตาขึ้นมาสิ่งแรกที่เราจับคงหนีไม่พ้นสมาร์ทโฟน ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าทุกๆ การใช้ชีวิตในแต่ละวันของเราสามารถทำได้ผ่าน Digital Platform เช่น ต้องการอ่านข่าวสารก็สามารถอ่านผ่านแอปพลิเคชันต่างๆ ได้อย่างสะดวกหรือแม้แต่หากเราต้องการโอนเงินด่วนให้กับใครสักคน เราเพียงแค่เข้าแอปพลิเคชันธนาคาร ก็สามารถทำได้ทุกที่ทุกเวลา หรือแม้แต่เราอ่านข่าวสารและเจอราคาหุ้นที่ถูกใจเราก็สามารถลงทุนออนไลน์ได้ทันทีทุกที่ทุกเวลาเช่นกัน

อีกทั้งแพลตฟอร์มออนไลน์เหล่านี้ ก็ทำให้มีประโยชน์ครบทุกความต้องการของคนรุ่นใหม่ โดยเฉพาะเรื่องของค่าบริการที่คุ้มค่า เทคโนโลยีที่ช่วยวิเคราะห์เรื่องของการเงินต่างๆ อย่างแม่นยำ หรือแม้แต่การทำให้เรื่องเงินกลายเป็นเรื่องง่าย โดยเฉพาะเมื่อเวลาที่เราต้องการคำปรึกษาด้านการลงทุนออนไลน์เราก็สามารถปรึกษาเจ้าหน้าที่ได้ทุกเมื่อ และสามารถตัดสินใจลงทุนด้วยตนเอง โดยที่เราไม่ต้องไปธนาคารให้ยุ่งยากเลย

2. มีตัวเลือกการลงทุนมากมายบนหลายแพลตฟอร์ม

กลุ่มคนรุ่นใหม่ชอบกระจายความเสี่ยงการลงทุน ซึ่งดิจิทัลแพลตฟอร์มสามารถช่วยในเรื่องนี้ได้เป็นอย่างมาก เพราะถ้าหากเราอยากฝากเงินในบัญชีไว้สำหรับออมเงินเราก็สามารถเข้าแอปพลิเคชันเพื่อเช็กยอดดอกเบี้ยที่ได้รับง่ายๆ หรือแม้แต่การลงทุนออนไลน์กับหุ้นหรือกองทุนรวมที่เราสามารถเลือกลงทุนได้ตามที่เราต้องการ จะช่วงเวลาใด เงินลงทุนเท่าไหร่ก็ได้ (บางกองทุนมีขั้นต่ำ) ซึ่งดิจิทัลแพลตฟอร์มเหล่านี้ปรับเปลี่ยนรูปแบบการลงทุนออนไลน์ให้ตอบโจทย์ในสิ่งที่คนรุ่นใหม่ต้องการ และที่สำคัญที่สุด เราสามารถเช็กผลตอบแทนจากการลงทุนต่างๆ ของเราได้ง่ายนั่นเอง

3. คนรุ่นใหม่ชอบลงทุนไปกับข่าวสาร

แน่นอนว่าเมื่อเข้าดิจิทัลแพลตฟอร์มโซเชียลต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น Facebook, Twitter เราจะพบเห็นถึงข่าวสารที่ค่อนข้างไว ทำให้กลุ่มคนรุ่นใหม่สามารถตัดสินใจเลือกลงทุนได้ง่ายขึ้นไปอีก เช่น หากมีข่าวบริษัทเทคโนโลยีชื่อดัง ใช้วัสดุรีไซเคิลมาพัฒนาสมาร์ทโฟน กลุ่มคนรุ่นใหม่ก็จะมองเห็นแล้วว่ามันเจ๋ง และเติบโตแน่ๆ จึงทำให้ตัดสินใจเลือกลงทุนในธุรกิจเหล่านั้นได้ง่าย จึงไม่ใช่เรื่องแปลกเลยที่กลุ่มคนรุ่นใหม่ชอบลงทุนไปกับข่าวสาร

4. คนรุ่นใหม่ลงทุนเข้ากับไลฟ์สไตล์ตัวเอง

เราทุกคนมีไลฟ์สไตล์ ความเสี่ยงที่รับได้ต่างกัน สิ่งที่เราจะนำไปลงทุนได้ก็คงหนีไม่พ้นเรื่องของ “เงิน” คนเรามีเงินลงทุนที่ไม่เท่ากันออกไปอีก ยกตัวอย่างเช่น คนที่มีไลฟ์สไตล์ชอบเที่ยวแต่รับความเสี่ยงได้น้อยอาจเลือกลงทุนไปกับประกันสะสมทรัพย์ซึ่งก็ยังคงมีการซื้อผ่านแพลตฟอร์มดิจิทัลได้นั่นเอง หรือกลุ่มคนที่ติดบ้านเฝ้าข่าวสารทั้งวัน ชอบในความเสี่ยงก็เลือกลงทุนออนไลน์ในหุ้น หรือกองทุนต่างๆ แต่ไม่ว่าจะไลฟ์สไตล์ไหนๆ ก็มีดิจิทัลแพลตฟอร์มเป็นตัวกลางในการลงทุนอยู่ดี