ขึ้นให้หมด! ข้าวสารถุง จ่อขึ้นราคา เดือนมิ.ย.-ก.ค. เหตุปลายข้าวแพง-ผลผลิตน้อย

ขึ้นให้หมด! ข้าวสารถุง จ่อขึ้นราคา เดือนมิ.ย.-ก.ค. เหตุปลายข้าวแพง-ผลผลิตน้อย

วันที่ 17 มี.ค. 65 นายบุรินทร์ ธนถาวรลาภ นายกกิตติมศักดิ์สมาคมผู้ประกอบการข้าวถุงไทย เปิดเผยว่า การสู้รบระหว่างรัสเซียและยูเครนทำให้ไทยไม่สามารถนำเข้าวัตถุดิบอาหารสัตว์ โดยเฉพาะข้าวสาลีจากยูเครน ได้ส่งผลกระทบทำให้ราคาปลายข้าวในไทยปรับเพิ่มสูงขึ้นอย่างมาก ส่งผลทำให้ราคาข้าวนาปรัง ประเภทข้าวขาว และข้าวหอมพวงภายในประเทศ ปรับเพิ่มขึ้น 2-3 พันบาท/ตัน คือปรับจาก 6-7 พันบาท/ตัน เป็น 1 หมื่นบาท/ตัน

เนื่องจากอุตสาหกรรมเลี้ยงสัตว์ในประเทศ หันมาใช้ปลายข้าวขาวในประเทศมากขึ้น โดยในระยะสั้น 1-2 เดือนจากนี้ จะยังไม่ส่งผลกระทบต่อราคาจำหน่ายปลีกข้าวสารบรรจุถุง แต่ในระยะยาวอาจจำเป็นต้องปรับขึ้นราคาข้าวสารถุงตามต้นทุน

“คาดว่าช่วงเดือน มิ.ย.-ก.ค. 2565 อาจจะจำเป็นต้องปรับขึ้นราคาข้าวสารบรรจุ เพราะอีก 1-2 เดือนสต๊อกข้าวสารเก่าจะหมด รวมทั้งช่วงดังกล่าวยังเป็นช่วงที่เป็นช่องว่าง ปริมาณผลผลิตข้าวมีน้อย เนื่องจากข้าวฤดูใหม่จะออกอีกทีราวเดือน ส.ค. 2565”

รายงานข่าวจากสมาคมโรงสีข้าวไทย แจ้งถึงราคาปลายข้าวเดือน ก.พ. 2565 เปรียบเทียบกับล่าสุด ณ วันที่ 17 มี.ค. 2565 ว่า ปลายข้าวขาวเอวันเลิศ ราคาปรับเพิ่มขึ้น 30-50 บาท/กระสอบ (100 กก.) คือปรับจาก 1,130-1,190 บาท/กระสอบ เป็น 1,180-1,220 บาท/กระสอบ และ ปลายข้าวขาวซีวัน ราคาปรับเพิ่มขึ้น 50 บาท/กระสอบ คือปรับจาก 1,000-1,070 บาท/กระสอบ เป็น 1,050-1,120 บาท/กระสอบ

นายธนวรรธน์ พลวิชัย อธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย และประธานที่ปรึกษาศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ เปิดเผยถึงผลกระทบต่อราคาสินค้า จากกรณีการสู้รับรัสเซีย-ยูเครน ที่ส่งผลกระทบต่อราคาน้ำมันเชื้อเพลิงและวัตถุดิบผลิตสินค้านำเข้าของไทยว่า

คาดว่ากระทรวงพาณิชย์จะอนุญาตให้ผู้ผลิตสินค้า ที่ได้รับผลกระทบด้านต้นทุน ปรับขึ้นราคาตามต้นทุนที่แท้จริง ซึ่งคาดว่าจะมีการปรับขึ้นราคาราว 5% เนื่องจากกำลังซื้อของประชาชนยังมีไม่มากนัก แต่อาจจะทำให้เงินเป้าอัตราเฟ้อทั้งปีนี้ปรับเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 3-3.5% สูงกว่าเป้าหมายที่ 2-2.5% แต่ก็ยังไม่น่าจะบั่นทอนกำลังซื้อของประชาชนให้ลดลงมากนัก เนื่องจากประชาชนยังพอมีทางเลือกในการบริโภคสินค้าชนิดอื่นทดแทนสินค้าที่ปรับขึ้นราคา เช่น บริโภคปลา แทนเนื้อไก่ เนื้อหมู และไข่ เป็นต้น

ที่มา ข่าวสดออนไลน์