เกษตรกรไทย จะไม่จน เอสเอ็มอี คงเฟื่องฟู ถ้า 3 กระทรวง ร่วมมือกันทำงานจริงจัง

เกษตรกรไทย จะไม่จน เอสเอ็มอี คงเฟื่องฟู ถ้า 3 กระทรวง ร่วมมือกันทำงานจริงจัง

คุณวรวุฒิ อุ่นใจ รองหัวหน้าพรรคกล้า หัวหน้าทีมเศรษฐกิจเพื่อคนตัวเล็ก กล่าวว่า ประเทศไทยมีโอกาสหลายอย่างที่จะสร้างรายได้จากเศรษฐกิจสร้างสรรค์ ซึ่งอาหาร คือ หนึ่งในโอกาสสำคัญ และเคยมีการตั้งเป้าหมายกันว่า ไทยจะเป็นครัวโลก ซึ่งโดยศักยภาพและความเป็นประเทศเกษตรกรรมแล้ว ไปถึงเป้าหมายได้ไม่ยาก แต่ปัญหาคือ กระทรวงต่างๆ ในประเทศไทยนั้น แตกแยกย่อยและไม่ร่วมมือกันมากเกินไป

ทั้งที่ไทยเป็นประเทศเกษตรกรรม มีประชากรถึง 1 ใน 3 เป็นเกษตรกร แต่สินค้าเกษตรเราทำรายได้ให้ประเทศ เพียง 8% ต่อปีเท่านั้น สาเหตุเพราะขาดการคิดเชิงกลยุทธ์ และขาด Master Strategic Plan ของประเทศ และปัจจัยสำคัญอีกประการหนึ่ง คือ แยกกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงอุตสาหกรรม และกระทรวงพาณิชย์ ออกจากกัน จึงขาดความร่วมมือกัน

“กระทรวงเกษตรฯ ปลูกอย่างหนึ่ง กระทรวงอุตสาหกรรม แปรรูปอีกอย่างหนึ่ง และ กระทรวงพาณิชย์ ขายอีกอย่างหนึ่ง เป็นแบบนี้มาโดยตลอด แต่ละกระทรวงต่างมีวาระของตัวเอง ขาดการบูรณาการกันอย่างที่ควรจะเป็น เป้าหมายที่ประเทศไทยจะเป็นครัวโลก ผลิตอาหารป้อนโลก เลยเป็นไปได้ยาก” คุณวรวุฒิ กล่าว

คุณวรวุฒิ อุ่นใจ รองหัวหน้าพรรคกล้า หัวหน้าทีมเศรษฐกิจเพื่อคนตัวเล็ก

และว่า ที่ถูกต้องควรเริ่มจากตลาด หรือ กระทรวงพาณิชย์ ก่อนว่า ตลาดในประเทศ จะสนับสนุนการบริโภคอะไร ตลาดต่างประเทศ จะส่งออกอะไร ที่ไหนมีตลาด และโอกาสสำหรับการส่งออกอะไรบ้าง จากนั้นจึงจะมาวางแผนยุทธศาสตร์ร่วมกับ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และกระทรวงอุตสาหกรรม ว่าจะปลูกอะไรเท่าไหร่อย่างไร และจะแปรรูปไปเป็นอะไรเท่าไหร่อย่างไร

“ถ้าทำได้แบบนี้ ชาวนาและเกษตรกรไทย ไม่ควรจะจน เอสเอ็มอีไทย และอุตสาหกรรมไทย ควรจะเฟื่องฟูเติบโตร่ำรวยกันทั่วหน้า ยอดส่งออกและการบริโภคภายในจะผลักดันให้ GDP ไทยเติบโตในระดับ 7-8% ต่อปี ไม่ใช่ 1-2% ต่อปี ก็ดีใจกันจะแย่ว่าไม่ติดลบแบบทุกวันนี้ แต่ทั้งหมดนี้จะเกิดขึ้นได้ คือ ต้องการคนที่คิดเป็น ทำงานเป็น ค้าขายเป็น เข้าไปเป็นรัฐบาล เอานักธุรกิจไปทำงานการเมือง ไม่ใช่เอานักการเมือง มาเซ็งลี้ทำธุรกิจแบบที่เห็นกันอยู่” รองหัวหน้าพรรคกล้า กล่าว