เด็กไทย เสี่ยงซึมเศร้ามากขึ้น ตั้งแต่ประถม-อุดมศึกษา แต่รับการรักษาครึ่งเดียว

เด็กไทย เสี่ยงซึมเศร้ามากขึ้น ตั้งแต่ประถม-อุดมศึกษา แต่รับการรักษาครึ่งเดียว

ภาวะซึมเศร้าไม่ใช่โรคจิต เกิดขึ้นได้กับทุกคนหากขาดสุขภาวะที่ดีทางจิตใจ แต่ภาวะซึมเศร้ารักษาได้ ซึ่ง จากข้อมูลล่าสุดของกรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข พบว่า เด็กและเยาวชนไทยมีความเสี่ยงต่อภาวะซึมเศร้ามากขึ้น ตั้งแต่เด็กประถมศึกษาจนถึงอุดมศึกษา แต่ได้เข้ารับการรักษาเพียงครึ่งเดียว

รศ.ดร.พวงเพชร เกษรสมุทร หัวหน้าภาควิชาสุขภาพจิตและการพยาบาลจิตเวชศาสตร์ คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวว่า ปัญหาภาวะซึมเศร้าในปัจจุบัน พบได้ตั้งแต่เด็กประถมที่เป็นโรคซึมเศร้าจำนวนหนึ่งให้ข้อมูลว่า เขามีอาการและมีความคิดฆ่าตัวตายตั้งแต่เขาอยู่ประถมศึกษา

ทีมวิจัยมหาวิทยาลัยมหิดล จึงออกแบบเครื่องมือในการส่งเสริมสุขภาวะทางจิตของเด็กและเยาวชน โดยไม่มีข้อจำกัดทางเชื้อชาติหรือศาสนา ภายใต้แบรนด์ “MU MyMind”  เพื่อให้เหมาะสมกับเด็กและเยาวชนในแต่ละระดับ คือ ระดับประถมศึกษา มัธยมศึกษา และอุดมศึกษา โดยมีสถานศึกษาเข้าร่วมการวิจัยจำนวน 6 แห่ง เริ่มจากการลงพื้นที่สำรวจข้อมูล เปิดโอกาสให้เด็ก เยาวชน และผู้เกี่ยวข้องมีส่วนร่วมในการออกแบบและพัฒนาแอพพลิเคชั่นตั้งแต่เริ่มต้น

ปัจจุบัน “MU MyMind” อยู่ระหว่างการพัฒนาและปรับปรุงเพื่อให้ตอบโจทย์ปัญหาและความต้องการของกลุ่มเป้าหมายมากยิ่งขึ้น ซึ่งผลจากการทดลองในเบื้องต้นเป็นที่น่าพอใจ ขณะนี้อยู่ระหว่างการทดลองในระยะที่ 2 และขยายผลสู่สถานศึกษาที่แจ้งความประสงค์ใช้ผลการวิจัย รวมทั้งการสร้างความยั่งยืนในพื้นที่ หากแล้วเสร็จจะได้แอพพลิเคชั่นที่ทำหน้าที่ส่งเสริมสุขภาวะทางจิตใจและป้องกันปัญหาสุขภาพจิตในเด็กและเยาวชนได้อย่างครบวงจร

ตั้งแต่การคัดกรองสุขภาพจิตด้วยการให้ผู้ใช้แอพพลิเคชั่นทำแบบทดสอบประเมินตนเอง ก่อนเข้าสู่โปรแกรมส่งเสริมสุขภาวะทางจิตใจซึ่งพัฒนาขึ้นจากองค์ความรู้ หลักฐานเชิงประจักษ์ และการมีส่วนร่วมของผู้เกี่ยวข้องทุกภาคส่วน ทั้งยังมีระบบบริการให้การปรึกษาแก่เด็กและเยาวชนกลุ่มเสี่ยงอีกด้วย

จุดเด่นของแอพพลิเคชั่น “MU MyMind” คือ การออกแบบให้ระบบสามารถคัดกรองเด็กและเยาวชนกลุ่มเสี่ยงสูงที่ต้องได้รับการดูแลเร่งด่วน เพื่อให้การช่วยเหลือในเบื้องต้นและส่งต่อเข้าสู่ระบบบริการด้านสุขภาพจิตและจิตเวช เพื่อให้เด็กและเยาวชนได้รับการดูแลรักษาที่ถูกต้องเหมาะสมโดยเร็ว เพื่อลดอัตราการเกิดโรคซึมเศร้า ทั้งยังได้ออกแบบให้ระบบแจ้งเตือนเชิญชวนให้เด็กและเยาวชนเข้ามาฝึกและเรียนรู้ในโปรแกรมอย่างต่อเนื่องเป็นเวลา 3 สัปดาห์

เพื่อให้เด็กและเยาวชนเกิดทักษะในการคลายเครียด ตระหนักรู้ในอารมณ์ของตนเอง สามารถจัดการกับความคิดความรู้สึก และมีทักษะในการเผชิญปัญหาอย่างสร้างสรรค์ การฝึกอย่างต่อเนื่องจะช่วยให้เด็กและเยาวชนเกิดทักษะที่สามารถนำไปใช้ในชีวิตประจำวันได้จริง

นอกจากนี้ แอพพลิเคชั่น “MU MyMind” ยังช่วยให้เด็กและเยาวชนเข้าถึงการดูแลสุขภาวะทางจิตใจของตนเองในเบื้องต้นได้ด้วยตนเอง โดยไม่มีข้อจำกัดเรื่องวัน เวลา สถานที่ เด็กและเยาวชนที่มีอาการซึมเศร้าส่วนใหญ่ไม่กล้าไปรับการรักษา ไม่กล้าไปพบจิตแพทย์ เพราะเกรงจะถูกตีตราว่าเป็นคนไข้จิตเวช

ในอนาคต “MU MyMind” จะเป็นทางเลือกหนึ่งสำหรับเด็กและเยาวชนในการประเมินสุขภาพจิตและส่งเสริมสุขภาวะทางจิตใจด้วยตนเอง โดยสามารถเข้าถึงได้ตลอดเวลาและบ่อยครั้งตามความต้องการของแต่ละคน

รศ.ดร.พวงเพชร ยังแนะนำเคล็ดลับในการดูแลตนเองว่า อย่าปล่อยให้ตัวเองตกอยู่ใน หลุมดำ ของความคิดและอารมณ์ ฝึกสังเกตและจัดการกับความรู้สึกด้านลบด้วยการมีสติ รับรู้สิ่งที่เกิดขึ้น รับรู้ความคิด อารมณ์ ความรู้สึกของตน หากพบว่ากำลังตกอยู่ในความทุกข์ ความเศร้า ให้รับรู้โดยไม่ต้องตำหนิตนเองหรือผู้ใด รับรู้แต่ไม่จมอยู่กับความรู้สึกทางลบเหล่านั้น

พยายามดึงสติกลับมาอยู่กับการหายใจเข้า-ออก ลึกๆ ยาวๆ เพื่อผ่อนคลายความตึงเครียด หรือหากิจกรรม/สิ่งที่ชอบทำเพื่อเบี่ยงเบนตัวเองออกจากความรู้สึกด้านลบ หากรู้สึกเป็นทุกข์หาทางออกไม่ได้ ขอให้หาตัวช่วย อาจจะปรึกษาบุคคลใกล้ชิดที่ไว้วางใจ นักจิตวิทยา หรือจิตแพทย์ เพื่อป้องกันการก่อตัวของความเครียดเรื้อรังจนกลายเป็นโรคซึมเศร้า